คนฉลาด คิดแต่กลัวเอาตัวรอด คุณจึงอยู่เยี่ยมยอดปลอดภัยผอง คุณซ่อนซุกสุขกระไรในกระดอง คุณเมียงมองจ้องกำไรไว้ทุกครา ยามภัยมาคุณซุกร่างแอบข้างหลัง หวาดระวังมิให้ออกมานอกหน้า สยบพร้อมยอมแพ้แก่ชะตา เพราะรู้ว่าจะมีคนดิ้นรนแทน เขาเป็น คนโง่โง่ ไร้แง่เงื่อน เขาเห็นทุกข์ของเพื่อนนับเรือนแสน เขามีใจรับรู้ไม่ดูแคลน เขายอมแอ่นอกรับกับพิษภัย คนฉลาด ฉลาดรู้ดูทางลม ถ้าเขาล้มก็เหยียบย่ำซ้ำเติมใส่ ถ้าเขาชนะก็ดี๋ด๋ามาร่วมใจ ร่วมประโยชน์ฉลองชัยไม่เคยอาย เขาโง่เง่าในสายตาคนฉลาด แต่องอาจในวิถีมีความหมาย เขารู้เท่ารู้ทันว่าอันตราย แต่เสี่ยงตายด้วยสำนึกระลึกรู้ บ้านเมืองไม่อับจนเพราะ คนโง่โง่ ที่กล้าขืนยืนโต้ออกต่อสู้ คนโง่โง่ ต้องเจ็บตัวเต็มประตู คนฉลาด จึงได้อยู่อย่างร่มเย็น! ในสถานการณ์คับขันหรือเกิดปัญหาขึ้นในสังคม เรามักจะพบคนสองกลุ่มใหญ่ๆเสมอ กลุ่มหนึ่งโถมตัวอุทิศตนเข้ามารับผิดชอบแก้ไขปัญหา ขณะอีกกลุ่มหนึ่งนั่งดูอยู่ห่างๆเพื่อรอเวลารับผลประโยชน์
16 ตุลาคม 2554 19:12 น. - comment id 1211378
ทุกครั้งที่ประชาชนเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ ทหารจะเป็นกลุ่มคนที่เข้ามาช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง โดยไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทน ทั้งช่วยเหลือทั้งปกป้อง... นับถือน้ำใจทหารหาญทุกท่านค่ะ
16 ตุลาคม 2554 19:31 น. - comment id 1211384
คุณโคลอน ท ทหารอดทน สมชื่อ จริงๆ ผมเขียนงาน ผมรักทหารไว้ ยังไม่มีโอกาสลงเลย เมื่อวานเห็นคนไทยจำนวนหนึ่งโดนรถประจำทางปล่อยเกาะกลางทาง มีรถยีเอ็มซีของทหารมารับ ละแวกบ้าน น้ำท่วมแล้ว ชาวบ้านถามหาว่าทหารอยู่ไหน คงเพราะหากมีทหารมาช่วยเขาคงใจชื้นขึ้น http://www.youtube.com/watch?v=qPIqmL1BMgc
16 ตุลาคม 2554 22:02 น. - comment id 1211391
มรึงมาแล้วเร้อะไอ้ทึ่มปัญญานิ่ม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แค่นจะมาด่าท่านนายกฯอ้วกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สมเพชว่ะ
16 ตุลาคม 2554 23:25 น. - comment id 1211398
5555555+ พ่อปัญญามาก นึกว่าน้ำท่วมตายไปแล้ว "กรุงเทพคือประเทศไทย ถึงอย่างไรต้องรักษา น้ำหลากท่วมรากหญ้า หลงคิดว่าจะเน่าตาย" ซะหน่อย ไม่คุยด้วยเดี๋ยวพ่องอนไปออกกลอนวันละสิบสำนวนละแย่เลย
16 ตุลาคม 2554 23:26 น. - comment id 1211399
คห. 6 ไปอ่านมาแล้วครับ งานของยอดฝีมือ
17 ตุลาคม 2554 01:19 น. - comment id 1211400
ตุ๊บป่อง...ตุ๊บป่อง... น้ำป่านอง...ลำคลองไหล ขี่จักรยาน.......ฝ่าน้ำไป เอาดินน้ำมันไหม.....จะให้ยืม....อิอิ ปล. ไหนๆก็ฝ่าน้ำเท่าเอวไปด้วยใจแระ อย่าลืมหิ้วปิ่นโต+เหล้ายาปลาปิ้งไปเผื่อคนชั้น2ด้วยเด้อ "น้ำท่วมใครว่าดีกว่าฝนแล้ง.."
