กาพย์เห่เรือ “กระบวนพยุหยาตราชลมารค ”

อัลมิตรา

 
๏ นารายณ์จำหลักล้ำ...........เลออง-  อาจเฮย
ครุฑยุดนาคทรวดทรง..........สง่าแท้
ลายทองล่องชาดผจง............กระจกแต่ง
ฉัตรพู่ดูเลื่อมแล้..................เลิศริ้วปลิวงาม ๚
๏ นารายณ์หมายเทียบไท้-....สยามินทร์
ทรงครุฑดุจเสด็จดิน-............ถิ่นแคว้น
พระเกียรติแห่งพระจักริน.......ขจัดทุกข์-  เข็ญนา
ทวยราษฎร์ปราศยากแค้น......เนื่องด้วยพระบา-  รมีเอย ๚ะ๛ 

 
๏ เรือเอยเรืองามแท้ .............. ล้วนเลื่อมแล้ทิวแถวงาม
ลอยเด่นกลางชลตาม ............. หลากลักษณ์ล้ำแลเริงใจ
๏ ลอยลิ่วเป็นทิวแถว .............. เหลื่อมล้ำแนวเหลืองอุไร
สีทองผ่องอำไพ .................... แลทางใดล้วนงามสม
๏ พู่ย้อยห้อยระย้า ................. ลวดลายผ้าน่าชื่นชม
ธงฉัตรพัดตามลม .................. เลื่อมวิจิตรโศภิษฐ์แพรว
๏  เรือทองขวานฟ้าคล้อย ..... บรรเจิดลอยนำหน้าแนว
 เรือทองบ้าบิ่น แน่ว ............. แสนปราดเปรียวสุดโสภี
๏ เรือเสือทะยานชล ............ เสือคำรนสินธุ์นาวี
เคียงข้างดั่งเสนี .................... เรือดั้งปรี่มีสองลำ
๏ ตรงกลางเรืออีเหลือง ....... ดูปราดเปรื่องสมน้ำคำ
ฝีพายชายกำยำ .................... ยกแขนจ้วงท่วงช่ำชอง
๏ เรือดั้งสามและสี่ .............. แล่นเร็วรี่มีครรลอง
น้ำเชี่ยวต่างเหลียวจ้อง ............ แหวกธารล่องแคล่วคล่องเกิน
๏ เรือดั้งห้าและหก .............. หากสาธกล้ำจำเริญ
สายน้ำยามยลเพลิน ............... พุ่งดำเนินอย่างยรรยง
๏ เรือตำรวจนอกลิ่ว ............. หลากแพรพริ้วอีกทิวธง
เรือดั้งเจ็ดแปดคง ............... ลอยเคียงคู่อยู่ครบครัน
๏ เรือดั้งเก้าอยู่ซ้าย ............ ลำเลื่อมลายวิไลวรรณ
เรืออสุรปักษีสัณ- ............... ฐานเฉิดฉันนั้นตรึงตา
๏ เรือตำรวจในเคียง ............ ดุจลำเลียงนายกองมา
อีกลำงามโสภา ..................... เกียรติก้องหล้ามานมนาน
๏ อสุรวายุภักษ์ .................. แจ้งประจักษ์เลื่องชลยาน
เรือดั้งสิบแหวกธาร .............. แสนวิกรานต์ห้าวหาญเชียว
๏ เรือดั้งสิบเอ็ดตาม ............ ยังคงความเปรื่องปราดเปรียว
เรือดั้งสิบสองเพรียว ............ แหวกน้ำเชี่ยวช่างว่องไว
๏ กระบี่ราญรอนราพณ์ ........ กระบี่ปราบเมืองมารใด-
คำชมดูสมให้ ........................ ยกคำเปรียบเทียบความงาม
๏ เรื่อยเรื่อยมาเลียบเคียง.......อย่างพร้อมเพรียงมาติดตาม 
คือ  เรือดั้งสิบสาม "............... น่าครั่นคร้ามทั้งยำเกรง 
 เรือดั้งสิบสี่ นั้น......................ขุนพลนั้นช่างกล้าเก่ง 
จ้วงพายอย่างครัดเคร่ง..............ทั้งครื้นเครงทั้งเร่งมือ 
๏ เรือดั้งสิบห้าล่อง...................ความแคล่วคล่องต้องเชื่อถือ 
สุครีพครองเมืองคือ................นามระบือชื่อมงคล 
๏ พาลีรั้งทวีป .........................ดั่งคืนชีพผลาญมารผจญ 
