๑.ตีผึ้ง ๑.ในป่าไม้สายลมช่างร่มรื่น ความชุ่มชื้นฉ่ำลึกทั่วพฤกษา ชายหนึ่งเพลินเดินทางกลางพนา ตั้งใจหารังผึ้งสักหนึ่งรัง ๒.ไว้เยี่ยมเยือนเพื่อนพ้องเป็นของฝาก น้ำใจจากเพื่อนเก่าแต่คราวหลัง เพราะหาเช้ากินค่ำตามลำพัง ไม่มีทั้งสินทรัพย์ต้องอับจน ๓.ถึงต้นไม้ใกล้เคียงยินเสียงหึ่ง เห็นรวงผึ้งรังใหญ่สุดปลายต้น จึงเก็บฟืนกลางป่าสาละวน จุดไฟลนฟืนสุมเป็นกลุ่มควัน ๔.เมื่อควันไฟไล่ผึ้งบินบึ่งหนี ไม่เหลือมีผึ้งหลงรังตรงนั้น จึงออกจากซอกช่องที่ป้องกัน ปีนต้นพลันเร่งรัดไปตัดรวง ๕.ได้รังผึ้งรวงใหญ่กว่าใจนึก พลอยรู้สึกสุขจินต์เหมือนสิ้นห่วง ออกเดินจรก่อนแดดจะแผดดวง มุ่งเมืองหลวงเขตขัณฑ์..พันธุมคี ๒. ถวายน้ำผึ้งดิบ ๖.พระศาสดาจาริกเสร็จธุระ พระนามพระทรงสวัสดิ์..วิปัสสี จะเสด็จคืนหลังยังธานี ความยินดีแผ่ทั่วทุกครัวชาน ๗.สาธุชนราชันย์ต่างขันแข่ง เตรียมต้มแกงข้าวปลาภัตตาหาร จะจัดสรรอาคันตุกะทาน แด่องค์ท่านศาสดาและสาวก ๘.สังฆทานจักรพรรดิ์ย่อมจัดเลิศ อาจประเสริฐคุณค่ากว่าพสก แต่ชาวบ้านมิสะท้านหวั่นสะทก ทุกห่อพกลงแรงแข่งราชา ๙.วันรุ่งเชิญพระภควันต์ฉันอาหาร พร้อมส่งสาส์นเชิญราชันย์ขวัญหล้า กษัตริย์ทรงทราบเหตุเสด็จมา ทอดพระเนตรภักษาประชาชน ๑๐.เห็นยิ่งใหญ่เพียบพร้อมไม่ยอมแพ้ จึงตรัสแก่อำมาตย์ด้วยคาดผล วันพรุ่งนี้เราดำริจะนิมนต์ พระทศพลเข้าวังทำสังฆทาน ๑๑.จงตระเตรียมปัจจัยเอาให้พร้อม อย่าได้ยอมน้อยหน้ากว่าชาวบ้าน เพื่อคณะพุทธองค์สงฆ์บริวาร จะชื่นบานกุศลอิ่มผลบุญ ๑๒.เมื่อกษัตริย์จัดทานไพศาลกว่า ชาวประชาทุกจุดจึงอุดหนุน จัดอาหารถวายพระสละทุน ให้เลิศคุณล้ำค่ากว่าราชันย์ ๑๓.ต่างแข่งทำถวายทานเป็นงานหลัก เพื่อบุญหนักใช่แค่แต่แข่งขัน เวลาเลื่อนเคลื่อนมาครบห้าวัน ไม่ยอมกันแข่งสร้างแต่ทางดี ๑๔.สาธุชนปรึกษาเป็นวาระ เพื่อชนะราชันย์วันพรุ่งนี้ จะแต่งทานทุกวัตถุในธานี จะต้องมีทั้งหมดทุกหมวดทาน ๑๕.เมื่อจัดทานครบหมวดจึงตรวจของ พินิจมองของคาว ข้าว ของหวาน น้ำผึ้งสุกจัดวางอยู่กลางจาน น้ำผึ้งสดรสซ่านอยู่จานใด ๑๖.จึงรู้ว่าขาดซึ่งน้ำผึ้งดิบ จะซื้อหยิบอนิจจาหาที่ไหน ประตูเมืองคนออกเข้านอกใน คงมีใครเอาของป่ามาทุกวัน ๑๗.จัดสี่คนคอยระวังไปนั่งอยู่ สี่ประตูดูคนทุกชนชั้น ให้ถือทรัพย์นับเอาเท่าเท่ากัน คนละพันกหาปณะน่าจะพอ ...................................................... ๑๘.