.... เสียงพระสวดมนต์ที่มีเนื้อหาพูดถึงความไม่เที่ยงของสังขารมนุษย์ .... ญาติมิตรถ่ายภาพที่ระลึกเป็นครั้งสุดท้ายหน้าโลงศพโดยมีภาพผู้ตายแนบบนหน้าอก ....ผู้คนแต่งชุดดำทยอยเดินลงบันไดหลังวางดอกไม้สีขาวและพนมมือขออโหสิกรรม หลายคนไม่สนใจที่จะหยิบของชำร่วยที่วางบนถาดริมทางลงบันได ....ควันไฟสีดำลอยออกจากปล่องไฟอย่างอ้อยอิ่ง พร้อม ๆกับค้างคาวหลายสิบตัวที่บินออกมาอย่างตกใจกลัว ....เสียงปืนและพลุไฟหลายสิบนัดดังแหวกอากาศที่อึมคึม ดังจะส่งดวงวิณญาณผู้ตายสู่สรวงสวรรค์ .....ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงบ้างรีบเดินออกจากบริเวณวัด บ้างยืนมองปล่องไฟ ดุจจะจดจำภาพนี้ไว้เป็นครั้งสุดท้าย ในความทรงจำ .....คนงานเก็บเตนท์ โต๊ะเก้าอี้ เข้าที่ให้เหมือนเดิม เด็กวัดเก็บกวาด แก้วพลาสติก ขวดน้ำ และถุงขยะ .....ผู้คนและรถยนต์เริ่มเดินทางออกจากวัดอย่างเงียบ ๆ .....แฟนผู้ตายยกมือไหว้ขอบคุณแขกเหรื่อที่มาช่วยงาน ไม่มีใครได้เห็นหยดน้ำตาจากจากบหน้าที่เศร้าหม่นของเขา .....พี่น้องกอดกันกลมก่อนจาก ไม่มีคำร่ำลาใด ๆ หลุดออกจากปาก นอกจากหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม และเสียงสะอื้นจากลำคอ ....พี่น้องจากต่างจังหวัดที่จากกันไปนาน ต่างเร่งรีบเดินทางกลับ เหมือนไม่อยากจะจดจำวันคืนที่โหดร้ายหม่นหมองนี้ ไม่สนใจที่จะหันหลังกลับไปมองสถานที่นั้นอีก เช่นเดียวกับควันไฟสีจางหม่นที่ลอยหายไปในอากาศจากปล่องไฟสูงของที่เผาศพไม่มีวันหวนคืนมา ...................... หวัดดีครับ........ คิดถึงแทบใจจะขาดครับพี่น้อง การงานเบียดบังเอาเวลาและความสุขส่วนหนึ่งของเราไป แต่ไม่มีปัญหาครับ เรื่องเล็กน้อย... คิดถึงทุกคนเหมือนเดิมครับ บ้านหลังนี้ให้ความอบอุ่นแก่ทุกคน ขอบคุณทุกอุปสรรคที่ทำให้เราเข้มแข็งครับ ฝากทุกวรรคทุกบทนายสุรศรียังเหมือนเดิมครับ ด้วยรักและคิดถึงครับ นายสุรศรี
17 ตุลาคม 2553 20:22 น. - comment id 1162489
สวัสดีคะ คุณสุรศรี ยินดีมากคะ ขอต้อนรับการกลับมานะคะ
17 ตุลาคม 2553 20:27 น. - comment id 1162494
แวะมาเยี่ยมชม...และยินดีที่รู้จักด้วยคนค่ะ
17 ตุลาคม 2553 21:00 น. - comment id 1162502
ทุกฅนหนีไม่พ้นความตายครับพี่ศรี คิดถึงพี่เสมอครับ ตอนนี้งานเยอะมากครับพี่ น้ำท่วมยุดยาด้วยนะที่บ้านผมน่ะ