โดดเด่นเห็นงามล้น..................อุกฤษฎ์จนดั่งเวชยันต์ 
๏ เรือหนึ่งซึ่งงามนัก .............. ด้วยรูปลักษณ์จักเสกสรรค์
เรือพระที่นั่งอัน ..................... แสนวิจิตรตระการตา
๏ อนันตนาคราช ................ ล้ำพิลาศคราทัศนา
ลือเลื่องเฟื่องโลกา ................ สุดโสภาคราชื่นชม
๏ เรือดั้งสิบหกคล้อย ........... พลเรือคอยจ้วงพายจม
งัดน้ำยามต้องลม ................... เป็นฟองแตกแปลกตาไป
๏ เห็นเรือดั้งสิบเจ็ด ............. เรือครุฑเตร็ดไตรจักรไกร
เกริกกล้าเรืองวิไล ................. ลอยลำใกล้เรือแตงโม
๏ เรือครุฑเหิรเห็จห้าว .......... เรือดั้งกร้าวสิบแปดโบ-
ราณท่านใช้ฝ่าโต้ ................... ทัพข้าศึกทั้งฝึกปรือ
๏ เรือดั้งสิบเก้าแกร่ง ........... มากเรี่ยวแรงไม่รามือ
พายงัดองอาจคือ .................. คงเกียรติกล้าทหารไทย
๏ เรือดั้งยี่สิบนั้น ................. พลมุ่งมั่นกันเหลือใจ
สำเนียงเสียงขรมไป .............. ล้วนพร้อมใจไม่อ่อนแรง 
๏ เรือดั้งยี่สิบเอ็ด ................ พลใจเด็ดท่าพลิกแพลง
จังหวะคราสำแดง .................. จ้วงน้ำใสพรายกระเซ็น
๏ เรือดั้งยี่สิบสอง ................ แหวกธารท่องล่องลอยเห็น
พลหมู่เสนาเป็น ..................... เช่นเริงร่าเคลื่อนนาวี 
๏ เรือหนึ่งซึ่งเกินย้ำ ............... เรียงถ้อยคำบรรยายมี
รูปทรงบ่งโศภี ....................... ลวดลายที่ผ้าแพรพรรณ
๏ จำหลักล้วนวิไล ................. เรือเอกชัยหลาวทองอัน
วิจิตรเกินรำพัน ...................... ดั่งมุ่งมั่นผลาญไพรี
๏ อีกหนึ่งซึ่งคงเกียรติ์ ............. ดั่งคำเธียรเปรียบเปรยมี
สวยสง่าไร้ราคี ...................... แสนเปรมปรีดิ์เกินบรรยาย
๏ เอกชัยเหิรหาวห้าว ............ ผุดผ่องพราวเปี่ยมประกาย-
แห่งทองอันแพรวพราย ........... กระหนก*ลายให้ตื่นตา
๏ โอ้เรือพระที่นั่ง ................... ทองสุกปลั่งดั่งจันทรา
สมเกียรติ์แห่งราชา ................ ธ ผ่านฟ้าจอมราชัน
๏ พระผู้ทรงพรั่งพร้อม ............ ทวยราษฎร์น้อมมอบชีวัน
จงรักภักดีมั่น ........................ ตราบอาสัญยังมั่นคง
๏ นารายณ์ทรงสุบรรณ ฯ ...... เกินเสกสรรค์คำดำรง
ลายลักษณ์จำหลักลง ............. ความงามคงบ่งฤทธี
๏ นารายณ์สี่กรนั้น ................. เปรียบ ธ มั่นมากบารมี
เมตตาทั้งปราณี ..................... ต่อไพร่ฟ้าประชากร
๏ ศึกใหญ่คือภัยแล้ง .............. น้ำเหือดแห้งแหล่งดินดอน
ธ โปรดอำนวยพร .................. เปลี่ยนทุกข์ร้อนเป็นร่มเย็น
๏ เสกฝนและเสกน้ำ ............... ต่างชุ่มฉ่ำไร้ลำเค็ญ
ชี้ทางห่างทุกข์เข็ญ ................ เช่นคงชีพอย่างพอเพียง
๏ นารายณ์ทรงสุบรรณฯ ....... ดั่ง ธ นั้นเฝ้ามองเมียง
เสด็จไปทั่วไทยเพี้ยง- ............ องค์นารายณ์ไล่อาธรรม์
๏ ยอดเขาสุดเขตแดน ............ ถิ่นยากแค้นแดนใดกัน