เห็นชาวป่าเดินผ่านมาด้านหนึ่ง ถือรวงผึ้งร่างมอมดูซอมซ่อ จึงรีบรุดหน้าตั้งไม่รั้งรอ แล้วซื้อต่อรังนั้นในทันที ๑๙.ผู้เจริญเดินหาแต่ป่าไหน ได้รังใหญ่เกินคาดขนาดนี้ น้ำผึ้งซึ่งเหลือน้อยไม่ค่อยมี ท่านยินดีขายไหมเท่าไรกัน ๒๐.น้ำผึ้งดิบของป่าย่อมหายาก เอามาฝากพวกพ้องเพื่อนของฉัน คงไม่ขายใต้เท้าเรายืนยัน ต้องบากบั่นแทบตายกว่าได้มา ๒๑.เราให้หนึ่งกหาปณะจะขายไหม? นึกสงสัยหรือบังเอิญว่าเงินหนา เพราะน้ำผึ้งแค่นี้มีราคา แค่เศษค่ากหาปณะได้กระมัง ๒๒.เรามิขายใต้เท้าอย่าเซ้าซี้ ลองดูที่ทางถนนคนข้างหลัง อาจมีรวงผึ้งขายอยู่หลายรัง อย่ามาหวังกับเราเลยเจ้านาย ๒๓.ค่ารังผึ้งจึงทวีทีละขั้น ให้หนึ่งพันกหาปณะคงจะขาย ไยตีค่ารังผึ้งถึงมากมาย จงแย้มพรายสักนิดอย่าปิดนาน ๒๔.เหตุเราทำทานใหญ่ถวายพระ สมณะผู้ตัดวัฏฏ์สงสาร รวมวัตถุทุกอย่างเพื่อสร้างทาน ขาดของหวานน้ำผึ้งดิบเพียงหยิบมือ ๒๕.ได้ฟังคำทำทานชื่นบานจิต จึงครุ่นคิดช้าช้าประสาซื่อ ถวายทานพระพุทธเจ้าอย่างเขาลือ บุญระบือสิ้นลำบากสิ้นยากจน ๒๖.รังผึ้งเราไม่พร้อมจะยอมขาย ขอถวายร่วมทานการกุศล ขอฟังคำธรรมะพระทศพล เพื่อบันดลดื่มด่ำสุขสำราญ ..................................................... ๒๗.เริ่มศรัทธามหาทานสะท้านแคว้น สงฆ์หกล้านแปดแสนแน่นสถาน พระศาสดาสมณะเป็นประธาน ภัตตาหารสารพัดจึงจัดมา ๒๘.ถาดทองคำใบใหญ่ใส่ผสม น้ำนมส้มเคล้าซึ่งน้ำผึ้งป่า ถวายองค์โลกนาถศาสดา และนานาสงฆ์ฉันทั่วกันไป ๓.อจินไตย ๒๙.น้ำผึ้งดิบนิดหน่อยซึ่งน้อยมาก สงฆ์ล้นหลากปานนั้นได้ฉันไหม เรื่องบางจุดสุดเราจะเข้าใจ พุทธวิสัย..ประการหนึ่งอย่าพึงรู้ ๓๐.วิสัยมนุษย์สุดหยั่งก็ยังใกล้ แต่วิสัยพระวิสุทธิ์ไกลสุดกู่ เรารับภาพทราบแค่ตาแลดู บรมครูเห็นทุกอย่างดั่งกลางวัน ๓๑.เหมือนน้ำผึ้งพอเพียงจะเลี้ยงสงฆ์ พระพุทธองค์ทรงวางไว้อย่างนั้น ด้วยฤทธาสมาบัติอัศจรรย์ เรารู้ทันมิได้อย่าไปคิด ๓๒.ฌานวิสัย..คือสิ่งประการสอง จะเห็นคล่องชัดได้ต้องใช้จิต ต้องเข้าถึงอรหันต์ขั้นมีฤทธิ์ เราไร้สิทธิ์รู้ลึกอย่านึกตรอง ๓๓.กรรมวิสัย..คือสิ่งประการสาม ผู้รู้ตามกฏกรรมชำนาญคล่อง มีเพียงพระอรหันต์ผู้ช่ำชอง เราทั้งผองอย่าหวังยังห่างไกล ๓๔.โลกจินไตย..คือสิ่งประการสี่ โลกใบนี้จบลงที่ตรงไหน โลกใบนี้มีมาแต่คราใด โลกย่อมไม่สิ้นสุด คำพุทธองค์ ๓๕.