๑๑. .....คำนึงคำถ้อยแห่ง...................คนหยาม พินิจพิเคราะห์ความ.....................ขุ่นคล้อง ฤๅกรรมเก่าทัณฑ์ตาม...................สาปส่ง จริงเฮย สังเวชสังวาสย้อง.........................หากไร้บุตรเคียง ๚ ๑๒. .....เหตุไฉนจึ่งไร้ลูก....................หนอแม่- เรือนเอย เหตุก่อนดุจร่างแห.......................ห่อหุ้ม เหตุการณ์ผ่านผันแปร.................เปรียบวิ- บากฤา เหตุสุดวิสัยคลุ้ม..........................ครั่นคร้ามตามหลอน ๚ ๑๓. .....ควรเราควรใฝ่เฝ้า...................บวงสรวง นาแม่ อุทิศอุทัยดวง..............................แจ่มฟ้า สำรับสำหรับปวง-........................ทวยเทพ ประสิทธิ์ประสาทร้า*....................รื่นให้สมประสงค์ ๚ ๑๔. ......ผันศกศักราชพ้น....................สามวสันต์ ปราศเดชเหตุอัศจรรย์..................เสกให้ มิอาจสมปราถนาอัน.....................จรุงเจต- นาเฮย อธิษฐานเทพไท้............................ไป่ได้ดังหวัง ๚ ๑๕. .....ณ กาลวันหนึ่งนั้น...................รวิวาร นักขัตฤกษ์พิธาน..........................เก่าย้อน ราศีเมษแห่งกาล-.........................จิตตมาส ทวยราษฏร์ต่างรำฟ้อน..................รื่นร้องสนุกสนาน ๚ ๑๖. .....เศรษฐีมีจิตพ้อง........................ภรรยา คราวเมื่อมหาชนพา........................ลูกน้อย เที่ยวชมมหรสพหนา.......................หมองหม่น ยิ่งเฮย สังเวชพลันเศร้าสร้อย.....................เนื่องด้วยหน่อสกุล ๚ ๑๗. .....จึ่งคิดอุทิศไท้............................เทพสวรรค์ เครื่องเซ่นบูชายัญ..........................หลากล้น บวงสรวงเทพยดาอัน......................มเหสักข์ สถิตย์โคนไทรต้น............................ฝั่งน้ำภิรมย์สถาน ๚ ๑๘. .....มวลหมู่วิหคร้อง.........................เริงระงม แผกเผ่าแปลกพันธ์ขรม...................กร่นก้อง ยักย้ายขวักไขว่ชม..........................แฉลบผ่าน เห็นซึ่งพลีกรรมข้อง-.......................มุ่งด้วยบุตรธิดา ๚ ๑๙. .....เครื่องเซ่นสรรพสิ่งล้วน..............มากมี ข้าวสุกบริสุทธิ์ดี.............................ยิ่งแท้ ข้าวสารคัดพรรณฉวี.......................ผุดผ่อง หุงจากน้ำนมแล้..............................เลิศล้ำหอมหวน ๚ ๒๐. .....บรรจงตกแต่งต้น.....................ไทรงาม- งดเฮย พิณพาทย์ประโคมความ.................เพราะพริ้ง แตรสังข์ดั่งประณาม*....................ทวยเทพ หวังซึ่งบุตรสิงคลิ้ง*......................หล่อเลี้ยงสืบสกุล ๚
14 เมษายน 2546 11:19 น. - comment id 126318
สลับฉาก ด้วย เอ อย่าเพิ่งดีกว่าอ่านต่อก่อน
14 เมษายน 2546 11:39 น. - comment id 126324
ชื่นชม..มากมาย..
14 เมษายน 2546 14:05 น. - comment id 126361
....ต่อไปเชิด...ด้วยวงกลองยาว..... ......................สวัสดีครับ.......
14 เมษายน 2546 15:36 น. - comment id 126379
คุณฤกษ์ จุ๊ๆๆ รำวงกะคุณใบบอนแก้วไปก่อน คุณใครคนนั้น .. แหะ แหะ คนไหนคะ คือว่า ..
14 เมษายน 2546 18:14 น. - comment id 126399
ตอนที่สอง..กำลังจะบวงสรวง..เดี๋ยว..ขอดูต่อนะคะ..กำลังสนุก...!!!
14 เมษายน 2546 23:31 น. - comment id 126465
เอ้าเพลงรำวงขึ้นแล้ว เสียงโท่นๆป๊ะเโท่นๆ ยามเมื่อน้ำจวนขึ้น ลูกคลื่นซัดทรายน่าฟัง (ซ้ำ) สำเภาเมื่อคราวอับปาง เรือน้อยลอยคว้างอยู่ที่กลางทะเล ยามเมื่อน้ำจวนลง โฉมยงก้มลงตักน้ำ (ซ้ำ) สาว ๆ ถึงความมีกรรม แก้ผ้าอาบน้ำเจอก้ามปูทะเล ยามเมื่อน้ำจวนแห้ง ปลาขะแหยงลอยหนวดจุ๋มจิ๋ม (ซ้ำ) ปลากรายไล่กัดปลากิม ปลาชะโดหัวหลิมโดดทิ่มกางเกง โท่น ๆ ป๊ะ โท่น ๆ คุณใบบอนแก้วรำด้วยร้องด้วยนะครับเอาใจอัลมิตราหน่อย อิอิ
15 เมษายน 2546 15:55 น. - comment id 126591
ตามมาอ่าน เรื่องเล่าความเป็นมา
16 เมษายน 2546 21:12 น. - comment id 127039
คุณฤกษ์ ขอตอนต่อนิ