ทรงย่างพระบาทพลัน ............. หมายเปลื้องทุกข์มอบสุขใจ
๏ ทวยราษฎร์ต่างแซ่ซ้อง ......... ดังกึกก้องทั้งแดนไตร
ขอองค์ พ่อหลวงไทย .......... ทรงสำราญนิรันดร
๏ เรือพระที่นั่งทรง ................. ประหนึ่งองค์ธราธร
เสกสร้างสถาพร .................... ประสิทธิ์ไว้ในโลกา
๏ เนรมิตวิจิตรนัก .................. แจ้งประจักษ์ให้ตรึงตรา
รื่นรมย์สมอุรา ....................... ดุจหงส์ฟ้าสิวาลัย
๏ คือ เรือสุพรรณหงส์ ......... อันสูงส่งคงคู่ไทย
ล้ำหล้าเกริกเกรียงไกร ............ ยากร่ายเทียบหมายเปรียบความ
๏ หงส์ทองล่องสายชล ........... น้ำใสจนเห็นแวววาม
ต้องแสงสำแดงภาม ............. ชดช้อยตามคำกล่าวชม
๏ ธงฉัตรพู่ระย้า .................... ยิ่งโสภาคราต้องลม
เพริศพลิ้วปลิวสวยสม ............. แสนรื่นรมย์ชื่นชมพลัน
๏ เหล่าหมู่ฝีพายมาก .............. แต่งกายหลากหากวาววรรณ
พายงัดยกครบครัน ................ ดูแข็งขันพร้อมเพรียงจริง
๏ จังหวะกาพย์เห่ก้อง ............. ท่วงทำนองพ้องอ้างอิง
ถ้อยเสนาะยังเพราะพริ้ง .......... รับกรับฉิ่งยิ่งกังวาน
๏ เอื้อนอ้างดั่งเวทย์มนต์ ......... ศักดิ์สิทธิ์ดลให้เบิกบาน
เพราะแท้แต่โบราณ ............... เช่นกลอนกานท์ฉันท์กาพย์โคลง
๏ ลอยเด่นเห็นงามสง่า ............ ทองเลื่อมตาผ้าแพรโพลง
จำหลักลวดลายโยง- .............. คล้ายคงชีพรีบเริงชล
๏ คือเรือพระที่นั่ง .................. งามสะพรั่งนภมณฑล
เอนกชาติภุชงค์ ดล ............. งดงามล้นพ้นรำพัน
๏ ฉัตรตั้งตระหง่านงาม ............ ภูษาวามวิลาวัลย์
แต่งเรือดูครบครัน .................. ฝีพายมั่นนั้นพร้อมเพรียง
๏ สวมหมวกกลีบจำปา ............ ช่างแปลกตาคราระเรียง
จ้วงพายคล้ายสำเนียง ............. ร่ายคำเจรียงเยี่ยงปรีดา
๏ เรือแซง เจ็ดลำล่อง .......... ฝีพายคล่องยามยาตรา
นายท้ายหมู่เสนา ................... นุ่งผ้าใหม่ใส่ไหมงาม
๏ แต่งกายลวดลายหลาก ........ พลหมู่มากหากมองตาม
เลื่องลือระบือนาม .................. พรักพร้อมยามจ้วงจ้ำพาย
๏ บรรพชนคนกร้าวแกร่ง ......... มุ่งสำแดงเกียรติกำจาย
ไล่ล่าไพรีพ่าย ...................... สมชาติชายนายทหารเรือ
๏ เรือตำรวจกรมวัง .............. คุมพลหลังดังจุนเจือ
ตรวจตรามาช่วยเหลือ ............. หวังเพียงเพื่อความปลอดภัย
๏ นับได้ห้าสิบสอง ................. เรือลอยล่องชลาลัย
โอ้แสนอวดศักดิ์ไทย .............. อันยิ่งใหญ่ในคงคา
๏ เลิศศิลป์ล้ำศาสตร์สร้าง ........ เด่นสล้างอวดศักดา
ยังสุขทุกครั้งครา ................... ตรึงตราภาพมิลืมเลือน
๏ บุญแท้เกิดเป็นไทย ............. แสนสุขใจหาใดเหมือน
มากสุขทุกครัวเรือน ............... ใต้ร่มหล้าพระบารมี
๏ ขอเทิดทูนบูชา- .................. พ่อหลวงฟ้าจอมจักรี
จงรักและภักดี ....................... ตราบสิ้นฟ้ากว่าสิ้นลม ๚ะ๛