เหมือนดั่งคำถามพระพุทธเจ้า ใครสร้างเรามีชีวีโปรดชี้บ่ง พระศาสดาตอบความไปตามตรง มนุษย์เกิดจากวงวิญญาณธาตุ ๓๖.คืออณูที่ร่วมรวมกันติด เกิดเป็นจิตจากอณูที่รู้ศาสตร์ ทั้งเคลื่อนไหวเร็วถลาและสามารถ ป่วยการคาดรู้สิ้น..อจินไตย ๔.พุทธพยากรณ์ ๓๗.ฝ่ายชาวป่าเคลื่อนกายมาใกล้พระ หลังคณะตถาคตผู้สดใส สำเร็จฉันอาหารสำราญใจ ก้มกราบไหว้ปฎิบัติอย่างศรัทธา ๓๘.ลูกจะขอตั้งจิตอธิษฐาน ด้วยบุญทานเพียงหนึ่งน้ำผึ้งป่า ให้ลูกเลิศลาภเถิดถ้าเกิดมา ทั้งชาติหน้าอนาคตตามกฎทาน ๓๙.พระองค์ทรงทราบครบแต่ภพหลัง ชาวป่าครั้งมีศรัทธาเรื่องอาหาร เคยเกิดเป็นกุลบุตรครั้งพุทธกาล เมืองสถาน..หงสวดี บุรีรมย์ ๔๐.พระปทุมุตตระตถาคต ผู้ปรากฏเป็นศาสดาอยู่อาศรม แสดงธรรมนำสุขดับทุกข์ตรม เพราะนิยม..กุลบุตรจึงหยุดฟัง ๔๑.แล้วเข้าเฝ้าฟังธรรมจนฉ่ำจิต ได้พินิจพระองค์ทรงแต่งตั้ง ผู้เลิศลาภสักการะทรัพย์ประดัง คือพระหนึ่งผู้นั่งไม่ห่างกาย ๔๒.ตำแหน่งเอตทัคคะแห่งพระนั้น กุลบุตรมุ่งมั่นกระสันหมาย จึงทูลเชิญพุทธองค์สงฆ์รอบราย ทำทานถวายพระโลกเชษฐ์ครบเจ็ดวัน ๔๓.แล้วทูลขอพรโชคพระโลกนาถ ลูกหมายมาดเป็นพระอรหันต์ เจริญในลาภทรัพย์นับอนันต์ พระภควันต์จึงตรัส ณ บัดนี้ ๔๔.เธอจะสมคาดแม้นอีกแสนกัป เป็นเลิศทรัพย์ลาภหนักสมศักดิ์ศรี บวชในศาสน์สมณะโคตมี นามคือ..สีวลี ผู้มีลาภ. .................................................... ๔๕.ชาวป่าฟังตรัสพระวิปัสสี จงยินดีตั้งใจทำลายบาป เธอจะเลิศในลาภทรัพย์จงรับทราบ จะอิ่มอาบบริสุทธิ์วิมุตติชน ๔๖.จะได้บวชเป็นพระอรหันต์ องค์สำคัญช่วยงานการกุศล ในศาสนาโคตมะพระทศพล จงอดทนสร้างบุญเก็บตุนไว้ ๕.สร้างบาป ๔๗.เมื่อถึงคราวชาวป่าอายุสิ้น เกิดในถิ่นสวรรค์ฟ้าจวบลาขัย มาเกิดเป็นเจ้าฟ้าราชาลัย ณ กรุงไกรพาราณสีบุรีนคร ๔๘.ครองพาราหลังบิดาสวรรคต ตามกฎมณเทียรบาลแต่กาลก่อน หลงอำนาจวาสนาฐานันดร เข้าริดรอนเมืองน้อยผู้ด้อยแรง ๔๙.ยกทัพใหญ่หมายล้อมให้ยอมพ่าย ให้ถวายนครรัฐโดยตัดแบ่ง แต่ราชาชอบธรรมหลังกำแพง ยังขืนแข็งแต่มิหลงทำสงคราม ๕๐.ทรงบอกชนในชาติอย่าหวาดจิต ทำชีวิตปรกติทรงมิห้าม ประตูเมืองทุกทิศแม้ปิดดาม ประตูเล็กเปิดหลามมีน้ำกิน ๕๑.ประชาชนคนอยู่มิรู้ร้อน จะสัญจรค้าขายได้ทั้งสิ้น จนเจ็ดปีเจ็ดเดือนเลื่อนโบยบิน ตีแผ่นดินไม่ได้ดังใจนึก ๕๒.เห็นช้านักชักนานจนป่านนี้ ชนนีมีเคล็ดเผด็จศึก ให้ล้อมจุดอุดประตูทุกรูลึก ปิดผนึกทั้งหมดให้อดตาย ๕๓.