ฉันเห็นคำตอบในกรอบไม้ ว่ารอยใจยังเรื่อเรืองอยู่เบื้องหน้า ผ่านยิ้มอุ่นละมุนหวานผ่านแววตา ก็รู้ว่ารักเอย...มิเคยไกล เปิดลิ้นชักทรงจำแห่งค่ำวาน ยังตระการมิหยุดฝันแม้วันไหน กี่เรียงร้อยเรื่องราวผะผ่าวใจ ก็ทับถมภายในทั้งใคร่ครวญ คานไม้ไผ่ทำมือไม่รื้อถอน เคยผูกซ้อนโยงระยางที่กลางสวน สองมือไกวไหวเห่ยังเปลญวน อนุสรณ์ครบถ้วน ล้วนอย่างเคย กำไลเท้า กำไลมือ คือของขวัญ เมื่อวัยวันเอื้อนคอยแห่งถ้อยเอ่ย ขอข้าวแกง ช้างม้า จันทราเอย ลมรำเพยยังซึ้งอยู่มิรู้จาง เคยนั่งนิ่งพิงตักแม่ถักผม เคยหกล้มเลือดนองเข่าสองข้าง เคยสดใสลิงโลดโดดหนังยาง เคยแก้ต่างตีโจทย์หนีโทษตัว เมื่อรถไฟแล่นผ่านชานชาลา เหมือนภาพฉายเคลื่อนช้ากว่าในหัว บานกระจกหม่นพร่าในตามัว ก็ปรากฏรอยรั่วของตัวเอง กี่บรรทัดหนาวร้อนซ่อนน้ำตา กลั่นวาจา ติดหล่มการข่มเหง ส่งจดหมายอย่างดื้อรั้นและหวั่นเกรง หวังได้ยินเสียงเพลงตอบกลับมา เมื่อเป็นโลกใบนี้ที่แม่กอด ใจก็ปลอด ปล่อยวางอย่างช้าๆ จงยอมรับการตักเตือนเหมือนเคยมา ก่อนข้ามฝ่านทีสีทันดร ........................................................... "...ขอนไม้ ไร้หางเสือ เธอเสกสร้างเรือสำเร็จไหม มีโอกาสใส่ใบหรือเปล่า หลายคราวเธอย้ายถิ่น ผืนน้ำสู่แผ่นดิน แสนหนักลากไป ใครช่วยแบ่งเบา" เทพศิริ สุขโสภา ...........เมื่อเป็นโลกใบนี้ที่แม่กอด..........
12 ธันวาคม 2552 19:38 น. - comment id 1073316
คิดถึงแม่ง่ะ แม่ไม่เคยถักผม เพราะไว้จุก
12 ธันวาคม 2552 20:12 น. - comment id 1073329
พี่เสมอจุก ไว้จนถึงตอนนี้เลยเหรอคะ ไอ้หยา.. แล้วหน้าตาตัวเป็นๆจะยังไงเนี่ย
12 ธันวาคม 2552 20:24 น. - comment id 1073335
ใครจะกอดอุ่นเท่าแม่อีกล่ะคะ ไม่มีอีกแล้วนะ
12 ธันวาคม 2552 20:33 น. - comment id 1073338
คุณครูกระดาษทรายคะ แตงชอบรูปมากเลยล่ะค่ะ ^^ ขอเซฟเก็บไว้นะคะ อุตส่าห์เอารูปมาฝาก ขอบคุณมากๆเลยค่ะ แบบนี้ต้องขอกอดทีนึงนะ
12 ธันวาคม 2552 21:47 น. - comment id 1073372
อ่านไปน้ำตาคลอเอ่อเลยค่ะ กอดท่านแน่น ๆ นะคะ
12 ธันวาคม 2552 22:22 น. - comment id 1073394
พี่ปรางทิพย์ ชอบรูปอีกแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ กอดเบาๆแม่ก็เข้าใจค่ะ กอดแรงกลัวแม่หายใจไม่ออกง่ะ
12 ธันวาคม 2552 22:45 น. - comment id 1073404
งามคำ ละมุนใจ หวามไหว จนรู้สึก
12 ธันวาคม 2552 23:18 น. - comment id 1073430
อบอุ่นจริง ๆ ครับ น้องแตง งดงามมาก
13 ธันวาคม 2552 08:14 น. - comment id 1073474
พี่เสมอจุก ไว้จนถึงตอนนี้เลยเหรอคะ ไอ้หยา.. แล้วหน้าตาตัวเป็นๆจะยังไงเนี่ย อยากรู้หน้าตาเป็นงัยจุดธูป2ดอกปักกลางแจ้ง แล้วท่อง"โอม มามะปริภุญชันตุ จะมหาภูตา จงมาจงมาจงมา " กลางคืนก็จะไปเข้าฝัน
13 ธันวาคม 2552 08:25 น. - comment id 1073476
ธูปไม่พออ่ะ แน่ใจเหรอให้ใช้ 2 ดอก
13 ธันวาคม 2552 08:33 น. - comment id 1073478
รูปที่พี่ปรางค์ส่งให้ กินใจเกินคำบรรยาย ตัวเล็กว่ามั้ย
13 ธันวาคม 2552 08:37 น. - comment id 1073480
แห่ะๆ นึกว่าพี่โกรธซะอีก นี่ยังไม่ได้ใช้ธูปซักดอกเรียกเลยนะ รูปพี่ปรางค์สวยดีค่ะ ส่วนรายละเอียด.............ไม่รู้! เผ่นดีกว่า
