สมุทร สุดเขตล้ำเรียก ......... อ่าวไทย สา ธกอันเกรียงไกร ....... เกียรติก้อง คร วีท่าฉลอมไป ............ เป็นหนึ่ง เมือง สุขาภิบาลพร้อง ........ เพรียกใช้ยาวนาน ประ กอบกิจสัตว์น้ำ ........... เนืองนอง มง กุฎบนครรลอง .......... ค่าล้น ดง เศรษฐกิจชวนปอง ..... ปรากฏ โรง หล่อหลอมพลังค้น ..... คิดค้ามากมาย งาน ดำเนินเกิดต้อง .......... ตามมา ลาน กิจกรรมนำพา ............ เพียบพร้อม เกษตร กรรมอีกนานา ............ ชนิดชีพ ชนเอย และ ส่งเสริมแวดล้อม ........ ร่วมสร้างสีเขียว เขต แห่งพันท้ายซื่อ ............ ชื่อสิงห์ ประ จักษ์ถือสัตย์อิง ............. เอ่ยอ้าง วัติ ริมเขื่อนป้อมฯยิง ......... ยืนหยัด ศาสตร์ วิจิตรศิลป์กว้าง ........... จ่อก้าวยาวไกล![]()
1 ตุลาคม 2552 18:00 น. - comment id 853131
วันนี้จะเที่ยวให้ครบทุกบ้านเลย...อิอิ
1 ตุลาคม 2552 13:51 น. - comment id 1045828
มาชกที่ 1
1 ตุลาคม 2552 13:52 น. - comment id 1045829
เอาใหม่ตกภาษาไทย.. น่าอายจริง ๆ มาฉกค่ะ มาฉก... รีบเกิน เลยชกซะเลย... จัดโคลงมาอย่าให้เสีย... (ช่วงดึกนะ) คิดถึง...
1 ตุลาคม 2552 14:13 น. - comment id 1045846
1 ตุลาคม 2552 15:01 น. - comment id 1045866
มาเดินเล่นแถวเพื่อนบ้านจ้า อันนี้ใกล้ที่สุดดดด.... "สมุทรสาคร" อิอิ..... ปล. เหอ เหอ......พักนี้แมง "ชก" หลายที่จังระวังจะเสียเหงื่อมากนะจ้ะน้องสาว ไม่ต้องรีบหรอกน่า ไม่มีคนแย่งเท่าไหร่ .....
1 ตุลาคม 2552 16:10 น. - comment id 1045910
อิอิอิ อยากเร็วเหมือนคุณแมงฯ แต่กลัวพลาด..............อิอิอิ (ล้อเล่นน๊า) รักคนสมุทรสาครนะ..รู้ไม๊ อิอิอิ น่าเที่ยวค่ะ ชอบ ชอบ
1 ตุลาคม 2552 16:29 น. - comment id 1045935
แหม มาล่าช้าแบบนี้สมควรปรับไหมเนี่ย ปล.แมง วันนี้ยกให้ฉก 1 วัน แบบว่ามัวแต่ไปช้อปน่ะ
1 ตุลาคม 2552 17:25 น. - comment id 1045966
เยี่ยมครับ
1 ตุลาคม 2552 21:31 น. - comment id 1046041
................................................ โอหนอว่าวัยวันช่างสั้นมาก นับจากวันเคยเนาเยาว์สมัย ผ่านเลยห้วงล่วงลับนับวันวัย เทียวท่องไปในทางฝันอันยืดยาว มหาชัยในจินตนาการนับนานมาก จนเลอะเลื่อนเลือนหลากหากจะเล่า ด้วยดวงใจได้ดื่มกินรินเรื่องราว กับนวลเจ้าเนื้อทองเหมือนต้องมนตร์ นั่งรถไฟตามทางรางลิบลิ่ว ผ่านแถวทิวสวนหลากหลายหมากผล ดังดุจฝันจับจินต์เคยยินยล หนทางบนหมอนกลางรางรถไฟ เที่ยวเส้นทางรถไฟในวันนั้น ยังใช้กันเป็นงานตราบวันใหม่ นิ่งนั่งสบตารับกับจอมใจ เมื่อวันไปเยือนถิ่นเธอยินยอม คิดคุยร่วมนั่งเรียงคู่เคียงขวัญ จับมือกันเพลงครวญมาท่าฉลอม ไหว้หลวงพ่อบ้านแหลมกะแก้มพะยอม แว่วเพลงกล่อมว่าหนุ่มหมายว่ายข้ามมา ออกจากมหาชัยไปบ้านแพ้ว นานมากแล้วไม่ได้ไปใจห่วงหา