ทรงทำตามชนนีที่ชี้แผน ความขาดแคลนแร้นเข็ญกระเซ็นสาย ทุกท้องถิ่นดิ้นรนทุรนทุราย สุดท้ายทูลราชันย์ให้ปันเมือง ๕๔.แต่ราชาปฏิเสธอ้างเหตุผล จนฝูงชนปาขว้างกระด้างกระเดื่อง จนวันเจ็ดสำเร็จโทษด้วยโกรธเคือง พอจบเรื่องปลงพระชนม์จำนนยอม ๕๕.พาราณสีราชาปรีดานัก แม้บาปหนักอนิจจาว่ายาหอม เมื่อสิ้นชีพตักษัยพระทัยตรอม ถูกไฟหลอมกลางทะเลอเวจี ๕๖.กัปแล้วกัปเล่าไฟเผาผลาญ ร่างแหลกลาญไฟกรดบดขยี้ จวบดินหนาหนึ่งโยชน์ล้านโกฏิปี ครบกาลที่ทนตกนรกร้อน ๕.กำเนิด ๕๗.จุติจากแดนโหดโทษมหันต์ มาสู่ครรภ์เสด็จแม่แต่ชาติก่อน เพื่อร่วมรับเศษกรรมร่วมทำตอน- ล้อมนครจนประชาจลาจล ๕๘.นามสุปปวาสา..มารดาใหม่ ครองสักกะแคว้นใหญ่หว่างไพรสณฑ์ เมื่อทรงครรภ์รันทดต้องอดทน เนิ่นนานจนเจ็ดปีไม่มีเตือน ๕๙.แม้มีลาภเกินการประมาณค่า ด้วยบุตราบุญใหญ่หาใครเหมือน แต่กลับทุกข์ทับทวีหลายปีเดือน ครรภ์ไม่เคลื่อนไม่คลอดยิ่งถอดใจ ๖๐.สวามีทอดพระเนตรเทวษหนัก นวลน้องรักมีกรรมทำไฉน จึงเข้าเฝ้าสมณะพระจอมไตร ขอพรให้ราชินีจงปรีดา ๖๑.พระโคตมะพุทธเจ้าในคราวนั้น สดับพลันประทานพรสุนทรค่า ให้ราชินีปลอดภัยไร้โรคา คลอดบุตราง่ายแท้เหมือนเทน้ำ ๖๒.ให้ประสูติโอรสผู้หมดโรค ทั้งทุกข์โศกทั้งหลายมิกรายกล้ำ เมื่อดำรัสพระมุนินทร์นั้นสิ้นคำ ความชื่นฉ่ำจับอุราจอมราชันย์ ๖๓.เวทนาราชินีก็หนีหาย วรกายเคยทุกข์กลับสุขสันต์ จนเจ็ดปีเจ็ดเดือนจบเจ็ดวัน ธ ทรงครรภ์นานเนาว์เท่าล้อมกรุง ๖๔.จึงมีประสูติกาลกุมารน้อย งามชดช้อยคลอดง่ายเหมือนหมายมุ่ง ส่วนมารดาราชันย์หมั่นบำรุง ทั้งยาปรุงเสวยกลืนก็คืนกาย ๖๕.ประยูรญาติกาต่างมาเยี่ยม ต่างตระเตรียมของขวัญกำนัลหมาย เห็นโอรสงดงามดังทำนาย ร่วมถวายนามะ..สีวลี ๖.ออกบวช ๖๖.พระมารดาเมื่อกายหายสนิท องค์บพิตรจึงตรัสว่าบัดนี้ หมดทุกข์โศกโชคงามฤกษ์ยามดี เราพร้อมที่ทำทานนานเจ็ดวัน ๖๗.อัญเชิญพระพุทธองค์สงฆ์ทั้งวัด แล้วเตรียมจัดเสบียงทานอาหารฉัน ประยูรญาติบริวารช่วยงานกัน ได้แบ่งปันภาระพระราชา ๖๘.กุมารนั้นอัศจรรย์ขั้นวิเศษ เดินเสด็จราวท่านเจ็ดพรรษา เหมือนเติบใหญ่ในครรภ์ท่านมารดา ทั้งพูดจาสื่อได้เข้าใจความ ๖๙.จึงช่วยงานพระบิดาสารพัด ถ้าติดขัดไม่เข้าใจก็ไต่ถาม บรรดาสงฆ์ตรงมาจากอาราม ขึ้นนั่งตามอาสนะตระเตรียมไว้ ๗๐.