...ทิ้งทวนค่ะ...กลอนนี้เป็นกลอนสุดท้ายของตู่นุดี...ลาก่อน thaipoem ... กล่าวถึง ชีซี บัณฑิตผู้อาภัพ ถูกตามจับไล่ฆ่าอำมหิต โชคยังดีมีปัญญาช่วยชีวิต ฟ้าลิขิตแกล้งบ้าบอหนีต่อไป พบเจ้าอาเล่าปี่มีเมตตา หวังอยากได้ที่ปรึกษาช่วยแก้ไข ปัญหาแผ่นดินลุกเป็นไฟ เหตุไฉนฮ่องเต้เขลาเบาปัญญา พบชีซี เล่าปี่ลงกราบไหว้ บัณฑิตชีซีแปลกใจ ..ทำไมหนา?.. เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ให้สงกา พระเจ้าอาคำนับข้าทำไมกัน จึงแกล้งทัก ..ม้าของท่านยอดอาชา แต่มีแววดวงตาน่าโศกศัลย์ หางตาตกรอยน้ำตาหยดลงพลัน รีบฆ่ามัน เดี๋ยวมีเหตุแต่เภทภัย.. เล่าปี่ไม่เชื่อชีซีบอก ..ไม่ดีดอก ฆ่ามันข้าหวั่นไหว เพราะมันช่วยให้ข้ารอดจากผองภัย ที่ใครใครคิดร้ายหมายชีวี.. ชีซีดีใจให้ชมชอบ รีบนบนอบก้มลงกราบเล่าปี่ ทั้งสองสุขเกษมแสนเปรมปรีดิ์ ต่างนิยมยินดีกันและกัน วันหนึ่งทัพโจโฉยกมาปราบ ให้ราบคาบสิ้นบุญญาถึงอาสัญ คนแซ่เล่าทั้งตระกูลสูญเผ่าพันธุ์ จะฆ่ามันให้ราบเป็นหน้ากลอง กุนซือหนุ่มชีซีดีใจใหญ่ จึงขึ้นไปบนเชิงเทินเพลินสอดส่อง คิดยินดีปรีดาน่าสมปอง ตั้งค่ายกุญแจทองอยู่หน้าเมือง ทัพโจโฉย่ำแย่พ่ายแพ้สิ้น แต่ได้ยินเกียรติศัพท์เขาลือเลื่อง ชื่อชีซีที่ปรึกษาไม่เปล่าเปลือง ให้ขุ่นเคืองในใจหวังได้มา ทำอย่างไรจะได้ตัวมาใช้งาน จึงเชิญท่านเทียหยกที่ปรึกษา กุนซือเก่งคิดได้ทันเวลา รีบควบม้าจับตัวแม่ชีซี เทียหยกเร่งรีบกลับมาตามทาง หวังให้นางเกลี้ยกล่อมลูกชายหนี ฮูหยินเฒ่ารู้ทันในงานนี้ ด่าไป ..ไอ้โจรผี เลวสันดาน! .. โจโฉกริ้วโกรธนักหัวฟัดเหวี่ยง จะไม่เลี้ยงดูแลนางให้อาจหาญ เทียหยกว่องไวจัดรีบทัดทาน ..อย่าประหารนางเลยหนา โปรดการุณ.. ชีฮูหยินหลงวาจาว่าเทียหยก เขียนจดหมายยอยกที่เกื้อหนุน มีข้อความเป็นทำนองว่าขอบคุณ ผู้ใจบุญเมตตาเราผู้เฒ่าชรา เทียหยกคิดอุบายแสนอุบาทว์ หมายมาดฆ่าชีซีเลยนั้นหนา แอบคัดลอกลายมือแม่เฒ่ามา ส่งสาราว่าวอนแม่ร้อนใจ ..บัดนี้ตัวแม่แสนรันทด สุดจะอดทนทานต้านไม่ไหว เจ้าลูกน้อยช่วยแม่เร่งเร็วไว โจโฉใช่อื่นไกลพวกเดียวกัน.. ซุนเขียนที่ปรึกษาฝ่ายเล่าปี่ จรลีรู้ข่าวคราวไหวหวั่น ไม่ได้การ ต้องฆ่าชีซีมัน ไม่ให้ไปพัวพันช่วยศัตรู เล่าปี่ฉุนเฉียวโกรธเกรี้ยวใหญ่ ตวาดไป ..ท่านยังเบาปัญญาอยู่! ชีซีเป็นคนดี ท่านไม่รู้ ไม่ลืมหูลืมตา บ้างหรือไร?.. บัณฑิตหนุ่มชีซีต้องจำจาก ต้องพลัดพรากจากเล่าปี่ผู้เป็นใหญ่ ให้สัตย์ปฏิญาณอยู่ในใจ จำต้องไปตามคำแม่แย่จริงเรา พอไปถึงเมืองหลวงของโจโฉ ถึงรู้ตัวว่าโง่ต้องกลเขา มีแต่ความช้ำชอกมิใช่เบา จนแม่เฒ่าตรอมจินต์สิ้นใจตาย เรื่องสามก๊กตอนนี้มีข้อคิด ชี้ความถูก-ความผิดอยู่มากหลาย ท่านผู้อ่านลองคิดอภิปราย มีความหมายแฝงไว้ให้ตรองดู.
2 พฤษภาคม 2546 21:43 น. - comment id 134553
ลาทีมิใช่ลาก่อน
2 พฤษภาคม 2546 21:45 น. - comment id 134555
+++น้อมคารวะ ล่อกวนตง ที่ได้ประพันธ์นิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่องเยี่ยมไว้เป็นวรรณกรรมชิ้นเอกของโลกค่ะ +++น้อมสดุดี พระยาพระคลัง (หน) ได้แปลสามก๊กมาเป็นภาษาไทย จนได้เป็นวรรณกรรมประเภทร้อยแก้งดีเด่นชิ้นหนึ่งของไทยค่ะ
2 พฤษภาคม 2546 22:00 น. - comment id 134569
หุหุ สามก๊ก
2 พฤษภาคม 2546 22:03 น. - comment id 134573
***แม้นตามส่งหมื่นลี้ก็ต้องจากกันอยู่ดี ดังท่านว่า ลาทีมิใช่ลาก่อน แม้นกายจากไกลใช่ว่าใจจากกัน ทวนเล่มนี้ของท่านเก็บไว้ที่ข้ามาเอาคืนได้ทุกเมื่อ...รักษาตัวด้วย***
2 พฤษภาคม 2546 22:17 น. - comment id 134587
งานเลี้ยงจัดพันวัน ก้อต้องมีการเลิกรา อยู่ที่ว่าเราจะลากานแบบ เมาอาละวาด หรือ จาชนแก้วลากานด้วยความจริงใจในไมตรี ใช่ว่าาหมดงานนี้งานต่อปายจาม่ายมีจัด จิงป่ะฮับบบบบบบบ
2 พฤษภาคม 2546 22:57 น. - comment id 134625
ชีซ๊ หรอ เราชอบขงเบ้งอะ อิอิ
3 พฤษภาคม 2546 00:09 น. - comment id 134664
อ้าว ตู่ เดี่ยวซิ ไม่เคลียร์นะ จะไปไหน ทำไมต้องไปด้วยล่ะ ทำไมต้องสุดท้ายของตู่นุดี อ๋อ พี่รู้แล้วตู่จะเปลี่ยนนามปากกาใหม่ใช่ป่าวอ่ะ พี่ไม่อยากให้ไปนะ. . . .อยู่เเต่งกลอนให้พี่อ่าน และก็อยู่อ่านกลอนพี่ก่อน. . แหะๆ (จับมือน้องตู่ไว้. . . .อยู่ต่อนะๆๆ) =^__________^=
3 พฤษภาคม 2546 01:40 น. - comment id 134721
จาลาไปไหน อ๊ะนะ
3 พฤษภาคม 2546 06:51 น. - comment id 134740
เก่งจัง ... ไปแล้ว อย่าไปลับนะคะ ...
3 พฤษภาคม 2546 16:48 น. - comment id 134847
...จะไปไหนค่ะ พึ่งจะทำความรู้จักเองนะค่ะ