17 ตุลาคม 2554 02:20 น. - comment id 1211411
มรึงจะลบทำไมไอ้แก่ปัญญาทึ่ม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สมเพชว่ะ
17 ตุลาคม 2554 02:26 น. - comment id 1211413
ความคิดเห็นที่ 5 ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พวกมรึงนี่กรูเห็นมีแต่พวกปัญญาทึ่มว่ะ จิงป่ะ ไอ้ส้งตรีนกรู
17 ตุลาคม 2554 05:27 น. - comment id 1211422
สำนึกระลึกรู้.. แม้จะอยู่อย่างผู้พ่าย หลบฉากโดนถากใส่ ยอมรับได้ให้เกียรติกัน วิบัติชาติจะล่ม น้ำถล่มจมสนั่น อาสากล้ากำงาน เป็นทหารเท้ายันหัว กึ๋นหมดหดเห็นย้ำ ปากริยำตำบอนทั่ว คิวผิดคิดเข้าตัว งานก็มั่วแค่ชั่วยาม ป้องบ้านกั้นคันสู้ น่าอดสูยังขู่หยาม ปิดทองใหญ่แต่ไร้นาม งานจึงงามทุกยามยล ค่าแห่งคน ..ผลแห่งงาน กำลังใจให้ทุกท่านที่ป้องบ้านกรำงานหนัก !
17 ตุลาคม 2554 09:44 น. - comment id 1211429
17 ตุลาคม 2554 10:37 น. - comment id 1211430
17 ตุลาคม 2554 15:32 น. - comment id 1211442
ไปเจอภาพประทับใจมาค่ะ เก็บมาฝาก แหล่งที่มา http://webboard.news.sanook.com/forum/?topic=3507314 ขอบคุณค่ะ
17 ตุลาคม 2554 22:00 น. - comment id 1211480
เห็นภาพชัดแจ๋วจริงๆ ขอขอบคุณคนโง่ โง่ทุกๆท่านเป็นอย่างสูง
17 ตุลาคม 2554 22:12 น. - comment id 1211482
ใครกันหนอเข่นฆ่าประชาชน และร่ำรวยเอาๆๆเป็นร้อยล้านพันล้าน เขายายเที่ยงฝีมือใคร เขาสอยดาวฝีมือใคร
17 ตุลาคม 2554 22:25 น. - comment id 1211484
ไอ้แก่ปัญญาทึ่ม มรึงนี่นี่ชั่งกล้าดูถูกพลทหารว่าว่าพวกเขาโง่เลยเหรอ มรึงน่ะฉลาดกว่าพวกเขาตรงไหน พวกมรึงนี่นี่ จิตใจทำด้วยอะไรวะ คอยจ้องแต่จะดูถูกดูแคลคนอื่น ตักน้ำหรือส่องกระจกดูตัวเองบ้างนะ
18 ตุลาคม 2554 08:53 น. - comment id 1211493
18 ตุลาคม 2554 09:11 น. - comment id 1211494
ไปเจอคอมเม้นถูกใจมากๆมาค่ะ ขออนุญาตแปะ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000132565 ความคิดเห็นที่ 2 +226 โมเมนตัม = มวล X ความเร็ว P = mv สูตรนี้เรียนตอนมัธยมปลาย ยังจำได้อ้ะ กำลังทำลายของน้ำทะลัก เปรียบได้กับ โมเมนตัมที่มหาศาล ประมาณกำลังไม่ได้ เพราะอะไรรู้ไหม พวกเรารู้แต่ Velocity คือ ความเร็ว แต่เราไม่รู้มวลน้ำครั้งนี้ว่าเท่าใด รัฐบาลจึงทำผิด ดังนี้ 1. พูดทำ (ห่ะ) ไร ว่าปลอดภัย 100% ในเมื่อคุณยังไม่รู้เลยว่า กำลังทำลายของน้ำมากเพียงใด กล่าวคือ ไม่รู้ โมเมนตัม ของน้ำครั้งนี้ เพราะคุณไม่รู้มวลน้ำ 2. ธรรมชาติของน้ำจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ราบต่ำ เมื่อมวลน้ำมีมาก อัตราเร็วต้องคำนวณจากความลาดชันของภูมิประเทศ แล้วคุณๆ ก็ไมรู้จักความชันของภูมิประเทศก่อนที่จะมาถึง Target คือ เป้าหมายทำลายของน้ำ (หรือ จุดที่คุณตั้งกำแพงถุงทราย คันดิน ตู้ Container ฯลฯ) แล้วคุณจะรู้ได้ไงว่า กำแพงที่คุณตั้งนั้น ทนแรงได้กี่นิวตัน หรือทนกำลัง โมเมนตัมได้มากเพียงใด และเมื่อไม่รู้ เจือกพูดทำไมว่า 100% หา???? 3. เขื่อนภูมิพล สร้างมานานกว่า 40 ปี (สร้างมาด้วยการคำนวณอย่างละเอียดละออ) น่าจะได้ แม้แต่เขื่อนเองนะ ที่รับพลังน้ำได้มากๆ กว่ากำแพงทรายของพวกคุณ หากเจอน้ำที่มาจากที่สูงและไหลหลากแบบกระแทก แบบนี้นะ และสะสมพลังมาเหมือนรถไฟเหาะตีลังกา ที่สะสมพลังจากการไต่ระดับความลาดชันมาเรื่อยๆ ผมว่าเขื่อนยังมีสิทธิแตกเลยครับ ที่เขื่อนรับน้ำได้มาก เพราะน้ำมันค่อยๆ มารวมกัน มันไม่ได้มาแบบกระแทก แล้วไปตั้งกำแพงทราย (และบรรดาอุปกรณ์ประเภทแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่สร้างแบบสุกเอาเผากิน) ให้ได้ประโยชน์ (ห่ะ) อะไรขึ้นมา มิทราบ? วิธีแก้ปัญหา ผมเห็นว่าควรทำตามตำราพิชัยสงครามนะ รบตัดกำลัง = ศัตรูมาก ทำให้น้อย 1. เมื่อเราไม่รู้ตัวแปรว่า มวลน้ำเท่าใดกันแน่ ให้ตัดกำลังน้ำ ให้เข้าปะทะ Target ในปริมาณที่น้อยที่สุด เช่น การรบแบบกองโจรประยุกต์ ตัดเสบียง ด้วยการแบ่งสายน้ำให้ออกเป็นหลานทิศทาง อย่าให้มันรวมกันติด ไม่งั้นมันก็จะกระแทกแตกยับไปเรื่อยๆ แบบที่คุณๆ เห็นนั่นแหละ (มั่นใจกันดีนัก ไม่อยากจะมาซ้ำเติมกัน พวกคุณรู้แต่วิทยาศาสตร์ แต่ไม่รู้ธรรมชาติของพลังน้ำ มันก็จะประเมินต่ำแบบนี้แหละ) 2. หากขุดคลองสาขาแบบก้างปลา เพื่อลดมวลน้ำที่มากระแทก Target คงทำไม่ทันในช่วงนี้ ให้เอากระสอบทราย + คันดิน (โง่ๆ) ไปทำเป็นสระน้ำแบบแนวลำธาร เพื่อประคองมวลน้ำให้หลากเป็นหลายสาย คือ แทนที่จะขุดคลอง ก็สร้างลำธารมาแตกแรงมันไป ให้มวลน้ำมันแบ่งแยกไปหลายทิศทางให้ได้ 3. ตอนนี้ ที่รังสิต สายไหม ดอนเมือง แทนที่จะทำกำแพงกั้นขวางทางน้ำ (เอาไม่อยู่หรอกครับ ตามที่อธิบายแล้ว เว้นแต่โชคจะช่วย) ให้ไปทำลำธารสาขาแบบก้างปลา เพื่อแบ่งมวลน้ำให้แตกแยกออกไปหลายทิศทาง อย่าให้มันสามัคคีกันแบบนี้ 4. ให้ระดมกำลังทหารของกองทัพทั้งหมด มาวางแผนยุทธการ โดยใช้หลักการรบตัดกำลัง อย่างที่ผมว่าเนี่ย หากยังไม่สายเกินไปนะ ผมว่ารอดได้ แต่อาจเจ็บตัวบ้างเล็กน้อย 5. หากมั่นใจว่าไม่ทันแน่ๆ ให้ปล่อยน้ำผ่านเลย โดยไม่ต้องทำกำแพงใดๆ กักกั้นอีกต่อไป มันจะได้ไม่ขังสะสม เพราะธรรมชาติของมันจะต้องไหลลงทะเลอยู่แล้ว