กุมารน้อยถวายน้ำบริสุทธิ์ พระสารีบุตรฐานะพระผู้ใหญ่ สังเกตดูอยู่ก็นึกพอใจ จะเข้าไปคุยเล่นเมื่อเห็นควร ๗๑.จนวันเจ็ดจบงานทานกุศล สาธุชนดื่มด่ำสิ้นกำสรวล กุมารมองผองพระเคลื่อนขบวน เถระชวนบวชตามเป็นสามเณร ๗๒.พระกุมารอยู่ครรภ์นั้นนานนัก คงทุกข์หนักตรมใจมิใช่เล่น เพราะชาติก่อนก่อกรรมกระทำเวร เธอคงเห็นกรรมเก่ามาเอาคืน ๗๓.ถ้าเบื่อหน่ายว่ายเวียนควรเรียนบวช หมั่นท่องสวดธรรมบทให้สดชื่น อันร่างคนป่นไหม้ในไฟฟืน ถ้าจิตตื่นถึงวิมุตติก็หลุดพ้น ๗๔.กุมารตอบเถระอยากจะบวช การผนวชบรรพชามหากุศล ทั้งคู่คุยแคล่วคล่องอยู่สองคน มารดายลยินคำก็สำราญ ๗๕.เจ้าชายทรุดกายแนบกราบแทบบาท อนุญาตเถิดหนามารดาท่าน ลูกขอบวชบรรพชากับอาจารย์ ญาติวงศ์วารทั้งผองจะครองบุญ ๗๖.ทั้งชนกชนนีญาติพี่น้อง ต่างแซ่ซร้องขานรับสนับสนุน กุมารกอดแม่แน่นได้แทนคุณ รับไออุ่นสุดท้ายก่อนไคลคลา ๗๗.แล้วร่วมทางย่างสู่ประตูวัด พิธีจัดตามหลักมิชักช้า พระสารีบุตรเถระอุปัชฌาย์ ให้พิจสังขาราห้าประการ ๗๘.อันฟัน เล็บ ขน ผมและผิวหนัง ย่อมผุพังลงดินสิ้นสังขาร ให้พิจดูรู้ทุกข์ทรมาณ ในครรภ์นานเบ็ดเสร็จกว่าเจ็ดปี ๗๙.เมื่อตรึกตามความงามล้วนทรามสิ้น ไฟ น้ำ ดิน ลม..เรามีเท่านี้ ด้วยบุญกาลอธิษฐานบารมี สีวลีจิตสงัดในบัดดล ๘๐.มีดโกนหนึ่ง..จึงลงปลงเกศา พลันบรรลุโสดาปัตติผล มุ่งนิพพานมั่นหมายเมื่อวายชนม์ ถือศีลจนกรรมบถมิงดวัน ๘๑.มีดโกนสอง..ลองโกนโคนเกศี ถึงสกิทาคามีนาทีนั้น รูป กลิ่น เสียง สัมผัส รส โทษอนันต์ ก็รู้ทันด้วยฌานสำราญตน ๘๒.มีดโกนสาม..ตามลงปลงเกศา พลันบรรลุอนาคามีผล ทรงฌานสี่สุกสว่างกลางกมล จวนหลุดพ้นจากกิเลสทุกเหตุแนว ๘๓.มีดโกนสี่..ทีสุดท้ายสิ้นไร้ผม ดวงอารมณ์ภายในใสเหมือนแก้ว เป็นพระอรหันต์เต็มขั้นแล้ว กิเลสแผ้วพาลใจจึงไม่มี. ๗.เป็นผู้เลิศในลาภ ๘๔.อานิสงส์สังฆทานน้ำหวานผึ้ง ส่งผลถึงชีวาตม์ในชาตินี้ อันโชคลาภสักการะพระสีวลี อยู่ทุกที่ย่างบาทไม่ขาดแคลน ๘๕.สมัยหนึ่งพระพุทธองค์ สงฆ์ห้าร้อย เสด็จคล้อยข้ามไพรที่ไกลแสน ป่าตะเคียนจุดหมายสุดปลายแดน ที่แร้นแค้นยากเข็ญเป็นที่สุด ๘๕.เพื่อเยี่ยมเยียนสมณะ..เรวตะ ผู้น้องพระเถระสารีบุตร ถึงทางแยกสองทางจะย่างยุด พระทรงหยุด ปุจฉาพระอานนท์ ๘๕.แยกข้างหน้าสองทางเลือกข้างไหน จึงจะใกล้เร็วลัดไม่ขัดสน มีหมู่บ้านข้าวปลาประชาชน ชี้ถนนเถิดหนาอย่าช้านาน ๘๖.พระอานนท์ทูลคำชี้นำว่า ทางข้างหน้าเท่าที่รู้มีหมู่บ้าน ไม่ระกำลำบากเพราะมากทาน ต้องอ้อมผ่านหกสิบโยชน์ทางโหดไกล ๘๗.ส่วนถนนข้างข้างเป็นทางลัด แค่เดินตัดไม่ช้าถึงป่าใหญ่ สามสิบโยชน์เท่านั้นมิทันไร แต่ยากไร้ของกินอย่างสิ้นดี ๘๘.จึงดำรัสแห่งพระพุทธเจ้า สีวลี มากับเราแต่คราวนี้ ความลำบากยากไร้ย่อมไม่มี เลือกทางที่เดินลัดเพื่อตัดตรง ๘๙.ถึงกลางพฤกษ์ไพรแคว้นไม้แน่นหนา เทพเห็นทั้งศาสดาสัมมาสงฆ์ แม้จะมีพระวิสุทธิ์พุทธองค์ กลับจำนงพระสีวลีเพื่อพลีทาน ๙๐.แสดงกายพร้อมพรักเทพรักษ์ป่า ถวายทิพย์โภชนากระยาหาร ทั้งศาสดาและพระบริวาร จึงสำราญภัตตาเทพารักษ์ ๙๑.ความเป็นผู้เลิศในลาภสักการะ ภิกษุพระทุกแห่งแจ้งประจักษ์ ตำแหน่งเหมาะเจาะจริงใหญ่ยิ่งนัก เป็นเสาหลักองค์หนึ่งได้พึ่งพา ๙๒.ช่วยงานพระจอมไตรมิได้หยุด เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนา ตราบนิพพานดับขันธ์สังขารา กราบบูชาพระเถระ..สีวลี.. ที่มาของข้อมูล http://www.84000.org/one/1/16.html http://www.palungjit.com/smati/books/indexphp?cat=196 http://www.palungjit.com/smati/books/index.php?cat=197 http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=2006 http://www.geocities.com/athens/atlantis/2946/siv.html บุพกรรมของพระสีวลี โดยพระราชพรหมยาน หลวงพ่อตอบปัญหาธรรมฉบับพิเศษ เล่ม ๒ โดยพระราชพรหมยาน ที่มาของภาพประกอบ http://article.pornpra.com/userfiles/1180371839b46-a.jpg
4 เมษายน 2551 07:39 น. - comment id 836692
หวัดดีค่ะคุณฤทธิ์ ดีใจเช้ามาได้อ่านกลอนดีๆ เหมือนอ่าน นิทานเลยนะ นี่เช้านี้อ่านไปถึงบทที่ ๕๐ ก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาอ่านต่อ คุณฤทธิ์สบายดีนะ สงกรานต์ได้กลับบ้านมั้ยคะ ฝากคิดถึงไปหาพี่สาวตัวเล็กของ ป ด้วยค่ะ
4 เมษายน 2551 08:25 น. - comment id 836697
นับถือจริงๆ ค่ะคุณทฤธิ์ เช้าๆ อ่านกลอนดีๆ
4 เมษายน 2551 17:53 น. - comment id 836773
ยอมรับเลยคะว่าอ่านมะหมด เง่อ เยอะขนาด .... ..... นับถือๆๆ เขาว่าพระอรหันต์นั่นกุศุลแรงแต่หากหาไม่เจอก็ใกล้ๆตัวเราเลยคะ คือบิดามารดาเรานั่นแหละอรหันต์ คิคิขอเอี่ยมธรรมมะนิสสส นึงนะคะ บะบาย
4 เมษายน 2551 18:25 น. - comment id 836800
