ยิ้มสยามเรืองนามข้ามเขตแดน ทุกแว่นแคว้นทศทิศพิสมัย แดนสวรรค์บนดินอันถิ่นไทย งามน้ำใจไมตรีกิริยา ประวัติศาสตร์เผ่าพันธุ์บรรพกาล สร้างสืบสานรวมชาติศาสนา องค์กษัตริย์สมมติเทพเทวา ปกไพร่ฟ้าทหารกล้าข้าแผ่นดิน เจ็ดร้อยปีสุโขทัยสมัยทอง พ่อปกครองเรืองรองกองทรัพย์สิน ดินน้ำชุ่มข้าวปลาได้หากิน เป็นอาจิณแหลมทองของผองไทย ผลัดแผ่นดินพ่อขุนรามงามอักษร จำจากจรมาบรรจบภพสมัย อวสานสุวรรณภูมิสุโขทัย จึงแล้วไซร้อโยธยาราชธานี สถาปนาเจ้าอู่ทองขึ้นครองราช ก่อปราสาทราชวังตั้งกรุงศรี ขุดคูคลองล้อมรัดด้วยนที งามบุรีแซ่ซ้องทองธารา มัจจุราชชาติพม่ากรีธาทัพ ริดรอนจับพังพินาศศาสนา เดือดร้อนองค์สงฆ์เจ้าพระปฏิมา ท้องนภาแดงฉานเลือดหยาดริน ศึกภายนอกนับพันหาหวั่นไม่ เท่าศึกในคนมักใหญ่ใฝ่ทรัพย์สิน มันขายชาติทรยศกบฏแผ่นดิน จึงสูญสิ้นแผ่นดินทองถึงสองครา แผ่นดินร้อนราชวงศ์องค์เหนือหัว ทุกข์ถ้วนทั่วตัวคนจนหนักหนา รวมไพร่พลซ่องสุมซุ่มศาสตรา กู้กรุงมาทั้งสองคราคืนธานี คราแรกพระนเรศวรมหาราช ทรงประกาศเอกราชชาติกรุงศรี หลั่งน้ำสัตย์ปฏิญาณปฐพี ต่อแต่นี้ไม่เป็นทาสของชาติใด พระมหาอุปราชชาติพม่า สุดโกรธารู้แจ้งแถลงไข กรีธาทัพนับแสนสู่แดนไทย หวังชิงชัยไล่ฆ่าไม่ปรานี เมื่อนั้นพระนเรศวรมหาราช พระแสงฆาตเร่งรุดยุทธหัตถี พระมหาอุปราชพลาดเสียที สิ้นชีวีขาดคอช้างกลางไพร่พล ศึกคราสองพระเจ้าตากฝากเมืองไว้ กูไม่ตายจักกลับมาฆ่าอีกหน ด้วยเวียงวังอัปยศทุรชน ลี้ไพร่พลอยู่ป่าเขาลำเนาไพร ยึดเมืองจันทบุรีเป็นที่มั่น กูจักบั่นคอพม่าที่อาศัย รวมชุมนุมไพร่พลขนปืนไฟ รบขับไล่พวกพม่าพ้นธานี กว่าสี่ร้อยสิบเจ็ดปีกรุงศรีภพ เกิดนักรบเรืองอำนาจเป็นศาสตร์ศรี งามวิจิตรวังวิหารปราชญ์กวี ถึงวันที่ก่ออุบัติผลัดแผ่นดิน เข้าสู่กรุงธนบุรีศรีสยาม เลื่องลือนามเหนือเกล้าเจ้าตากสิน มหาราชชาตินักรบกู้แผ่นดิน ดั่งไม่สิ้นคนดีศรีนคร แล้วปราบดาขึ้นเป็นองค์กษัตริย์ สองพระหัตถ์ตรากตรำทำสมร ทั้งชีวิตฆ่าฟันดัสกร ราษฎรมีชาติเอกราชไทย สิบห้าปีกรุงธนบุรีศรีสมุทร ถึงการหยุดอวสานพาลสลาย เจ้าตากสินอำลาสวรรคาลัย สืบชาติไทยในกาลปัจจุบัน พ.ศ.สองพันสามร้อยยี่สิบห้า เทพเบิกฟ้าเทวดาบนสวรรค์ องค์กษัตริย์สมมติเทวัญ เอกอนันต์อุบัติลงวงศ์จักรี พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ดับทุกข์โศกกล่อมขวัญพลันสุขี สร้างเมืองหลวงอีกฝั่งกรุงธนบุรี ด้วยนทีเจ้าพระยาเป็นปราการ สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ นามแผ่นดินไร้สิ้นกาลอวสาน วิมานเทพกษัตราอวตาร ประดิษฐานพระแก้วคลาดแคล้วภัย บริบูรณ์น้ำท่าธัญญาหาร บริบาลไพร่ฟ้าจนหน้าใส ศาสนสถานงามอร่ามไกล เลิศวิไลสมฤดีสุดปรีดา ประเพณีสงกรานต์วันสารทโกน ยี่เกโขนโจนทะยานสุดหรรษา เพลงเห่กล่อมร่ายรำดูงามตา สื่อภาษางานอักษรเป็นกลอนกานต์ สองร้อยปีกรุงรัตนโกสินทร์ คุณแผ่นดินล้นฟ้ามหาศาล ผ่านความสุขทุกข์เศร้ามายาวนาน ดลบันดาลยืนยงธงชาติไทย กราบพระสยามเทวาธิราชเจ้า ผู้ปกเกล้าฯแดนดินถิ่นอาศัย ด้วยคุณพระศรีรัตนตรัย ขอชาติไทยสงบสุขสวัสดี ......................................... ข้าพระพุทธเจ้าระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ อีกทั้งวีรชนทหารกล้าข้าแผ่นดิน ผู้ที่ยอมเสียสละเลือดเนื้อแลกมาซึ่งแผ่นดินไทย ให้ลูกหลานได้อยู่ได้อาศัยอย่างมีความสุขสวัสดีจนถึงทุกวันนี้ มันผู้ใดที่คิดทำอันตรายต่อแผ่นดินไทย ขอให้มันผู้นั้นมีอันเป็นไป....สาธุ นาคะพรรณ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๑
