นัดพบญาติวันสาร์ทเดือนสิบ ไม่ลืมหยิบ"พอง" "ลา" และอาหาร ออกเดินทางอย่างสนุกสุขสำราญ พาพ่อแม่ลูกหลานไปงานวัด นำขนมผลไม้ไปใส่"หมรับ" ยกสำรับกับข้าวตามถนัด "ตั้งเปรต"ปลดปล่อยสิ่งเคืองคัด ที่ผูกมัดจิตใจให้ปลดปลง ทำจาคะทานังบังสุกุล ส่งผลบุญให้ญาติตามประสงค์ อุทิศให้บรรพชนในเผ่าพงศ์ ผู้วายชนม์ได้พบองค์พระสัมมา หากญาติผู้ใดได้เป็นเปรต นิมนต์พระแก้เภทด้วยคาถา เปิดปากรับส่วนบุญด้วยบุญญา สมมติพองคือเงินตรานำไปใช้ ขนมลาสมมติว่าเป็นผ้าห่ม ทุกข์ระทมหนาวเหน็บพาเจ็บไข้ มารับเอาส่วนบุญเป็นทุนไป เปรตจักได้อานิสงค์จำนงค์ทำ อันเปรต ปราชญ์ถือคือความอยาก คิดละโมบโลภมากไม่อิ่มหนำ มีชีวิตไม่คิดเรื่องเวรกรรม บุญไม่ทำได้แต่รับเอากลับเรือน ปุคลาธิษฐานมือบานใหญ่ องคชาติเท่าไหหาใดเหมือน สูงชะลูดดุจต้นตาลจิตฟั่นเฟือน เปรียบเสมือนผีห่าที่ราโรย ปากเท่าเข็มเล็มและแทะอาหาร ทรมานกินไม่ได้ให้หิวโหย ร้องครวญครางขอส่วนบุญเสียงโอดโอย กลิ่นเหม็นโชยร่างเปลือยเปล่าเฝ้ารับทาน อุทาหรณ์สอนใจให้ได้คิด วิปริตสังคมไทยไร้แก่นสาร ลืมรากเหง้าไม่เข้าวัดดัดสันดาน ยกเหตุการณ์วันสาร์ทมาวาดกลอน
21 กันยายน 2552 17:01 น. - comment id 1041288
ได้กระยาสารทมาเต็มเลยค่ะ
21 กันยายน 2552 20:31 น. - comment id 1041390
สวัสดีค่ะ ปะการังก็กลับบ้านไปทำบุญที่นคร คุณวชรกานท์ไปทำบุญที่ไหนค่ะ อยู่ใกล้ๆกันหรือเปล่า แวะมาทักทายคนบ้านเดียวกันค่ะ
21 กันยายน 2552 20:51 น. - comment id 1041409