. -๑- ๏ กลอนเปล่าฤๅเปล่าไร้..................สัมผัส ฤๅเล่นเสียงเรียงอรรถ.....................เอ่ยถ้อย ถึงคำไม่ทำฟัด................................ฝากสระ........... สะกดนอ สัมผัสความคิดคล้อย.......................ข่ายคล้องคือเฉลย ๚ -๒- ๏ นิพนธ์เผยเพียงพจน์แต้ม.............แต่งความ ผู้อ่านขานคำตาม............................ตรึกพร้อม พินิจพจน์ว่างดงาม..........................แง่จับ................ใจเฮย สัมผัสรัดจิตน้อม.............................แน่วซึ้งอักษร ๚ ๛
21 ธันวาคม 2545 18:43 น. - comment id 101741
ชอบตรงกลอนเปล่า ที่เปล่าไร้ความหมายจัง มันมีความหมายในตัวบทแม้ไม่ตามกฏการประพันธ์ แต่เจาะลึกได้ถึงใจ^_^
21 ธันวาคม 2545 18:52 น. - comment id 101742
ใช่ครับ ฟา ... ผมทึ่งคนที่เขียนกลอนเปล่าได้สัมผัสใจนี่แหล่ะครับ คะน้า ...โคลอน และสมาชิกอีกหลายคนของเรา เขียนกลอนเปล่าได้ดี น่าอ่าน
21 ธันวาคม 2545 20:19 น. - comment id 101750
:)
21 ธันวาคม 2545 20:45 น. - comment id 101752
กล่าวถึงกลอนเปล่า ด้วย โคลงเปล่า... อาหมอ ..กิ..กิ.. อยู่กรุงเทพหรือยังคะ
22 ธันวาคม 2545 01:02 น. - comment id 101777
อ่า...ขอบคุณมากเลยค่ะ...วฤก...ฝนก็ทึ่งในฝีไม้ลายมือด้าน โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ของ ...วฤก...มานานแล้วเหมือนกันค่ะ (o*^___^*o)
22 ธันวาคม 2545 14:31 น. - comment id 101850
มาแอบชมคนเก่งๆกันครับ
22 ธันวาคม 2545 18:50 น. - comment id 101879
ครบรสคำรสความก็งดงามอย่างวรรณศิลป์ รูปแบบไม่ใช่ตัวกำหนด แต่การไร้กฏเกณฑ์แล้วอ้างว่าเป็นอิสระคงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนเขียนต้องพิจารณากันเอง ก็คงแบบที่คุณหมอเขียนไว้นี่แหละ
14 มกราคม 2546 10:30 น. - comment id 104750
จะเขียนกลอนเปล่าก็ไม่ว่าถ้าสัมผัสใจ จะเขียนกลอนมีสัมผัสนอกในก็ไม่ว่า แต่เขียนกลอนเปล่าแล้วด่ากลอนสัมผัสว่าคร่ำครึ นั่นแหละไม่สมควร... เท่ากับท่านหมิ่นครู คุณหมอว่าจริงมั้ย