 				
comments powered by Disqus
  • พนาไพร

    21 ตุลาคม 2546 00:51 น. - comment id 175204

    โห  ไวจังนะครับพี่อัล  กระบวนพยุหยาตราทางชลมารคเพิ่งจบพี่ก็แต่งมาแล้ว  เอ๋ครบเปล่าเนียนับก่อน  1 2 3 4 ... (โอ้ยเยอะ นับไม่หมด)
    
    อิอิอิ
  • ม้าก้านกล้วย

    21 ตุลาคม 2546 01:14 น. - comment id 175205

    สมบูรณ์แบบ จริง ๆ เลย แต่ ช้ากว้า ของ ผม หน่อยนึง 5555
  • tiki

    21 ตุลาคม 2546 03:09 น. - comment id 175210

    เยี่ยมมากกค่ะ
    คุณอัลมิตรา
  • วฤก

    21 ตุลาคม 2546 10:59 น. - comment id 175225

    เยี่ยมยอดเลยครับ ...
    
    แต่ขาดไปเรือหนึ่งครับ 
    
    ... เรือลิงวิ่งชิงหลัก.........ลอยยึกยักชักซ้ายขวา
    หนูลิงวิ่งลิ่วมา................พาพลพายท้ายกระบวน ฯ
    
    แหะ ๆๆๆๆ
    
  • ตะเอ๋า

    21 ตุลาคม 2546 11:37 น. - comment id 175226

    สุวรรณหังส์ ครั้งลอยคลอง
    ให้แขกมอง ร้องฮูโล
    ลอยฝ่า ปลาชะโด
    ที่ไล่ฟัด กัดเสือตอ
    นายท้าย พายด้วยใจ
    ส่งเสียงไส ไม่รีรอ
    ยามพระ ศศิทอ
    สิริแสง แพร่งโสภี
    โอ้เอ้ เร่ล่องธาร
    เรือทะยาน ผ่านวารี
    ตามกระแส แลทุนนี-
    ยม รุ่งเรืองและเฟื่องฟู
    วัฒนธรรม ประจำไทย
    มองเมียงไป ในสินธู
    กุ้งหอย พลอยได้ดู
    ฟูฟ่าแท้ แม้ขัดสน
    พรุไฟ ในฟากฟ้า
    เสียง สร้านส้า นภาดล
    เทวดา ทั่วสากล
    ยลว่าแสง แข่งกลางวัน
    โคมไฟ ไหม้อากาศ
    งาม ผุดผาด พาดสวรรค์
    ล่องลิ่ว พริ้วตามกรรม์
    ควันเฟื่องฟุ้ง รุ่งเรืองงาม
    กระทง สรง วารี
    เพลิงอัคคี สีวาววาม
    หมื่นเปลว เร่งเร็วตาม
    ล้นหลามรอ ล้อ นที
    ดูดูในสาย ธาร
    เพียงพิมาน ม่านวารี
    เงาองคะเจดีย์
    ที่สะท้อน อ้อนจิตรหลง
    เรื่อยเรื่อยมาเรียบเรียบ
    งามพร้อมเพียบ เงียบซาลง
    คงไว้ให้งวยงง
    สงสัยเล่น เซ่นสิ่งใด
    
    
    
    
  • ตามฝัน

    21 ตุลาคม 2546 13:44 น. - comment id 175237

    โอ้โห.. สุดยอดมาก ๆ เลยค่ะพี่ นับถือ ๆ :)
    
    
  • อัลมิตรา

    21 ตุลาคม 2546 13:58 น. - comment id 175238

      คุณพนาไพร.. จากกาพย์ที่เขียนไว้มีทั้งหมด ๕๒ ลำ ค่ะ
    
    มีกระบวนเรือแค่ ๕๐ ลำเพื่อไม่ให้ทัดเทียมกับ กระบวนใหญ่ ทัดเทียมกับองค์พระมหากษัตริย์ ทางกองทัพเรือจึงใช้เรือที่จัดแสดงในครั้งนี้ ๕๐ ลำ จาก ๕๒ ลำ 
    
    โดยแบ่งเป็นเรือพระที่นั่ง ๒ ลำ คือเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ กับเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙ , เรือรูปสัตว์ต่างๆ อีก ๑๒  ลำ พร้อมเรือดั้งเรือแซงอีก ๓๖ ลำ 
    
    ส่วนเรือที่ตัดออกไปนั้นคือเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ซึ่งเป็นเรืออัญเชิญพระไตรปิฎก และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ซึ่งเป็นเรือพระที่นั่งรองสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์
    
    คุณม้าก้านกล้วย.. อั่นแน่ นับตัวหนังสือกันดีไหมคะ อัลมิตราเขียนตั้งหลายบทเชียวนา ..  
    
    คุณทิกิ.. ขอบคุณมากค่ะ  
    
    อาหมอวฤก.. มีนะคะ เรือลิงมีตั้งหลายลำเชียว นั่นถือว่าเป็นวีรบุรษลิงเชียวนะคะ  
    
    ตะเอ๋า ... อ่านแล้วต้องอมยิ้มกับอารมณ์ที่ชวนป่วนใจเหลือเกิน ..  
    
    คุณตามฝัน .. ขอบคุณมากค่ะ 
    
  • ราม ลิขิต

    21 ตุลาคม 2546 16:29 น. - comment id 175246

    อัลมิตราหลานรัก..
    
    
    กระบวนเรือล่องไปในสายชล           กระหึ่มเห่ธราดลตระหนักว่า
     ประเทศไทยเรือนเหย้าเจ้าพระยา      ยิ่งด้วยกฤษฎามาแต่เดิม
     เอนกขนบประเพณี                           เป็นศักดิ์บุรีมาแต่เริ่ม
     ใต้เหนือออกตกอนันต์เติม                กลางศรีส่งเสริมสยามมา
    
    สุพรรณหงส์เหมราช      พู่พิลาสล่องลินลา
     แช่มช้อยลอยลือชา        เสียงเห่ชวนสรวลชื่นชม
     นารายณ์ทรงสุบรรณ       สี่กรสรรค์ครุฑกวักลม
     ก่องเก็จเสด็จสม            สมุทรสายดั่งว่ายหน
    
     รัตนล่อง         กองชลเทพ
      สุขมนเสพ       ชื่นภวชล
      โห่สุรเห่          หอมสุวคนธ์
      ใจระอุจน        น้ำทะลุตา  
    
    
    
  • rain..

    21 ตุลาคม 2546 19:23 น. - comment id 175258

    เก่งจังเลยคะ...พี่อัลมิ...
      เรน..แวะมา..ชื่นชม...พี่อัลมิ..นะคะ...
  • ชัยชนะ

    21 ตุลาคม 2546 21:39 น. - comment id 175268

    แวะมาชม ร.เรือพายไป
    บอกคำเดียวว่า สวย (ตีความเองนะครับ)
    
    
  • windsaint

    21 ตุลาคม 2546 22:05 น. - comment id 175271

    กะลังจะมาบอกว่าขาดไปสองลำ
    แต่เจ้าตัวบอกไปแล้ว อิอิ
    
    มาชื่นชมความงามด้วยคนครับ
  • พี่ดอกแก้ว

    21 ตุลาคม 2546 23:06 น. - comment id 175284

    ....ขอเทิดทูนบูชา.........พ่อหลวงฟ้า จอมจักรี 
    จงรักและภักดี.............ตราบสิ้นฟ้ากว่าสิ้นลม 
    
    
    ... งดงามและไพเราะยิ่ง..
    ประทับใจมากกับบทประพันธ์ขนาดยาวที่คงความหมายไว้ทุกบท... (ประทับใจมาตั้งแต่ ..คนบาปฯ..แล้วละค่ะ)
    
    ลองนำมาเห่กันบ้างดีไหมคะ ...พี่ดอกแก้วจะเป็นลูกคู่ให้
    
  • ใบบอนแก้ว

    21 ตุลาคม 2546 23:07 น. - comment id 175285

    ....สวยงามมากครับ..สำหรับบทกวี...
    
