๔๑. ..... สุริยเทพเที่ยงตั้ง-........................ตรงหัว สิริที่ชมชัว*........................................เนื่องนั้น สถิตอยู่พอรู้ตัว..................................หรือไม่ นาพ่อ เปรื่องปราดอาจปิดกั้น........................มอดม้วยมรณา ๚ ๔๒. ..... สายัณห์หลังเคลื่อนคล้อย..............อัสดง วิหคผกผินตรง...................................เยี่ยมเหย้า ราศรีที่จำนง.......................................สถิตที่- ใดนา ขอท่านพ่อหนุ่มเหน้า...............................อย่าให้คอยนาน ๚ ๔๓. ..... เราขอเจ็ดชั่วคล้อย.......................สุรีย์ฉาย จักคิดปริศนาคลาย..............................ขุ่นข้อง หากพลาดจักขอตาย............................ทูนมอบ - เศียรนา คำสัตย์เสียงกู่ก้อง................................เทพฟ้าเป็นพยาน ๚ ๔๔. .....จนจิตจนจับไข้...............................คร่ำเคร่ง- เฉลยแฮ กาลล่วงกาลเลยเกรง...........................กลัดกลุ้ม ย่ำค่ำย่ำคืนเหง*...................................ห่อนสุข ปราศพิชญ์ปราดเปรื่องคุ้ม.....................คลาดแคล้วยมบาล ๚ ๔๕. .....ห้าวันกาลเปลี่ยนแล้ว.......................ยังฉงน สิริที่ขวายขวน.....................................หลบเร้น ธรรมบาลหลีกสับสน............................มุ่งทุ่ง- นาเฮย มือก่ายหน้าผากเขม้น-............................จากผู้ปราศรัย ๚ ๔๖. .....เอนหลังใต้ต้นเดี่ยว.........................ตาลนา สองเหยี่ยวเมียผัวครา..........................หยอกเย้า เมียนกกล่าววาจา................................ถามต่อ- ผัวเฮย วันพรุ่งยามรุ่งเช้า...............................จักได้ภักษา ๚ ๔๗. ..... มิต้องลอยล่องฟ้า.........................ปีกสยาย เนื่องจากธรรมบาลตาย.........................แน่แท้ พรหมฯเฒ่าจักมุ่งหมาย.........................เข่นฆ่า พ่อเฮย เพราะมิอาจคิดแก้................................กล่าวข้อปัญหา ๚ ๔๘. ..... เหตุไฉนมล้างซึ่ง..........................เยาวพาน ปราศจิตเมตตาผสาน..........................โหดร้าย ฤาเป็นเช่นมรณกาล.............................ของพ่อ- หนุ่มนา พี่ท่านขอจงส้าย*................................ตอบถ้อยคำเฉลย ๚ ๔๙. ..... กุมารจักสิ้นชื่อ.............................เกียรติขจาย คอขาดชีวาวาย...................................ดับดิ้น ล่วงกาลเจ็ดวันปลาย...........................กำหนด ครุ่นคิดปริศนาสิ้น................................มืดคล้ายหมอกบัง ๚ ๕๐. ..... ปัญหาข้อหนึ่งนั้น.......................จักเฉลย ยามรุ่งราศีเผย.................................ที่หน้า ตื่นเช้าอย่าละเลย..............................ก่อนมุ่ง- การนา ชำระมลทิลถ้า...................................ผ่องแล้วจักงาม ๚
14 เมษายน 2546 11:29 น. - comment id 126321
ขอต่อก่อนจ้า
14 เมษายน 2546 14:22 น. - comment id 126367
....มีโคลงกลให้ศึกษาด้วย...ดีมากครับ...คุณอัลมิตรา...โดยเฉพาะ..บทที่๔๔.... ....ปุจฉา...ตอนเช้าราศรีอยู่ที่ไหน... ....วิสัชนา...กรุณาอ่านในตอนต่อไป.. .............สวัสดีครับ...............