เรือเคยล่องคลองดำเนินเนิ่นนานนา เปียกฝอยน้ำกระเซ็นซ่าปร่าเนื้อตัว บ้านแพ้วพึ่งตลาดน้ำตามประวัติ เห็นชัดชัดคลองรายร่ายร่องทั่ว ปลูกผักผลสวนกล้วยไม้ไม่เกรงกลัว ทำกันทั่วพ่นฉีดยาฆ่าแมลง บ้านแพ้วกับมหาชัยไม่ต่างฝัน แต่น้ำนั่นแตกต่างกันอย่างแกล้ง น้ำบ้านแพ้วเยียบยั้งยังจืดแรง มหาชัยแปร่งน้ำเรื่อเจือรสเค็ม หากผ่านมาคราไหนใครไม่ทราบ นาเกลืออาบแดดบ่ายพรายสีเข้ม ภาพกังหันหมุนระหัดจัดน้ำเค็ม เพื่อเติมเต็มก่อนตากเกล็ดเป็นเม็ดเกลือ น้ำไล่ลิ้วปลิวระไวไหวระลอก กลัวผิวชอกแห้งคล้ำช้ำดอกเหงื่อ ราคาเกลือเกื้อหนุนคอยจุนเจือ หมวกคลุมเพื่อปิดผ้ามิดสนิทใน ออกทะเลเร่เรือเมื่อก่อนนี้ ไต้เรือมีแต่ลูกจีนถิ่นไหนไหน เป็นคนคุมเรือนำทุกลำไป เพราะเคยไกลกลายมาฝ่าฝั่งชล จนวันนี้เพ-ลาผ่านอาจนานมาก อีสานจากลูกเรือเรียนเปลี่ยนแปลงหน เป็นไต้ก๋งธงเรือเมื่อท่องทน ลูกเรือล้นเป็นพม่ากะคนมอญ ชาวมหาชัยใจซื่อถือสัตย์ยิ่ง เมืองพันท้ายนรสิงห์นามกระฉ่อน ยอมเสียชีพดำรงตนจนม้วยมรณ์ จึงตรัสตัดลัดล่องคลองมหาชัย เมื่อวันที่เมืองสมุทรสุดสายน้ำ คนหลายล้ำต่างกันเผ่าพันธ์ใหม่ ตราบเท่าที่คนที่นี่ยังมีใจ คนเมืองไกลก็ยังกล้ามาทำงาน หอมเอยหอมกลิ่นทะเลร่ำ เช้าค่ำเคยคาวปลาว่าหอมหวาน รสเค็มปร่ามาเติมฝันในวันวาน จึงแตกพ่านม่านมอญซ่อนเต็มเมือง ลูกน้ำเค็มมักจริงใจไม่ลวงหลอก แล่นเรือออกนอกท่าอย่ามีเรื่อง ศพฝังศพทำใมให้เปล่าเปลือง สุสานเนื่องทะเลกล้ามาแต่ใร อยากกลับไปไหว้พระนะอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟังคำหวานเคยขานไข เพื่อปลุกปลอบย้ำฝันวันต่อไป ถึงมหาชัยวันนี้ไม่มีเธอ เรืออวนรุนอวนลากกรากเทียบท่า เรียงละลานสะพานปลามาเสมอ ทอดสมอรายเรียงเพียงได้เจอ เหมือนรอเธอเมียงชะม้ายชายตามอง เพรียงเกาะเสาปูนเก่าไม่เข้าท่า ใจเหว่ว้าเกาะเยือนเหมือนยิ่งหมอง ลอยลำเรือเพรื่อหน้าน้ำตานอง ล่วงปากคลองออกทะเลเร่หาปลา นับแต่นี้ไม่มีคนดีแล้ว หวังพราวแพรวไม่มีนี่แก้วจ๋า น้ำกับฟ้าในเงาฝันของวันลา คล้ายบอกว่านับแต่นี้ไม่มีวัน ในบางคืนคลื่นคลั่งดั่งน้ำบ้า คนหาปลาพรั่นผวาพร่าประหวั่น ทะเลคืบทะเลศอกบอกต่อกัน เพื่อไม่พลันประมาทพลั้งแม้ครั้งเดียว จุดประทัดหวังให้ได้มีโชค ร่ายโศลกทูลกรมหลวงฯล่วงชลเชี่ยว กลางทะเลเห่ลมกลมคลื่นเกลียว เปลี่ยวแสนเปลี่ยวประทัดใจไม่คุคืน ขอเอากลอนที่เขียนไว้นานแล้วมแจมด้วยนะครับ
1 ตุลาคม 2552 21:37 น. - comment id 1046043
1 ตุลาคม 2552 23:33 น. - comment id 1046103
"สมุทรสาคร" อยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ แต่เชื่อมั๊ยว่าพี่ไม่เคยไปแบบจริงจังซะทีสงสัยต้องหาโอกาสเหมาะๆไปบ้าง ดีกว่าเนาะ
2 ตุลาคม 2552 09:22 น. - comment id 1046168
ผู้หญิงช่างฝันเป็นคนแม่กลองนะ บ้านพี่เมืองน้องกันเนอะ..