13 ธันวาคม 2552 08:43 น. - comment id 1073482
พี่เสมอจุกชวนคุยซะเพลินเลย แย่จริง ลืมเสียสนิทเลย ว่ากำลังนั่งพิงต้นไม้อยู่ ขอบคุณ ต้นไม้ต้นที่ 7 และ 8 ด้วยนะคะ จะตามไปอาศัยร่มเงาบ่อยๆ อุ่นค่ะอุ่น
13 ธันวาคม 2552 09:57 น. - comment id 1073496
ตัวเล็ก อารมณ์ได้แล้ว อารมณ์คนไกลบ้าน ว้าเหว่ คิดถึงแม่ ความหลังที่สวยงามเสมอ ขัดเกลาคำนิดหน่อยก็เลิศ มีการบ้านให้หนึ่งข้อ ดูภาพที่คุณปรางทิพย์ลงให้ ภาพนี้สืออารมณ์ได้ชัดจนทั้งตัวแม่และตัวลูก ลองคิดดูว่าแม่จะรู้สึกอย่างไร จับอารมณ์มาแต่งกลอนดู ขอให้มีความสุขครับ
13 ธันวาคม 2552 22:04 น. - comment id 1073730
พี่ฤทธิ์ .. แตงชอบการบ้านของพี่ค่ะ แตงอยากเขียนให้ได้นะ แตงอยากเขียนบทกวีที่มีค่าต่อคนอ่านเหมือนพี่บ้าง ไม่อยากมีนามปากกา ไม่อยากให้ใครจดจำ อยากให้ตัวหนังสือสื่อความหมายก็พอแล้ว ขอโทษนะคะ ที่ไม่มีบทกลอนมาส่ง ตอนนี้แตงมีเรื่องมากมายที่ต้องทำน่ะค่ะ ไม่ได้ท้อนะคะ แค่อยากพักเหนื่อย แตงมีสอบทั้งอาทิตย์เลยค่ะ สอบเสร็จก็ต้องไปฝึกงานอีก คงจะหายหน้าไปซักพัก แตงไม่รู้ว่าหลงเข้ามาอยู่ในโลกบทกวีตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีแตงก็นั่งร้องไห้ นั่งดีใจอยู่กับหน้าจอคอมไปแล้ว แตงจะไม่ลืมพี่เลยล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะคุณครู วันนี้แตงเข้าไปอ่านงานของพี่ "เรือภาค1 แหวนดอกไม้" ประทับใจมากเลยค่ะ แตงขออนุญาตนำกลอนบางบทของพี่มาใส่ในบ้านแตงนะคะ ..จงเข้มแข็งเพื่อฉันอย่าหันหลัง หากเธอยังเชื่อมั่นเหมือนฉันเชื่อ หวั่นศรัทธาถอยห่างจนจางเจือ อย่าน้อยเนื้อต่ำใจยามไกลจร ถ้าใจน้อยบ่อยครั้งจะฝังราก จนลึกมากเกินหยั่งหรือรั้งถอน ถ้าคิดถึงทุกคราวก่อนเข้านอน ก็ยากคลอนใจคลายให้หน่ายกัน แหวนดอกไม้วงน้อยดูด้อยค่า สวมเถิดถ้าวันหนึ่งคิดถึงฉัน อาจเก็บไว้ใส่ตลับคอยนับวัน อย่าปล่อยมันทิ้งขว้างลงกลางทราย แหวนที่มือหยาบกร้านฉันสานจีบ ทุกก้านกลีบมาลีมีความหมาย มีสุขทุกข์เจ็บปวดเป็นลวดลาย ขมวดปลายเป็นขดแทนอดทน หวังหนาวหน้าฝ่าคลื่นมายืนคู่ ฝ่าฤดูมรสุมและกลุ่มฝน ผ่านวันล่วงเลยล่องเราสองคน คงข้ามพ้นความเหงาแห่งเยาว์วัย จะเรียนรู้ใจกันเมื่อวันห่าง ระยะทางเปลี่ยนแปรเราแค่ไหน ฉันจะยังคงรอเธอก่อไฟ โปรดอย่าให้ไฟสรวงนั้นร่วงลง ทะเลค่ำน้ำเค็มไร้เข็มทิศ เมื่อมืดมิดเรือน้อยคงลอยหลง ถ้าแสงสรวงดวงนั้นยังมั่นคง ก็โปรดจงส่องสว่างนำทางเรือ ฉันจะรอดาวรุ้งจนรุ่งฟ้า นำนาวาเดินทางด้วยหางเสือ หวั่นเขม่าเร้ารุมจนคลุมเครือ อาจเป็นเหยื่อมัจฉาให้ปลากิน ฉันจะใช้การกระทำแทนคำพูด บทพิสูจน์ชายชาญคืองานหิน เมื่อภาระผ่านพ้นไร้มลทิน นกขมิ้นอาภัพจะกลับรัง. ...................... ขอบคุณต้นไม้ทุกต้นที่ให้ที่พักพิงค่ะ แม่ของแตงบอกมาว่า "เวลาที่ลูกเจ็บ แม่เจ็บกว่า"
14 ธันวาคม 2552 10:47 น. - comment id 1073832
รักแม่ที่สุด
14 ธันวาคม 2552 11:36 น. - comment id 1073845
รักแม่ที่สุดเหมือนกันค่ะสาวน้อย
14 ธันวาคม 2552 16:01 น. - comment id 1073954
คิดถึงแม่จังเลยค่ะ
15 ธันวาคม 2552 09:22 น. - comment id 1074342
เก่งมากๆ ครับ คุณตัวเล็ก แต่งกลอนได้ไหลรื่น และเห็นภาพด้วย บทกลอนนี้ มีคุณค่าแก่การอ่านมากๆ ครับ