...สวัสดีพี่บาวริด ที่คิดถึง หุหุ จำน้องฉางนุ้ย เอ๊ย ฉางน้อยได้ม่ายนิพี่บาว แป่ววววว....แหลงทองแดงหล่าวนิ นุ้ย อิอิ .....แปลเป็นไทยก็คือ สวัสดีพี่บาวฤทธิ์ จบแระ อิอิ สบายดีนะคะพี่ฤทธิ์ พี่มัสก็ถามหาอยู่นะคะ
4 เมษายน 2551 18:45 น. - comment id 836802
อีกไม่กี่บทก็ครบ 100 นับถือจริงๆเลย คุณฤทธิ์นี่
4 เมษายน 2551 21:00 น. - comment id 836829
มากราบพระสีวลีบ้านคุณฤทธิ์ ช่วยดลจิตใจคนพ้นหม่นหมอง หากมีตัวกิเลสเขตจับจอง ให้ทุกข์ผองหายสิ้นในทันที รักษาสุขภาพด้วยคะ
5 เมษายน 2551 09:02 น. - comment id 836956
อาจารย์ครับ..ขออนุญาต prit เก็บไว้ก่อนนะครับ..พอดีรีบมากครับ
5 เมษายน 2551 14:07 น. - comment id 837023
ยอดเยี่ยมครับคุณฤทธิ์..จัดเป็นสารานุกรม ฉบับร้อยกรองได้เลย..น้อยคนนักที่จะเพียร เขียนเรื่อเหล่านี้..ขอชื่นชมด้วยใจจริง......
5 เมษายน 2551 22:25 น. - comment id 837104
แม้ว่ามาแล้วไม่เจอเจ้าของบ้าน แต่งานเขียนของคุณทำหน้าที่ต้อนรับได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
5 เมษายน 2551 23:22 น. - comment id 837128
ปราณรวี ขอบคุณมากเลย ป.ที่แวะมาอ่าน คิดว่าอ่านนิทานก็แล้วกัน สงกรานต์ได้กลับบ้านครับ กลับตั้งแต่วันที่ ๙ และกลับไปติดเกาะอีกทีก็ ๑๖ เบื่อทะเลมาก อยากกลับบ้านมากๆๆๆๆๆๆ คุณตัวเล็กสบายดี และยังน่ารักตลอดยี่สิบสี่ ชั่วโมงเหมือนเดิม ป .เป็นไงบ้าง ได้ข่าวว่างานยุ่งๆ เสร็จไปถึงไหนแล้ว ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ มีความสุขในวันสงกรานต์มากๆนะครับ
5 เมษายน 2551 23:32 น. - comment id 837129
คุณรัน ขอบคุณนะครับที่แวะมาอ่าน และสำหรับคำชม ที่จริงงานชิ้นนี้ยังไม่ค่อยถูกใจผมเท่าไหร่ จะว่าไปแล้วที่เขียนมาทั้งหมดทุกเรื่องยังไม่มีเรื่องไหนถูกใจผมเลย มีข้อตำหนิได้ทุกเรื่อง แต่จะให้ดีกว่าคงต้องฝึกอีกนาน แวะไปอ่านงานของคุณรันแล้ว เป็นแง่คิดที่ดี สำหรับนกที่อยู่ในกรงแล้วต้องออกไปเผชิญโลกกว้าง ไม่ได้ฝากคอมเม้นไว้ครับไม่มีเวลาพิมพ์ แต่จะแวะไปอีกที มีอะไรที่อยากเขียน หลายจุดเหมือนกัน ขอให้มีความสุขมากๆครับ
5 เมษายน 2551 23:34 น. - comment id 837131
ผู้หญิงมือสอง ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่เลยนะครับนานแล้ว ถ้ามีเวลาจะไปคุยเล่นด้วยครับ มีความสุขมากๆนะครับ
5 เมษายน 2551 23:41 น. - comment id 837132