11 กันยายน 2551 17:55 น. - comment id 894915
สุดยอดเลยค่ะมาอ่านประวัติศาสตร์กว่าจะมาเป็นชาติไทยที่มีเอกราชมิได้มาง่ายดาย แต่ต้องแลกมาด้วยเลือด และความกล้าหาญ รักแผ่นดินเกิดและเหนืออื่นใดคือเสียสละ เห็นแก่ชาติเป็นที่ตั้ง รอยยิ้มสยามจะเกิดได้ต้องรักและสามัคคี เลิกขายชาติ
11 กันยายน 2551 18:48 น. - comment id 894923
ยอดเยี่ยมครับ มาร่วมสดุดีแด่องค์วีระกษัตริย์ไทยครับ
11 กันยายน 2551 19:16 น. - comment id 894926
น่าภาคภูมิใจในบรรพบุรุษไทยเหลือเกินครับ สมเด็จพระราชินีทรงเป็นห่วงมาก อยากให้เน้นเรื่องการเรียนการสอน ประวัติศาสตร์มาก .. ทรงตรัสว่าชาติอื่นที่เค้ามีประวัติศาสตร์อันน้อยนิด เค้ายังสอนกันเน้นย้ำเหลือเกิน เมื่อไหร่กระทรวงศึกษาไทยจะพัฒนามั่ง ... ไม่เห็นด้วยกับคนที่ทำบ้านเมืองแตกแยกครับ.
11 กันยายน 2551 21:35 น. - comment id 894943
แวะเข้ามายิ้ม แบบรักชาติด้วยคน
11 กันยายน 2551 23:55 น. - comment id 894977
อ่านแล้วคิดถึงเพลงสยามเมืองยิ้มจัง..อิอิ
12 กันยายน 2551 00:18 น. - comment id 894991
ประวัติศาสตร์ชาติไทยยิ่งใหญ่นัก ชนประจักษ์ทั่วโลกาแหล่งอาศัย ดินแดนนี้เรืองชื่อระบือไกล บรรพชนไทยรักษามายาวนาน เอาเลือดเนื้อเข้าแลกใครรานรบ ไม่สยบศัตรูสู้เพื่อลูกหลาน ใครหน้าไหนทำลายไทย ขอให้วายปราณ ใครผิดคำปฏิญาณ ให้วอดวายไปทุกคน. ..สยามเมืองยิ้ม เป็นคำที่ตราตรึงใจคนไทยตลอดมา...ขอบคุณครับ..
12 กันยายน 2551 06:51 น. - comment id 895030
... กว่ารุ่งเรืองเฟื่องฟุ้งจรุงฟ้า หอมศรัทธามหาชนแห่งล้นเกล้า เหลียวมองหลังครั้งผันมานานเนา ก็พบเงารายร่างนอนวางเรียง ฝากฝันเคยถามพวกเงาะป่าที่พัทลุง... เขาบอกว่าเขาอยู่ที่ในเทือกเขาบรรทัดมาน๊าน นาน..กลับลางเลือนมากในประวัติศาสตร์... จึงสงสัยมากว่า..ในอดีต..เขาคือส่วนไหนของประวัติศาสตร์สยาม การก่อร่างสร้างเมือง...ผู้ชนะสามารถรวบรวม กลุ่มชนได้..ครอบครองได้ก็คือผู้ปกครอง หากเรามองย้อนหลังนานไปอีก...เราก็จะพบอะไรที่พิลึกพิลั่นอีกมากมาย... อิอิ..โทษทีนรบกวนค้นต่ออีกหน่อยนะครับ
12 กันยายน 2551 10:56 น. - comment id 895103
ขอบคุณเพื่อนๆ ยิ้มสยามทุกท่านอย่างมากครับ ที่ช่วยกันร่วมสร้างสรรค์ผลงานดีๆให้เกิดแก่สังคมไทยของเรา ขอความคิดดีทั้งหมดทั้งสิ้น กลับไปสู่ทุกผู้ทุกคนในสยามประเทศครับผม "ขอบคุณมากๆ.....ครับ"
12 กันยายน 2551 16:22 น. - comment id 895224
เยี่ยมยอดเลยครับขอบอก
12 กันยายน 2551 16:37 น. - comment id 895244
ยิ้มสยามงามมาแต่โบราณ แม้นพบพานศึกใหญ่ก็ใจกล้า ยิ้มเย้ยหมู่ศัตรูผู้ปรีดา ยิ้มแก่ญาติวงศาให้กำลัง สวัสดีค่ะนาคะพรรณ มาส่งรอยยิ้มไว้ตรงนี้ด้วยค่ะ
12 กันยายน 2551 23:24 น. - comment id 895401
แวะมาฝากรอยยิ้ม แหยๆค่ะ
13 กันยายน 2551 11:13 น. - comment id 895506
แวะมาส่งยิ้มให้เจ้าค่ะ......