2 ตุลาคม 2552 11:07 น. - comment id 1046198
~ เมือง ประมงน่านน้ำ เนื่องนำ สมุทร อุตสาหกรรม เกี่ยวข้อง สา รพัดเกษตรทำ เที่ยวอิ่ม คร ชีพพันท้ายต้อง ตกพ้องโขนเรือ
2 ตุลาคม 2552 14:39 น. - comment id 1046288
สวัสดีค่ะ น้องสาวคนดี คิดถึงจ้ะคุณน้ำนม ขอบคุณค่ะ
น้องรี ใกล้ๆแค่นี้ เดินมาหาเลย คริๆ
คุณยายแม่มด ขอบคุณค่ะ แต่ถ้าถามว่า สค.มีที่เที่ยวที่ไหนบ้าง กทก.จะเป็นใบ้ไปในทันที ด้วยว่านึกไม่ออก เพราะรู้จักแต่วัด ร้านอาหาร และตลาด เท่านั้น
น้องเฌอ เอาน่าๆ ดีกว่าไม่มีส่งนา คริๆ
คุณปติ ตันขุนทด ขอบคุณค่ะ ที่มาเยี่ยม
คุณโคลอน ระวังหลงไปต่างประเทศนะคะ คริ
คนกุลา ยินดีค่ะ นับเป็นคุณค่าของวันวารนะคะ
พี่ยาฯ ขอบคุณค่ะ
พี่เทียนหยด ชาวสมุทรสาครยินดีต้อนรับค่ะ
ผู้หญิงช่างฝัน ต้องร้องเพลงหนุ่มนาข้าวสาวนาเกลือ คริ
คุณพจน์รำพัน เป็นโคลงกระทู้คำขวัญฯที่กระชับมาก ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ
3 ตุลาคม 2552 09:57 น. - comment id 1046550
ไปแล้วอยากไปอีกค่ะ อิอิ คิดถึงจังเลย มาช้าแต่ก็มาใช่ไหมคะ
3 ตุลาคม 2552 10:39 น. - comment id 1046605
พี่กล้า ที่จะก้าว ครับ โคลงนี้ ท่าจะแต่งยากนะครับ แต่แต่งออกมาได้ดี จริงๆๆ ว่างๆ จะลองหัดแต่งโคลงแบบนี้ บ้างครับ แต่รู้สึก ภาษา ผมจะไม่ถึง นะครับ เอาไว้ มีโอกาส งามๆ ก่อน อิอิ
3 ตุลาคม 2552 16:23 น. - comment id 1046727
เคยไปไหว้สาลพันท้ายนรสิงห์ นานมาแล้วอะ..แวะทานอาหารทะเลอร่อยๆ ..แล้วจะแวะไปนะครับ
3 ตุลาคม 2552 20:49 น. - comment id 1046878
ยอดไปเลยค่ะ อืมมีนัดจะไปเที่ยวสระแก้วก่อน สมุทรสาคร จะไปกลางเดือนตุลามั้ง เดี๋ยวดูเพื่อน ๆ ก่อนค่ะ
3 ตุลาคม 2552 21:07 น. - comment id 1046894
น้องสาวคนดี...ก้าวที่กล้า...พี่ตุ้ม..คิดว่าสักวันหนึ่ง..คงจะได้ไปเที่ยวที่บ้านน้องนะคะ..คิดถึงน้องค่ะ...
5 ตุลาคม 2552 16:32 น. - comment id 1047629
สวัสดีค่ะ น้องกานต์ ดีจ้ะ กลับมาแล้วเหรอ เรียบร้อยดีไหมกวีน้อยเจ้าสำราญครับ ถ้ากลอนสะดุดก็จุดโคลงนะ
วิธีเขียนโคลงสี่สุภาพ >> 0 0 0 อ ท .......... 0 ส ( 0 X ) 0 อ 0 0 ส .......... อ ท 0 0 อ 0 ส .......... 0 อ ( 0 X ) 0 อ 0 0 ท .......... อ ท 0 ส ( 0 X ) 0 = คำใดๆก็ได้ อ = รูปเอก หรือคำตาย เช่น แม่กก กด กบ และสระเสียงสั้น อะ อิ อุ เอะ แอะ ท = รูปโท ส = รูปสามัญ (คือ ไม่ใช้รูปเอก โท ตรี จัตวา) (ที่ขีดเส้นใต้ คือ ต้องส่งรับสัมผัสกัน และ ในวงเล็บ เป็นคำสร้อย มักเป็นคำที่ไม่มีความหมาย เช่น X = นา ฤา แล แฮ เอย เฮย พี่ แม่ เนอ นอ ฯลฯ ) ตัวอย่าง>> เสียงลือเสียงเล่าอ้าง ....... อันใด พี่เอย เสียงย่อมยอยศใคร ........ ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล ........ ลืมตื่น ฤๅพี่ สองพี่คิดเองอ้า ............... อย่าได้ถามเผือ (คำสร้อยตรงนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมี)อาจไม่นิยมมั้ง ไม่รู้สิ ส่วนเคล็ดลับอื่นๆ ลองๆสังเกตเอานะ และมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัย เพราะไม่ค่อยสันทัด คริ
คุณกิ่งโศก ยินดีต้อนรับค่ะ
คุณครูกระดาษทราย ยินดีต้อนรับค่ะ
พี่ตุ้ม ยินดีต้อนรับค่ะ คิดถึงนะคะ
ขอบคุณค่ะ