ไอ้น้องรักฉางน้อย พี่เขียนเรื่อง ฉางน้อยตอนบ้านบนเขาไว้ ตั้งนานแล้วยังไม่จบเลย (ที่จริงขี้เกียจเขียนต่อ) นี่ถ้าเจ้าตัวรับปากว่าจะเป็นางเอกของเรื่องให้ จะได้เขียนต่อให้จบ ว่าไงล่ะไอ้น้องรัก ฝากดูแลพี่สาวแสนสวยดีๆด้วยนะ เที่ยวสงกรานต์ให้สนุกนะไอ้หนู
5 เมษายน 2551 23:49 น. - comment id 837133
พี่เจี๊ยบ ผมไม่ค่อยอยากเขียนเรื่องยาวๆเท่าไหร่ หรอกครับ เพราะต้องหาข้อมูล สรุปสาระสำคัญ วางพล็อต แต่ทุกครั้งที่ต้องเขียนมักจะ มีเหตุตลอด เรื่องนี้ทีแรกคิดว่าต้องเขียนถึงร้อยบทเหมือนกัน แต่สรุปได้กระชับกว่านั้น ก็เลยได้ ๙๒ บท ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ
5 เมษายน 2551 23:51 น. - comment id 837134
คุณปีกผีเสื้อ ต้องขอขอบคุณมากทีแวะมาอ่าน และยินดีที่ได้รู้จักครับ ขอบคุณสำหรับกลอน ที่ร่วมแจมครับ รักษาสุขภาพด้วยเช่นกันครับ
5 เมษายน 2551 23:54 น. - comment id 837135
ท่านอินสวน เชิญตามสบายเลยครับ ได้ข่าวว่า กำลังสร้างเรือนหอเหรอครับ อยู่แถวไหนล่ะ เผื่อจะได้ไปเยี่ยมเยียนกันบ้าง ขอให้มีความสุขครับ
6 เมษายน 2551 00:02 น. - comment id 837137
คุณอรุณสุข ขอบคุณครับที่แวะมาทักทาย ผมหารูป พระสีวลีตั้งนาน ได้รูปที่คุณอรุณสุขเอามาฝาก ชอบมากเลยครับ สวยมาก ผมขอprint เอาไปอัดกรอบบูชานะครับ คงไม่ต้องเป็นสารานุกรมหรอกครับ ผมได้ทำ แค่นี้ก็พอใจแล้ว ผมอ่านงานของคุณอรุณสุขบ่อยทั้งที่โพสต์หรือบางทีก็ฝากเป็นคอมเมนท์ ในงานของท่านอื่น ผมเชือว่าถ้าคุณอรุณสุข ลองเขียนดูบ้างคงจะงดงาม และน่าอ่านกว่า ของผมเยอะครับ ขอให้มีความสุขครับ
6 เมษายน 2551 00:15 น. - comment id 837138
คุณตั๊กแตน มัสลิน เจ้าของบ้านมาแล้วครับเพิ่งกลับจากงานเลี้ยงส่งลูกน้อง ขอบคุณมากและดีใจมากๆด้วยที่มาทักทายกัน สุขภาพเป็นไงบ้างครับ หายดีหรือยัง อย่าโหมงานหนักเกินไปนะครับ ฉางน้อยดูแลดีหรือเปล่า นานแล้วนะครับที่ไม่ได้เห็นงานของคุณตั๊ก รออ่านอยู่ครับ พูดจริงๆนะครับ คุณตั๊กลองบูชาพระสีวลีดูซิครับ เพราะท่าน เป็นผู้ไม่มีโรค หรือบูชาพ่อปู่โกมารภัจจ์ก็ได้ครับ ยิ่งถ้ามีโอกาสไปทีโรงพยาบาลสงฆ์ได้ยิ่งดี รูปปั้นท่านอยู่ที่นั่น ไม่รู้ว่าคุณตั๊กจะเชื่อหรือเปล่า ที่จริงมีเหตุบางอย่างเกิดขึ้นกับผม ถ้ามีโอกาสจะเล่าให้ฟัง จึงต้องเขียนประวัติเพื่อบูชาท่าน ขอให้มีความสุข และสุขภาพแข็งแรงครับ
19 เมษายน 2551 18:54 น. - comment id 840727
สีวลี จะ มหาเถโร