    ......................สวัสดีครับ..............
  • อัลมิตรา

    21 ตุลาคม 2546 23:44 น. - comment id 175290

    คุณลุงราม .. :)
    
    น้องเรน .. ขอบคุณมากจ๊ะ
    
    คุณชัยชนะ .. บอกคำเดียวว่าสวย และให้ตีความ .. ขอบคุณค่ะ ที่ให้การบ้านมาชวนคิด(อีกแล้ว)
    
    เจ้าลม .. อั่นแน่ .. ถ้าไม่รู้แกวกัน จะเป็นพี่น้องกันได้เหรอจ๊ะ
    
    พี่ดอกแก้ว .. ยินดีค่ะ พี่ดอกแก้วเริ่มก่อนได้เลยค่ะ อัลมิตราจะเห่ตามเองค่ะ
    
    คุณใบบอนแก้ว ..
    
    งามคำบรรยายลักษณ์ 
    จักสลักแน่นหทัย 
    ชั่วกัลป์มิคลาไคล 
    บันทึกไว้ความทรงจำ ... 
    
    
    ...มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ...
  • ลำน้ำน่าน

    22 ตุลาคม 2546 08:36 น. - comment id 175333

    ตามมาเห่เรือกับพี่อัลมิตรา  คงจะไม่สายนะครับ  เพิ่งจะกลับจากต่างจังหวัด เข้ามาอ่านบทนี้แทบจะตกเก้าอี้เลยครับ ตกใจมาก อลังการณ์และงดงามอย่างยิ่งเลยครับ น่าจะลองเห่ดูเหมือนที่พี่ดอกแก้วว่านะครับ  ผมจะอาสาเป็นลูกคู่ให้อีกคนครับ
  • ***

    22 ตุลาคม 2546 10:29 น. - comment id 175352

    ได้แต่เขียนว่าอลังการเหลือเกินครับ กับบรรยากาศที่ได้เห็นจากทีวีของคืนวันก่อน และวันนี้ยังไม่ทันที่ความรู้สึกปีตินั้นจะเลือนไปก็ต้องอิ่มเอมอีกครั้ง ภาพข้างบนที่ประกอบถึงจะไม่ใช่ภาพของคืนวันที่ 20  แต่ก็ตระการตาถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต 
    เห็นคนอื่นอาสาเป็นลูกคู่เห่เรือ ผมอาสาเป็นฝีพายให้ครับ
  • ใยไหม

    22 ตุลาคม 2546 12:42 น. - comment id 175363

    โห..งดงามจริง  อ่านบทกวีของสาวเจ้าอัลมิตราทำให้นึกเห็นภาพเลย  อยากกลับไปดูใหม่อ่ะบรรยายได้งดงามเจง  เจง  เมื่อไหร่หนอข้าเจ้าจะแต่งกวีได้ไพเราะเยี่ยงละเพ่ท่าน  ....
  • vaproud

    22 ตุลาคม 2546 16:05 น. - comment id 175388

    ขอคาระวะ
    ...เยี่ยมยอดเลยค่ะอัลมิตรา
  • เม่า

    22 ตุลาคม 2546 20:34 น. - comment id 175448

    สุดยอดครับ  
    ผมชอบจริงๆ เลย
    
  • อัลมิตรา

    22 ตุลาคม 2546 21:20 น. - comment id 175459

    คุณลำน้ำน่าน .. ขอบคุณมากค่ะ เก้าอี้ซ่อมให้แข็งแรงนะคะ จะได้ไม่ทำให้คุณร่วงลงมา :)
    
    คุณสามดาว ..ขอบคุณมากค่ะ อัลมิตราอยากไปดูของจริงมากๆ แต่ไม่มีโอกาส วันนั้นต้องรีบทำงานเพื่อกลับบ้านให้ทันเวลา เห็นในทีวีแล้วรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ และภาคภูมิใจกับการเป็นคนไทยเสียเหลือเกิน 
    
    ยัยไหม .. ค่อยๆอ่านและลำดับภาพตามนะจ๊ะ อัลมิตราพยายามเขียนให้ครบ โดยเรียงลำดับเรือตามกระบวนพยุหยาตรา ..ขอบคุณนะจ๊ะ
    
    คุณวาพราว ..ขอบคุณมากค่ะ
    
    คุณเม่า ..ขอบคุณมากค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
    
    :) 
    