14 เมษายน 2546 19:45 น. - comment id 126421
เริ่มมีคำตอบแล้ว..อ่านต่อนะ..
15 เมษายน 2546 15:58 น. - comment id 126595
ให้กำลังใจเสมอครับ
16 เมษายน 2546 12:36 น. - comment id 126824
๔๑. ..... สุริยเทพเที่ยงตั้ง-.....................ตรงหัว สิริที่ชมชัว*.................................เนื่องนั้น สถิตย์อยู่พอรู้ตัว.............................หรือไม่ นาพ่อ เปรื่องปราดอาจปิดกั้น........................มอดม้วยมรณา ๚ สถิตนะยะมาอีกละ ฮือ ฮือ ฮือ ๔๒. ..... สายัณห์พลันเคลื่อนคล้อย...............อัสดง วิหคผกผินตรง................................เยี่ยมเหย้า ราศรีที่จำนงค์.................................สถิตย์ที่- ใดนา ขอท่านพ่อหนุ่มเน้า............................อย่าให้คอยนาน ๚ คำว่าพลันเนี่ยไม่ควรใช้ เพราะไม่ได้เน้นว่าพระอาทิตย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันทันที ใช้ หลัง ไปละกัน จำนง ที่มี ค เนี่ย มีคนเดียวจ้า ท่านจำนงค์ ราชบัณฑิตคนนั้นแหละ จำนงทั่วไปไม่มี ค จ้ะ , คำว่าสถิต เลิกพูดดีก่า ใช้หนุ่มเหน้าดีก่านะ อิอิ ๔๓. ..... เราขอเจ็ดชั่วคล้อย......................สุรีย์ฉาย จักคิดปริศนาคลาย.............................ขุ่นข้อง หากพลาดจักขอตาย...........................มอบซึ่ง- เศียรนา คำสัตย์ดังกู่ก้อง...............................เทพฟ้าเป็นพยาน ๚ ไปคัดคำว่าสถิตมา ๑๐ หน คำว่า มอบซึ่ง ขอแก้เป็น ทูนมอบ ละกัน บาท ๔ ความไม่เพราะ ขอแก้เป็น..คำสัตย์เสียงกึกก้อง.. ๔๔. .....จนจิตจนจับไข้............................คร่ำเคร่ง- เฉลยแฮ กาลล่วงกาลเลยเกรง...........................กลัดกลุ้ม ย่ำค่ำย่ำคืนเหง*..............................ห่อนสุข ปราศพิชญ์ปราดเปรื่องคุ้ม.....................คลาดแคล้วยมบาล ๚ บทนี้เพราะดีครับ แต่จำไม่ยักได้ว่าอีตาคนนี้ไข้ขึ้น ฮี่ฮี่ฮี่
17 เมษายน 2546 17:18 น. - comment id 127452
๔๕. .....ห้าวันกาลเปลี่ยนแล้ว......................ยังฉงน สิริที่ขวายขวน.................................หลบเร้น ธรรมบาลหลีกสับสน............................มุ่งทุ่ง- นาเฮย มือก่ายหน้าผากเว้น-...........................จากผู้ปราศรัย ๚ เกือบดีแล้วเชียวนะ มาติดตรงคำว่า เว้น เนี่ยแหละ แบบว่าความไม่ค่อยคล้องกันครับ ลองพิจารณาคำว่า เขม้น ดูละกัน แล้วไปแก้มานะ อิอิ ๔๖. .....เอนหลังใต้ต้นเดี่ยว........................ตาลนา สองเหยี่ยวเมียผัวครา..........................หยอกเย้า เมียนกกล่าววาจา...............................