๏ ระดะหลั่งพร่างพรายพริ้วสายฝน ระดะหล่นเกินพร่ำกับคำถาม ถึงสัมพันธ์คลุมเครือเหลือนิยาม อยากติดตามถามย้ำเผื่อทำใจ ๏ เพียงเพราะเธอเผลอไปใช่หรือเปล่า? หรือฉันเหงาเกินกั้นสุดหวั่นไหว? สัมพันธ์บนหนทางที่ห่างไกล จะยาวนานแค่ไหนก่อนร้างลา? ๏ ที่โน่นหมอกหยอกเบาเย้าดอกไม้ ที่นี่ฝนรินไหลใจปวดปร่า ฅนทางนั้นสุขซึ้งตรึงอุรา ฅนทางนี้คล้ายว่ารอนล้าใจ ๏ ระดะหลั่งพร่างพรายพริ้วสายฝน ระดะล้นน้ำตารินบ่าไหล หากสัมพันธ์เลือนรางยังห่างไกล คงอกตรมขมไหม้ไปอีกนาน (สุริยันต์) ๏ ฅนทางนี้งันหงอยบนดอยหม่น ฅนทางนี้สับสนไม่กล้าหาญ ฅนทางนี้แพ้ใจให้ร้าวราน ต้องข่มใจก้าวผ่านวันเวลา ๏ แม้เหงางำทำใจไม่ยอมท้อ แม้ต้องรอเลื่อนลอยการคอยหา อาจเนิ่นนานตราบสิ้นดินและฟ้า ตราบสุริยันจันทราจะเห็นใจ ๏ ทะเลภูหมอกพรมห่มสิงขร ทะเลใจร้าวรอนยิ่งอ่อนไหว ทะเลรักคลื่นคลั่งหลั่งท่วมใน ให้พะวงหลงไหลอยู่ในมนต์ ๏ มนต์ภูผาเพรียกพาสายลมอ้อน ยิ่งเศร้าซ้อนหลอนลึกรู้สึกหม่น มนต์สวาทบาดย้ำซ้ำกมล ระดะล้นเกินคำพร่ำพรรณา (อินสวน)
12 กันยายน 2553 16:20 น. - comment id 1155315
ในม่านฝนในม่านฝัน ณ วันนั้น สายสัมพันธ์ของสองเราเฝ้าถนอม แม้นวันนี้นวลร้างไกลเกินใฝ่ดอม ยังคงหอมวจีหวานจารให้กัน บางสำนึกแม้นหม่นหมองครองความเศร้า เป็นเพียงเงาวาบหวามคล้ายห้วงฝัน มาเย้าหยอกมาหลอกลวงในบางวัน จนใจนั้นแหลกสลายคล้ายลับปราณ มาต่อกลอนคุณสุริยันต์ฯ เดี๋ยวนี้โสกสว่างไสวจิตนาการบรรเจิด อิอิ
12 กันยายน 2553 16:24 น. - comment id 1155319
มีกลอนคู่แล้วหรือนี่
12 กันยายน 2553 17:03 น. - comment id 1155321
ดีครับคุณบูมฯ มาต่อด้วยฅนก็ขออนุญาตให้ต่อนิ อิอิ ขอบคุณกลอนเพราะ ๆ นะครับ แต่ผมว่า ความรักของฅนเรามันมีค่าเกินตีราคาได้น่อ คงจะต่างกันกับหุ้นอยู่หรอกนะครับ ดีครับคุณลูกศิษย์ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะครับ ถ้าสุขด้วยกันทั้งสองฅน มันคงจะดูเหมือนคู่แต่งงานไปนะครับ ดีแล้วครับที่ต่างฅนต่างสุขนะครับ หุหุ ดีครับพี่อินสวน งานนี้ผมว่าผมโหนกระแสความอบอุ่นและโรแมนติกของพี่มากกว่าครับ ขอบคุณนะครับป๋าดัน....หุหุ ดีครับอีกครั้งนะครับคุณบูมฯ คงจะแก้ไม่ได้หรอกครับ เพราะผมจะไม่ยอมลบเม้นท์ของทุกฅนที่เข้ามาเยี่ยม ผมถือว่ามันเป็นประวัติศาสตร์ และความภาคภูมิใจของผมครับ ลองคิดดูสิครับ ว่าถ้าเราลบเอาสิ่งที่เคยเขียนผิด คิดผิดออกไป เก็บไว้แต่สิ่งดี ๆ ก็ไม่ต่างอะไรไปกับการเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ โดยอาศัยฉันทาคติเลยครับ ดีครับท่านชายกบ คลับคลาอยู่ต่อจากคลับคล้ายน่ะครับ น่าจะอยู่ระหว่างยุดยาบ้านผมกะสุพรรณบ้านคุณนะแหละ หุหุ แบบว่าบางคลับคล้าย บางคลับคลา ไง อิอิ ดีอีกครั้งนะคุณแซม แบบว่าช่วงนี้งานยุ่งน่ะครับ เลยดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ใส่ใจมิตรสหาย แต่ถ้าว่างก็จะมาครับ ดีครับท่านกวี ซีม่า ต้องการฅนเดินใต้ร่มคันเดียวกันหรือเปล่าครับ อิอิ....ล้อเล่น แหมท่านอยู่ใต้ฟ้าใยกลัวฝนล่ะน้อ ดีครับพี่อินสวนอีกครั้ง ผมเห็นได้ถึงอัจฉริยภาพของพี่ในการต่อกลอนกับนักกลอนท่านอื่น ๆ แล้วปลื้มจังครับ วันก่อนเข้าไปอ่านตอบกลอนในบ้านพี่เรื่องตัดสวาท พี่ตอบว่า"ก็เรารักกันไม่ใช่เหรอครับ" งั้นผมก็คงรักฅนไม่ผิดสินะครับ อ๊ะ ๆ ล้อเล่นครับ หุหุ รักแบบพี่น้องครับ ดีครับคุณบูมฯ คุณบูมมีไหวพริบในการแต่งกลอนได้เยี่ยมมากครับ ไม่เหมือนผมเลยกว่าจะแต่งได้ ใช้เวลานานมากจริง ๆ ครับ ดีครับคุณพจนา ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะครับ ดีครับคุณลานจันทร์ อยากจะบอกว่าผมกับคุณความคิดตรงกันเลยนะครับ แบบว่ากำลังจะแต่งกลอนบทต่อไปเรื่องในม่านฝนบนม่านฝัน เหมือนคุณเปี๊ยบเลยนะ ดีครับพี่ก่องกิก ก็แบบว่าขอประชันกะนักกลอนจอมโรแมนติกเค้านิดนึงน่ะครับ พี่เค้าเป็นไอด้อล ของผมเลยนะครับนั่น ดีใจนะครับบที่ยังไม่ลืมกัน
13 กันยายน 2553 07:33 น. - comment id 1155671
สวัสดีค่ะน้องชาย ต่อกลอนกันสองคนแบบนี้ มีหึงนะคะจะบอกให้ เป็นกลอนที่สุดยอดฝีมือของทั้งสองท่านค่ะ ขอคารวะ
12 กันยายน 2553 11:08 น. - comment id 1155734
ก่อนจะถามความหมายกับสายหมอก เธอช่วยบอกใครกันที่หรรษา กว่าจะฝืนยืนตรงลงวาจา เสียน้ำตาพรั่งพรูไม่ดูใจ ฉันฝากรักฝากลมไปพรมพร่าง กลับเอ่ยอ้างขว้างเหวว่าเหลวไหล ไร้คำตอบปลอบโยนจากคนใด คนทางโน้นมีใคร?รู้ใจตน ปล่อยฉันไว้ตรงนี้น่ะดีแล้ว ดั่งดวงแก้วบางเปราะกระเทาะหล่น คนทางนี้จากมาน้ำตาปน เพื่อบอกคนทางนั้นผิดสัญญา ก่อนจะถามความหมายกับสายหมอก ฉันอยากบอก"ลาก่อน"อย่าซ่อนหา รักของฉันมิใช่หุ้นกักตุนมา พอราคาขึ้นกระฉูด..พูดเสียดาย (ตามมาต่อด้วยคน..นะนะ)
12 กันยายน 2553 11:14 น. - comment id 1155736
คนทางโน้น หม่นไหม้ ใจเหงาปร่า กลืนน้ำตา หม่นไหม้ จนใจขม แม้สายหมอก หยอกเย้า ยังเฝ้าตรม ขมสุดขม ยังคะนึง ถึงคนไกล คนที่เคย เฉยเชือน ยังเชือนเฉย แกล้งละเลย ปล่อยจันทร์ ให้หวั่นไหว แม้นไม่คิด ตอบไมตรี ที่ฝากไป คงทำใจ เพียงแค่รอ ไม่ขอวอน ขอประทานอภัยโทษเพคะ แซมมิได้ตั้งใจจะบังอาจต่อกลอนกับท่านพี่ทั้งสอง... แต่กลอนสุดแสนงดงาม ทั้งของพี่โป้ง และพี่อินสวน ขอให้พี่ทั้งสองต่างคนต่างมีความสุขนะคะ(สุขด้วยกัน ก็จะฟังดูยังไงๆ อยู่) แซมค่ะ
12 กันยายน 2553 11:29 น. - comment id 1155740
สวัสดีครับ..น้องสุริยันต์ โห..เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ ไม่คาดคิดมาก่อนนะครับว่า ผมจะโหนกระแสความเก่งของน้อง ไปได้อย่างน่าใจหาย.ใจคว่ำ.... เอาน่านะ...ขอให้มีความสุขมากๆนะครับยินดีครับ
12 กันยายน 2553 11:31 น. - comment id 1155742
คุณแซม...บูม ไม่รู้จัก/คุณโป้ง/คุณอินสวนเลย เห็นกลอนแล้วน้ำลายไหลยืด อยากต่อกลอนด้วย รักดอกจึงหยอกยั่ว ถามนิดนะคะกลอนที่เราต่อผู้อื่น..ถ้าพิมพ์ผิดมีวิธีเข้าไปแก้ไหมคะ?
12 กันยายน 2553 11:47 น. - comment id 1155749
ไม่แน่ใจว่าคลับคลานี่อยู่ตรงไหนพี่โป้งอยากต่อกะเขามั่งอ่า
12 กันยายน 2553 11:49 น. - comment id 1155751
คุณบูมคะ....ถ้าเราอยากลบ ต้องขอให้เจ้าของกระทู้ลบให้ค่ะ ในกรณีนี้ ต้องกราบขอความเมตตาจาก ท่านอาจารย์สุริยันต์ จันทราทิตย์... หรือจารย์พี่โป้งของแซม มาช่วยแก้หรือลบให้ค่ะ.... แต่ถ้าเป็นแซมนะ.....แซมไม่กล้าหรอก จารย์พี่โป้งเนี่ยะ ไม่เคยมีใครกล้าแหยมกับท่านหรอกค่ะ.. (โห...หวาดเสียวแทนเลย...) แซมถูกตัดหางปล่อยวัด บ่อยๆ เกือบต้องลาไปเป็นลูกศิษย์วัดเส้าหลินตั้งหลายครั้งแน่ะค่ะ.... บางที่แซมพูดกับท่าน ท่านก็ไม่พูดด้วย...หน้าหงายอยู่บ่อยๆ แซมแหย่เล่นค่ะ บอกให้พี่โป้งแก้ไขให้ได้ค่ะ...(แหย่เล่น แต่กลัวจริงๆ...คนไรไม่รุ๊ ดุ๊ดุ..) แซมค่ะ
12 กันยายน 2553 12:35 น. - comment id 1155758
สวัสดีครับ...คุณ สุริยันต์ ฯ... "กวี ซีม่า" ขอผ่านในม่านฝนด้วยคนครับ ******************** เราเดินดุ่ม เดียวดาย ในม่านฝน เพราะว่าคน เคยอยู่ คู่เคียงข้าง เธอจากไป หลบฝน คนละทาง ในร่มกว้าง คนนั้น....ตั้งนานแล้ว **************************
12 กันยายน 2553 13:00 น. - comment id 1155762
ก่อนจะถามความหมายกับสายหมอก เธอช่วยบอกใครกันที่หรรษา กว่าจะฝืนยืนตรงลงวาจา เสียน้ำตาพรั่งพรูไม่ดูใจ ฉันฝากรักฝากลมไปพรมพร่าง กลับเอ่ยอ้างขว้างเหวว่าเหลวไหล ไร้คำตอบปลอบโยนจากคนใด คนทางโน้นมีใคร?รู้ใจตน ปล่อยฉันไว้ตรงนี้น่ะดีแล้ว ดั่งดวงแก้วบางเปราะกระเทาะหล่น คนทางนี้จากมาน้ำตาปน เพื่อบอกคนทางนั้นผิดสัญญา ก่อนจะถามความหมายกับสายหมอก ฉันอยากบอก"ลาก่อน"อย่าซ่อนหา รักของฉันมิใช่หุ้นกักตุนมา พอราคาขึ้นกระฉูด..พูดเสียดาย นึกอยากถามนิยามจากสายหมอก คงจะบอกพร่ามัวกลัวเสียหาย ในหนึ่งใจดวงนี้มีมากมาย เกินความหมายสายหมอกจะบอกมา รักที่ฝากสายลมผ่านพรมห่าง คงเบาบางจางเจือเหลือมาหา แจกรายทางระหว่างกาลเวลา กว่าจะมาถึงยอดเขาคงเหงาตาย ปล่อยเอาไว้อย่างนี้ไม่ดีแน่ ต้องรีบแก้ข่าวนะก่อนจะสาย ให้น้ำตาไหลหล่นบนบ่าชาย ขอเป็นหยดสุดท้ายที่ไหลริน คงไม่ถามความหมายจากสายหมอก เพราะใจบอกว่าใจใฝ่ถวิล หากเป็นหุ้นซุกปั่นนั้นชาชิน หากเป็นสินอสังหายิ่งน่ามอง
12 กันยายน 2553 13:17 น. - comment id 1155767
อีกแระ คนอกหักรักร้าวข่าวสะพัด ทั้งข้องขัดซุกซนทั้งหม่นหมอง ใครผ่านมาคว้าตลอดกอดประคอง น้ำตานองเปียกอกอย่าตกใจ ทีแรกก็ขอเข่าของเค้าเช็ด น้ำตาเล็ดใต้ศอกเริ่มบอกไหล่ อีกสักพักย้ายเป็นอกกกละไม มันว่องไวไหลหลาม..จะปรามทัน คนอกหักรักร้าวข่าวกระจอก แกะไม่ออกกลบเกลื่อนจะเลื่อนขั้น อย่าเป็นห่วงแผลที่เก็บเจ็บทุกวัน แค่รำพันสักพัก...เริ่มชักงง
12 กันยายน 2553 14:37 น. - comment id 1155775
ไพเราะมากครับ..
12 กันยายน 2553 17:14 น. - comment id 1155784
...ในสายฝนหม่นหมอกระลอกริ้ว ชื่นฉ่ำผิวฉิวโชยละโหยหา ในกมลคนหงอยคอยตั้งตา นับเวลาเนิ่นนานที่ผ่านไป ข่มน้ำตาอารมณ์ระทมช้ำ เสกลำนำรำพันด้วยหวั่นไหว เพิ่มสำนึกลึกล้นที่หม่นใจ แสนอาลัยให้หวนเกินครวญคำ ระดะสายฝนหลั่งอีกฝั่งฟ้า รู้ไหมว่าคนใดใจถลำ คิดถึงเจ้าเฝ้าคอยอย่างหงอยงำ ยังจดจำคำมั่นเคยสัญญา รอหน้ามลคนไกลเกินใจฝัน ยิ่งหนาวสั่นฝนลมพรมภูผา ยะเยือกเย็นจับขั้วหัวใจชา หลั่งน้ำตารินหยดจนหมดกาย เมื่อเช้ามาแซวเล่นน่อ
12 กันยายน 2553 18:56 น. - comment id 1155797
เพราะมากเลยครับท่านลายกบ เยี่ยมมาก
12 กันยายน 2553 19:54 น. - comment id 1155806
มาอ่านอย่างเดียวเลยค่ะ ไม่ได้เขียนกลอนหลายวัน สนิมเกาะแล้ว อิ
12 กันยายน 2553 20:53 น. - comment id 1155827
..ว้าว เยี่ยมทั้งสองท่านเลยครับ
13 กันยายน 2553 12:11 น. - comment id 1155843
ขั้นเทพเลยทั้งสองท่านนะค่ะ คนอ่านก็กำไรเห็นๆ ขอบคุณที่เขียนกลอนไพเราะๆให้อ่านค่ะ
13 กันยายน 2553 12:16 น. - comment id 1155846
ต่อคุณ..คนเดียวกัน ในม่านฝนปนม่านใจของใครเอ่ย? ด้วยไม่เคยตอกย้ำเห็นความหมาย ทิ้งฉันอยู่โดดเดี่ยวอย่างเดียวดาย กลับวุ่นวายยินคำถลำลวง ฝนสั่งฟ้ายาสั่งใจตายสนิท เผลอครุ่นคิดเป็นเราที่เขาห่วง จริงหรือเปล่า?กล่าวคอยว่าหงอยทรวง ต่างถามทวงสัญญาฟ้าพยาน อย่าเป็นเพียงชื่นชมคารมปาก แกล้งมาฝากเหมือนลมที่พรมผ่าน เจ็บมามากยากจนจะทนทาน คนโปรดปราณถ้าเปลี่ยนแปลงหมดแรงใจ แบบว่า..แต่งเองแล้วซึ้งเองค่ะ
14 กันยายน 2553 13:38 น. - comment id 1155945
เจอทั้งฝนทั้งลม เป็นหวัดเลยนะคะ
14 กันยายน 2553 07:37 น. - comment id 1156000
หวัดดีขอรับ...ท่านโป้ง...สุริยันต์... ไพเราะยิ่งนัก... ฝนพรมผืนพื้นดินซับกลิ่นแล้ง ดินเคยแห้งพลันกลับซับหยาดฝน ขุจีเขียวเรียวใบได้ผลิยล ขอบคุณคนครวญคร่ำรำพันมา เสนาะจิตคิดตามยามได้อ่าน เหมือนซึมซ่านม่านฝนบนชั้นฟ้า อักษรมิตรจิตรักทักจิตรา พรายพนาถึงมิตรจิตรรำพัน
14 กันยายน 2553 10:43 น. - comment id 1156042
ธรรมชาติจับคู่ให้ดูผล ปุถุชนม่านฝน/กับคนฝัน คนอกหัก/ตะวันรอนจะย้อนวัน ยามทิ้งกัน/จันทร์เจ้าเอ๋ยเฉลยที แล้วเธอเป็นเช่นไร?ในม่านฝน ถูกทิ้งจน/เพ้อพก/อกป่นปี้ น้ำตาไหลในสายฝนหรือคนดี แม้ไม่มี...วิ่งเล่นฝนซุกซนกัน
14 กันยายน 2553 13:46 น. - comment id 1156047
หวัดดีครับท่านสุริยันต์ งานเขียนงดงามครับ ให้มีความสุขในม่านฝนนะครับ
14 กันยายน 2553 20:02 น. - comment id 1156136
ยอดเยี่ยมทั้งสองชายค่ะะ
14 กันยายน 2553 20:58 น. - comment id 1156164
ในม่านฝนหม่นมัวสลัวเศร้า ในม่านเราหม่นมัวสลัวเหงา ในม่านใจหม่นหมางระหว่างเรา ในม่านเหงาหม่นเศร้าและร้าวราน แวะมาทักทายผลงานดีดีค่ะ
15 กันยายน 2553 02:01 น. - comment id 1156214
ขอต่อนะคะ ไม่มีเศร้ามากมายในสายฝน ไม่มีคนเหงาจริงแค่อิงสาร์น ไม่มีเราเคล้าคลอรอวันวาน ที่ร้าวรานพูดล้อ...เพื่อง้อแฟน.... (แซวไปตามประสา..อยากต่อกลอนไม่โกรธนะคะ)
15 กันยายน 2553 17:39 น. - comment id 1156350