คณาธิปไตย
กฤตศิลป์ ชินบุตร
อธิปไตยไท
วิสุทธิ์ใสวิไลแสน
เกียรติก้องระบือแดน
ทั่วเขตแคว้นขนานนาม
ประชาธิปไตย
ชื่อคนไทยแดนสยาม
สร้างเมืองเป็นเมืองราม
ประชางามประชาชน
อำนาจเสมอเท่า
จงเลือกเอาผลิตผล
ปากเสียงทุกมณฑล
ธราดลสุขร่มเย็น
ประชาธิปไตย
ยุคสมัยใครจะเห็น
เงามืดที่แฝงเร้น
ดุจจันทร์เพ็ญเด่นตระการ
ปากกากากบาท
มือสะอาดฤาสามานย์
รอยเส้นที่ผสาน
ฤารอยผลาญประเทศไทย
ศึกรักไม่รู้จบ
แลศึกรบหาสิ้นไม่
เศษเงินที่หว่านไป
คือกำไรมหึมา
อธิปไตยไทย
วิวัฒน์ไปกระไรหนา
แก้ด้วยมือประชา
ทั่วอาณาประชากร
หาใช่คนหยิบมือ
จะลุกฮือมือสลอน
จุดไฟเผานาคร
อนุสรณ์วีรกรรม
อัตตาที่ตั้งตน
ใส่เล่ห์กลคนเพ้อพร่ำ
รวมตัวเป็นผู้นำ
คนชูค้ำประจัญบาน
จะกู้ประชาธิปไตย
ให้สดใสเหมือนวันวาน
สร้างเมืองอุดมการณ์
เพื่อชูพานพระแว่นฟ้า
เงื่อนไขรัฐธรรมนูญ
อนุกุลซึ่งเงินตรา
กดขี่ชาวประชา
อหังการ์กล้ากระทำ
จึงต้องมาขับไล่
อธิปไตยตามชอบธรรม
ไล่คนผู้ก่อกรรม
ด้วยผู้นำเป็นพันธุ์ความ
เส้นสายกระบอกเสียง
ดำเนินเรื่องมิสำรวม
ถูกผิดและกำกวม
หวังจะคว่ำอธิปไตย
ชนเราเราเลือกตั้ง
เราก็หวังวันฟ้าใหม่
ชนท่านไม่พอใจ
ปลาหน้าไซก็ถูกกวน
ประเทศไม่เดินหน้า
ชาวประชาก็รัญจวน
ชนท่านก่อฉนวน
ประชาถ้วนก็รับกรรม
ท่านว่าท่านชนะ
อิสระวิสุทธิ์ล้ำ
แน่วทางเริงระบำ
สง่าธรรมสง่าจร
ชัยนี้บนซากศพ
กว่าจะจบอีกกี่ตอน
มหาแห่งอาทร
ก็เงินฟ่อนอุดมใจ
ตั้งตนเป็นคณะ
ก็คณาธิปไตย
สร้างชาติเป็นชาติใหม่
แล้วชาติใดท่านจะพอ
คณาธิปไตย
แล้วผู้ใดจะอือออ
ขอเถอะนะเถอะขอ
จงหยุดก่ออุดมกาฬ
ชาติไทยจะเป็นชาติ
เอกราชนิรันดร์กาล
ประชาธิปไตยบาน
ภาวการณ์ปัจจุบัน
ดอกไม้แห่งมวลชน
ชโลมฝนยามวสันต์
ผลิเถอะผลิความฝัน
รับตาวันรุ่งอรุณ
ประชาธิปไตย
จงสดใสไร้ฝ้าฝุ่น
คณาธิปไตยทุน
จงเสื่อมสูญนิรันดร์เทอญ
25 มิถุนายน 51