    
  • น้ำตากับท้องฟ้าสีคราม

    23 ตุลาคม 2546 13:59 น. - comment id 175660

    สุดยอด บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดจริงๆ แบบว่าอ่านไม่ค่อยทันเลยยาวมากๆๆๆ แต่ก็เป็นกาพย์เห่เรือที่....สุดยอดไปเลยค่ะ....ขอชื่นชมจากใจจริงค่ะ คุณอัลมิตรา
    
    it so extremely marvellous poetry that i ever read.  Youre just great!!!!
    ***^0^***  ^__^
  • อัลมิตรา

    23 ตุลาคม 2546 21:09 น. - comment id 175710

    ขอบคุณมากค่ะ คุณน้ำตากับท้องฟ้าสีคราม ...ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
    
    :) 
    
    
  • หมึกมรกต

    24 ตุลาคม 2546 22:37 น. - comment id 175938

    พึ่ง กลับมาจากการออกฝึกภาคสนาม
      แวะมาเป็นกำลังใจให้พี่สาวที่น่ารักครับ
         พี่สาวแต่งกลอนได้ไพเราะมาก ถ้ามีเวลาว่างสอนเทคนิคหน่อยนะครับ ...
  • อัลมิตรา

    25 ตุลาคม 2546 01:33 น. - comment id 176047

    ขอบคุณมากค่ะ คุณหมึกมรกต .. 
    
    :)  รออ่านของคุณเช่นกันค่ะ
  • ผู้เฒ่า...ที่โง่งม.

    22 มกราคม 2547 14:25 น. - comment id 206008

    มาอ่าน..สมแล้วกับการภูมีใจ...
    หัวกวีของเรา ยังฝังอยู่ลึก..รดน้ำทิพย์จากฟ้า ก็ยากจะงอกงามได้..ไม่ก็คงแห้งตายไปแล้ว...
    แสงจันทร์สว่างไสว...มันต่างจากถุงผ้าบนบ่าเรานัก...สวัสดี.
  • อัลมิตรา

    25 มกราคม 2547 03:29 น. - comment id 207377

    ท่านผู้เฒ่าที่เคารพ..
    
    แววกวีของท่านเพียงแค่ปัดฝุ่นอีกสักน้อย สิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ก็จะเปล่งประกายจ้า .. อัลมิตรายังต้องขยันขันแข็งอีกมากนัก กว่าจะเทียบคำได้ .. แสงจันทร์ ณ ราตรี ถึงจะสว่างไสว หากแต่บางคราหาได้เต็มดวง ไยจะเทียบรังสิมันต์จ้าทุกทิวา...เช่นท่านผู้เฒ่า ..
  • ทักทาย

    8 มิถุนายน 2547 07:33 น. - comment id 281779

    .../|\...          
    
    อรุณสวัสดิ์ คุณอัลมิตรา คุณ คุณ ทุกท่าน  
    
    คุณแต่งไพเราะมาก ทักชอบจังค่ะ ขอร่วม...อนุรักษ์ กวีของไทยเรา  รวมถึง ประเพณี และ วัฒธรรม งามๆของไทยเรา ให้สืบทอดชั่วลูกชั่วหลาน และตลอกไป ...   ด้วยคนนะคะ    
     
    ขอบคุณค่ะ   .....................  ทักทาย
  • ซองอา

    9 พฤศจิกายน 2550 18:43 น. - comment id 315673

    ช่วยหากาพย์เห่เรือปี2550หน่อยสิคะต้องเอาไปทำงานอะค่ะนะค่ะ
    6.gif6.gif
  • สิทธิพร ไชยเดช

    4 มิถุนายน 2549 18:02 น. - comment id 414605

    สุดยอดมาก  โอ้มายกอด  อยากให้ช่วยกันสืบทอดสิ่งที่งดงามของไทย   อย่างเรือสุพรรณหงส์  และประเพณีไทยให้คงอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน
    16.gif16.gif58.gif46.gif48.gif56.gif
  • คนหล่อ

    5 มิถุนายน 2549 13:39 น. - comment id 414607

    ควรสืบทอดกันต่อไปนะงับ10.gif20.gif19.gif72.gif74.gif8.gif
  • คนหล่อสุดยอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    5 มิถุนายน 2549 13:43 น. - comment id 414608

    เค้าบอกกันว่าจะไม่มีกษัตริย์องค์ต่อไปแย้วหงะ10.gif15.gif34.gif51.gif69.gif70.gif55.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน