วันจักรี ๒-๓-๒-๕ วันสถาปนาธานีที่ยิ่งใหญ่ โดยกษัตริย์นักรบผู้เกรียงไกร หวังสถิตเสถียรไปให้เนิ่นนาน เป็นศูนย์รวมเผ่าไทยทั้งใต้เหนือ เป็นแหล่งเอื้อพุทธศาสน์ธรรมสถาน เป็นแหล่งรวมบรรดาวิชาการ เป็นศูนย์ศิลป์ผสมผสานงานฝีมือ มีแม่น้ำพาดอยู่อย่างคูหน้า รับพม่าคู่ขันอันเลื่องชื่อ ทั้งรับรุกต่อกันลั่นระบือ กว่าร้อยปีราวคือคัมภีร์ ทั้งไม่ไกลกันมากจากปากน้ำ รุกรบไล่ติดตามได้เต็มที่ พลาดพลั้งก็อาจถอยดูท่าที ทำเลนี้ต้องในพิชัยสงคราม ยามว่างศึกยังง่ายจะขายค้า หลากสำเภามุ่งหน้ามาสยาม ศิลปวิทยาเข้ามาตาม เมืองอมรก็งดงามตามชื่อเมือง สถาปนาธานีสามปีกว่า ทัพพม่าทั้งเก้าเข้าหนุนเนื่อง ปิ่นจักรีตีโต้แตกเนืองเนือง เมืองมิได้ระคายเคืองหรือลำเค็ญ วันจักรี ๖ เมษายน ๒-๕-๕-๓ เกิดกบฏถ่อยทรามอย่างที่เห็น แผ่นดินเคยรื่นรมย์และร่มเย็น กลับกลายเป็นร้อนรุ่มราวสุมไฟ ขอบคุณที่มาจาก http://www.oknation.net/blog/detniyom/2010/04/06/entry-1
6 เมษายน 2553 19:45 น. - comment id 1116633
ขอคารวะลุงแทน.....พร้อมอารมณ์ประมาณเดียวกัน...... "วันจักรี 6 เมษายน 2-5-5-3 เกิดกบฎถ่อยทรามอย่างที่เห็น แผ่นดินนี้เคยรื่นรมย์และร่มเย็น กลับกลายเป็นร้อนรุ่มราวสุมไฟ"...... ....เพราะไม่รัก ศักดิ์ศรีของมนุษย์ เปรียบประดุจคนโง่หรือไฉน จึงขายจิตวิญญาณของตัวไป ร้อนเป็นไฟให้โลกลือ.....กระบือแดง.....
7 เมษายน 2553 09:18 น. - comment id 1119223
ท่านโอ้ละหนอก็ต่อกลอนได้ไพเราะแต๊ๆเน้อเจ้า
7 เมษายน 2553 11:50 น. - comment id 1119305
เข้ามากราบลุงแทน... เพื่อความสงบใจ เนื่องจากข้างนอกร้อนเหลือเกินครับ
8 เมษายน 2553 15:40 น. - comment id 1119506
ความคิดเห็นที่ 1 มรึงพูดส้นตรีนอะไรวะ พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เหรอ