ถามต่อ- ผัวเฮย วันพรุ่งยามรุ่งเช้า...............................จักได้ภักษา สถานใด ๚ ไม่รู้นะ ผมไม่ชอบสร้อยเลย นาน ๆ ครั้งถึงจะเห็นสร้อยดี ๆ ซักกะที อาจจะเนื่องมาจากรู้สึกว่า การที่เราใส้สร้อย เป็นเพราะเราใส่ความไม่หมดก็ได้ เพราะฉะนั้นบทนี้ขอบอกว่า สร้อยบาท ๓ น่ะ โอ.เค. แต่ไม่ชอบสร้อยบาท ๔ ครับ ๔๗. ..... มิต้องลอยล่องฟ้า.........................ปีกสยาย เนื่องจากธรรมบาลตาย.........................แน่แท้ พรหมเฒ่าจักมุ่งหมาย..........................เข่นฆ่า พ่อเฮย เพราะมิอาจคิดแก้..............................กล่าวข้อปัญหา ๚ นึกอะไรขึ้นมาได้อย่างนึง เท่าที่ผ่าน ๆ มารู้สึกว่าจะใช้คำว่า พรหม ตลอดนะครับ แต่ว่าคำ ๆ นี้เป็นคำเฉพาะด้วย น่าจะทำให้คนเข้าใจผิดได้ เพราะพระพรหมท่านออกจะดี ไหงมาแกล้งตัดหัวคนเล่นก็มะรู้ น่าจะใช้ชื่อเต็มบ้างนะในบทแรก ๆ ยอมรับว่ายังไม่ได้อ่าน เพราะเซ้งต่อให้ลุงเวทย์ไปแย้ว แหะ แหะ แล้วหลังจากนั้นใช้ชื่อย่อ รวมทั้งห้อยไปยาลน้อย จะได้รู้ว่าคนละพรหมกัน ฮี่ฮี่ฮี่ ๔๘. ..... เหตุไฉนมล้างซึ่ง.........................เยาวพาน ปราศจิตเมตตาผสาน..........................โหดร้าย ฤาเป็นเช่นมรณกาล............................ของพ่อ- หนุ่มนา พี่ท่านขอจงส้าย*.............................สิ่งเร้นคำลวง ๚ อุตส่าห์เปิดดิกฯเนาะ แต่ก็ยังผิดอีกนั่นแหละ เพราะคำว่าส้ายเนี่ยแปลว่า กำจัด หรือ สู้ แล้วจะไปกำจัดไรง่ะ อะไรคือสิ่งเร้น อะไรคือคำลวง ตาผัวเค้าเร้นเค้าลวงอะไรเหรอ เค้าแค่พูดไม่ชัดเอ๊ง ๔๙. ..... กุมารจักสิ้นชื่อ...........................เกียรติขจาย คอขาดชีวาวาย................................ดับดิ้น ล่วงกาลเจ็ดวันกลาย............................กำหนด ครุ่นคิดปริศนาสิ้น..............................มืดคล้ายควันบัง ๚ บาทที่ ๓ น่าจะใช้ เจ็ดวันปลาย มากกว่า แบบว่าความชัดกว่าครับ แล้วก็ มืดคล้ายหมอกบัง ไม่เพราะกว่าเหรอ อิอิอิ ๕๐. ..... ปัญหาข้อหนึ่งนั้น........................จักเฉลย ยามรุ่งราศีเผย................................ที่หน้า ยามตื่นนิทราเสบย.............................ก่อนมุ่ง- การนอ ชำระมลทิลถ้า..................................ผ่องแล้วจักงาม ๚ ไม่ชอบคำว่าเสบยครับ ดูมันยักเยื้องไงมะรู้ ลองหาใหม่น่อ
18 เมษายน 2546 08:50 น. - comment id 127750
แก้แล้วจ๊ะ ปู่ก๊อง คำว่าเสบย เสียงไม่ค่อยเพราะเนอะ ทีนี้ล่ะ แก้ทั้งบาท นะคะ ปู่ ..
18 เมษายน 2546 08:51 น. - comment id 127751
ขอบคุณนะคะ ทุกๆคน ขอบคุณค่ ปู่ก๊อง