ผลักน้ำอย่างเดียวเลย ไม่ต้องสร้างกำแพงอีกแล้ว สั่งอพยพคนขึ้นที่สูงให้หมด แล้วมันจะเหมือนสึนามิ ที่มาแล้วไม่นานก็หายไป ======================== ผมอาจจะเป็นคนโง่ และเรียนไม่เก่งมาก แต่ว่าผมรักธรรมชาติ และชอบเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน สุดท้ายขอฝากปรัชญาให้คิดนะครับ ทรัพย์ศฤงคาร ล้วนเป็นของนอกกาย มีมากก็ทุกข์มาก บรรดาครูบาอาจารย์พระธุดงค์ ท่านมีแค่ กลด และบริขาร 8 เวลาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ท่านก็ยิ้มสู้ เรามันรวยกันมาก เอาของหรูๆ หราๆ มาประดับบ้าน พอเจอดีเข้าให้ ก็ห่วงโน่น พะวงนี่ ..... จากนี้ไป ให้รู้จักความพอดี และเก็บเงินในธนาคารให้มากๆ นะครับ มีเหลือ ก็จุนเจือส่วนรวม เพราะไม่นานก็ตายกันทุกคน แหละครับ ผมไม่ได้หมายถึงวันโลกแตกนะ ผมหมายถึง ปัจเจกชีวิต ทั้งมวล ที่โดยเฉลี่ยไม่น่าจะเกิน 100 ปี ซึ่งแต่ละปีก็ผ่านเร็วมากๆ ไปคิดดู ครับ อนุโมทนา... ขอแสดงความโง่หน่อยนะครับ
18 ตุลาคม 2554 10:15 น. - comment id 1211502
แวะมาอ่านค่ะ ขอบคุณทุกภาพประทับใจ และความคิดเห็นสร้างสรรค์ อย่างไรเสียหลายหัวใจที่กำลังทุกข์ยากอย่างแท้จริง คงได้เห็นน้ำใจอันใสบริสุทธิ์ ปนมากับอุทกภัยคร้ังนี้แล้ว ขอเป็นกำลังใจให้ผู้เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ทุกท่าน ไว้ ณ ที่นี้นะคะ
18 ตุลาคม 2554 10:47 น. - comment id 1211503
สวัสดีในน้ำใจที่แวะมาครับ น้ำหลากมาจากเหนือ ลงมาจะออกอ่าวไทย เขื่อน แนว คัน ต่างๆ มีกำลังคน กำลังอาสามากมายช่วยกัน บ้างก็ดูแลชุมชน บ้างก็ดูแลภาพกว้าง เห็นเกลื่อนตาก่อแนวผนังกั้นประตู ปิดหน้าต่าง โดยคาดว่าน้ำคงไหลบ่าเข้ามาแน่ แต่หลายพื้นที่ถึงจะปเองกันยังไงก็พังทลาย ด้วยกำลังมหาศาลของน้ำยากนักที่จะต่อต้าน ที่น่ายินดีคือ เราได้เห็นความสามัคคีในชุมชนกันอีกครั้ง แม้จะเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างพื้นที่บ้างก็เป็นธรรมดา คนโง่โง่ ที่กล่าวในสำนวน ถ้าไม่เบาน้ำหลากคงเข้าใจได้ว่า เป็นสำนวนประชดประชันยอมเป็นคนโง่ที่เสียสละ ดีกว่าคนฉลาดที่ออกมาฉกฉวยประโยชน์หลังเสร็จศึก หรือซ้ำเติมหลังความพ่ายแพ้ เพราะอย่างน้อยคนเหล่านี้คือคุณค่าที่แท้จริงของประเทศ ขอบคุณแรงานโง่โง่ทั้งหลายที่ร่วมมือร่วมแรงกัน แม้ไม่ได้ออกหน้าข่าว แต่คุณคือฮีโร่ตัวจริง หยุดเถิดพวกสร้างภาพ แถลงข่าวเอาหน้า ปล่อยแถวปล่อยขบวน เอาเวลาไปช่วยกันดีกว่า คุณโคลอน นายรำคาญ ยาแก้ปวด เที่ยนหยด สุริยันต์ น้องมิ้น และ ลชร ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยความปลอดภัย.... สำหรับคนฉลาด เอาใจไม่ถูกนะเรา พอลบก็ว่า พอไม่ลบก็บอกให้ลบไวไว ถ้าว่างไปช่วย มจร หรือ สวดมนต์ก็ได้นะ ออ อีกอย่าง หลังจากเผาแล้วได้น้ำเยอะๆคงสดชื่นนะเรา แต่น้ำมากระวังรากหญ้าจะเน่าตายนะ ไม่ได้ห่วงแต่แถวบ้านเหม็นหญ้าเน่าจริงๆ (ปล. ใครน้ำกัดเท้าไม่สบาย เชิญใช้สิทธิรักษาฟรีได้ ถ้ามี รพ.นะ แต่บางคนคงสบายเมียเป็นราชการใช้สิทธิหลวงสบายส้นตีนไป น้ำท่วมก็ไม่ต้องห่วงมากมีบ้านขายบ้านซะนะพี่น้องคนฉลาดเขาทำกัน)
18 ตุลาคม 2554 12:38 น. - comment id 1211521
โชคดียังไม่เป็นโรคน้ำกัดเท้า
18 ตุลาคม 2554 13:11 น. - comment id 1211525
ระวังโรคฉี่หนูด้วยนะพ่อแม่พี่น้อง วิธีทำรองเท้าถุงพลาสติก ป้องกันโรคฉี่หนู (กรมควบคุมโรค)
18 ตุลาคม 2554 13:14 น. - comment id 1211526
ข้ามขั้นตอนไปนิด จากเว็บ http://health.kapook.com/view18778.html ขออภัยเจ้าบ้านรูปไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหากลอน ดูแล้วลบทิ้งได้ค่ะ
18 ตุลาคม 2554 16:00 น. - comment id 1211538
เรามาลุ้นฝีมือผุ้ว่า กทม.กันนะครับ อิอิอิ ทหาร กับมูลนิธิ เขาลุยกันสะบั้นหั่นแหลก แต่ภาพข่าวทางสื่อมิออกเลย ออกแต่ ศูนย์อะไรสักอย่างนี่แหละ.. ขอให้ผู้ว่า....เอาให้อยู่นะครัาบ...เอาใจช่วยเพราะ อยู่กทม.เหมียนกัลล์
18 ตุลาคม 2554 17:15 น. - comment id 1211553
.......... ไปอ่านเจอบทความมา แล้วเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง บทความเขาว่า..... คนไทยแทบจะทั่วถ้วนทุกตัวคนรู้ดีว่าอยุธยาเป็นที่ลุ่ม เดิมเป็นเมืองอู่ข้าว อู่น้ำ แต่เรากลับเอาเมืองที่เป็นที่ลุ่มไปทำเป็นเมืองอุตสาหกรรม ผลที่เกิดก็อย่างที่เห็นๆกัน คงเป็นการลงโทษจากธรรมชาติอย่างหนึ่ง เพราะนอกจากความเสียหายนับแสนแสนล้านแล้ว เมื่อน้ำลด คงมีคนตกงานอีกเพียบ ลองตรองให้ดีเถอะ เราใช้ผืนดินผิด เราวางผังเมืองผิด เรามีตึกสูงเกิดขึ้นมากมาย ทั้งที่ไม่จำเป็นสำหรับประเทศเราเลย เราตัดไม้ทำลายป่า ขณะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่นี้ ก็ยังมีคนเห็นแก่ตัวตัดไม้พะยูงอยู่ มันผิดกันมาตั้งแต่ครั้งไหนไม่รู้ ซึ่งมันน่าจะเริ่มแก้ไขกันได้แล้ว จะใช้เวลาเป็นสิบ ยี่สิบ หรือสามสิบปีก็ช่าง ดีกว่าที่จะไม่เริ่มต้นทำอะไรเลย เราเองก็ใช่ว่าจะฉลาดนัก ขอแสดงความโง่ด้วยคน ........................
19 ตุลาคม 2554 10:58 น. - comment id 1211637
นี้แหละครับ รั้วของชาติ ช่วยประชาชนทุกเรื่อง น่านับถือมากๆ