ผลัดสถานถิ่นเกิดสู่เมืองใหญ่ อยู่ห่างไกลสายตาห่วงคิดถึง ภาพสะท้อนของการที่ดื้อดึง จนมาถึงตอนนี้จึงเข้าใจ ความห่วงใยที่เคยได้ยินเสียง ได้หล่อเลี้ยงก่อร่างจนเติบใหญ่ ยามนี้ไร้สำเนียงพักพิงใจ เสียงอยู่ไกลลับตาเกินได้ฟัง โภชนาอาทรอิ่นไออุ่น กลิ่นหอมกรุ่นละมุยละไมมาแต่หลัง รสอร่อยเลี้ยงกายเต็มพลัง จนกระทั่งบัดนี้ยังอาวรณ์ ผิวกายโอบก่อเกื้อเอื้ออุ่นรัก เฝ้าปกปักรักษาไม่ถ่ายถอน ภาพเก่าเก่าเล่าย้ำน้ำตาทอน อาลัยอาวรณ์ย้อนคิดสะกิจใจ ภาพจางจางจืดเจือด้วยน้ำตา แสวงหาว่างเปล่าสิ่งที่ได้ กลับมาเยือนเตือนต่อระห้อยใจ ความอาลัยสูญเสียไม่กลับคืน หมดโอกาศกลิ่นอุ่นให้หนุนกอด มันมืดบอดขอดใจให้สะอื้น ภาพเคยเป็นหวังวันนี้จะได้คืน กลับคืนชื่นชุ่มใจอย่างเคยเป็น คนที่รักของเราเขาเสียแล้ว ใจมันแป๋วมารดาไม่มีเห็น บ้านเคยอุ่นด้วยไอรักเช้าเย็น กลับเยือกเย็นผะวาหว้าเหว่ใจ เสียบธูปจุดไฟทักทายรูป มือปัดลูบปุ่นไรผงหยากไย มาถึงแล้วแม่ครับนี่คือใคร จำได้ไหมลูกแม่กลับมาเยือน อยากจับมือกอดแขนคล้องคอแม่ ดีใจแน่จะหาใดไหนใครเหมือน อุ่นที่ลูกไม่ทิ้งไม่ร้างเลือน แต่มันเตือนน้ำตาให้ไหลริน หิวอาหารรสยอดฝีมือดี กลับทุกทีได้อิ่มอร่อยลิ้น แต่วันนี้ไม่มีให้ได้กิน เมือสูญสิ้นใจสลายอาลัยจำ
3 พฤษภาคม 2551 18:09 น. - comment id 845822
สวัสดีค่ะ แต่งได้เพราะมากค่ะ เนื้อหาเยี่ยมแทบจะร้องไห้เลย เราก็ไม่อยากเสียคุณแม่ไป เรากลัวมากเลยเวลาต้องคิดถึงตรงนี้ คุณแม่เป็นที่รักที่สุดของเรา พลอย/เจี๊ยะ
3 พฤษภาคม 2551 21:47 น. - comment id 845905
สะเทือนอารมณ์มากครับ ชัดเจนในถ้อยคำมากครับ ขอบคุณที่แต่งกลอนดีๆมาให้อ่านครับพี่