กราบครู กาพย์ครู ไพร่ฟ้าประชาชี ชาวบุรีก็ปรีดา ทำไร่เขาไถนา ได้ข้าวปลาแลสาลี อยู่มาหมู่ข้าเฝ้า ก็หาเยาวนารี ที่หน้าตาดีดี ทำมโหรีที่เคหา ค่ำเช้าเฝ้าสีซอ เข้าแต่หอล่อกามา หาได้ให้ภริยา โลโภพาให้บ้าใจ ไม่จำคำพระเจ้า เหไปเข้าภาษาไสย ถือดีมีข้าไท ฉ้อแต่ไพร่ใส่ขื่อคา คดีที่มีคู่ คือไก่หมูเจ้าสุภา ใครเอาข้าวปลามา ให้สุภาก็ว่าดี ที่แพ้แก้ชนะ ไม่ถือพระประเวณี ขี้ฉ้อก็ได้ดี ไล่ด่าตีมีอาญา ที่ซื่อถือพระเจ้า ว่าโง่เง่าเต่าปูปลา ผู้เฒ่าเหล่าเมธา ว่าใบ้บ้าสาระยำ ภิกษุสมณะ เล่าก็ละพระสะธำม์ คาถาว่าลำนำ ไปเร่ร่ำทำเฉโก ไม่จำคำผู้ใหญ่ ศรีสะไม้ใจโยโส ที่ดีมีอักโข ข้าขอโมทนาไป พาราสาวะถี ใครไม่มีปรานีใคร ดุดื้อถือแต่ใจ ที่ใครได้ใส่เอาพอ ผู้ที่มีฝีมือ ทำดุดื้อไม่ซื้อขอ ไล่คว้าผ้าที่คอ อะไรล่อก็เอาไป ข้าเฝ้าเหล่าเสนา มิได้ว่าหมู่ข้าไท ถือน้ำร่ำเข้าไป แต่น้ำใจไม่นำพา หาได้ใครหาเอา ไพร่ฟ้าเศร้าเปล่าอุรา ผู้ที่มีอาญา ไล่ตีด่าไม่ปรานีฯลฯ ลายสือสารสื่อรู้ สุนทรภู่ ท่านพาที ไขขานมานานปี ถึงสิ่งมีซึ่งสามัญ ดูในเมืองไทยนี้ พวกกาลียังโรมรัน โมโหมืดโมหันธ์ เข้าครอบขัณฑ์ครามครันครอง สังคมแสนขมขื่น ทั่วภพผืนภูตลำพอง หมักหมมโสมมหมอง ยังมูลมองเนืองนองมี รำร่อนรุมร้อนเร่า ไล่ล่าเยาวนารี อักโขกามโลกี ในเมืองนี่เกินพรรณนา ผู้ชายออกลายชั่ว จับกลุ่มมั่วแต่กามา หื่นหรรษ์โหมตัญหา สำเริงร่าในอารมณ์ ผู้หญิงก็ยิ่งยั่ว ให้ชายชั่วชื่นเชยชม ครื้นครั่นเสียงลั่นขรม เพลงความใคร่ขวักไขว่ครัน ไม่จำคำพระเจ้า มั่วมึนเมาแลเมามัน เชื่อไสยแทรกใส่สรรพ์ ครั้นไฟคุก็ จตุคามฯ ลางสงฆ์ไม่ทรงศีล ล่วงป่ายปีนจนลามปาม บัญญัติก็ขัด, หยาม ด้วยยุ่มย่ามลาภยศโยง ขี้ฉ้อยิ่งล่อฉล แปลกปลอมปล้นเรื่องเปิดโปง ผีห่าบรรดาโหง จุดเพลิงโพลงบันดาลภัย พาราสาวะถี ใครไม่มีปรานีใคร มองเทียบเมื่อเปรียบไทย ก็ใกล้ใกล้ไม่แผกกัน หิวเงินจนเหินงาบ- สินบนคาบเป็นสำคัญ ทุกยามเย้ยหยามหยัน แต่คนยากลำบากยล พูนผลพวกคนผิด มีเงินติดก็รอดตน หลากแห่งหลายแหล่งหน มันโห่เห่มุ่งเฮฮา คนถูกเข็ญทุกข์ถม ต้องตรอมตรมไร้เงินตรา ตรวนขึงผูกตรึงขา ตรึงแขนคา เต็มราคิน พาราสาวะถี ทุกถิ่นที่ท่วมมลทิน พัวพันยากผันผิน พ้นปวงภัยโจรใจพาล รำพึงคิดถึงภาพ ในคำกาพย์บรรจงกานท์ อักษรสุนทรสาร สุนทรภู่ พ่อครูเพียร กราบครู คำกาพย์ครู สั่งศิษย์รู้ สอนศิษย์เรียน ถ้อยคำท่านร่ำเขียน คือคำเธียรคงคู่ไทย (๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐) หมายเหตุ กาพย์พระชัยสุริยา ของ ท่านสุนทรภู่ คัดข้อมูลจาก http://www.beourfriend.org/nat/rt/?p=320 ครับผม
23 มิถุนายน 2550 10:52 น. - comment id 713914
ยอดเยี่ยมครับ ผมขอบูชาครูด้วยนะครับ ด้วยดวงจิต และสองมือครับ
23 มิถุนายน 2550 11:00 น. - comment id 713921
เยี่ยมมากค่ะ นับถือๆ
23 มิถุนายน 2550 11:54 น. - comment id 713952
น้อมระลึกถึงครูกลอนสุนทรภู่
23 มิถุนายน 2550 16:08 น. - comment id 714034
24 มิถุนายน 2550 13:37 น. - comment id 714439
ไพเราะมากๆค่ะ ชื่นชม ร่วมรำลึกถึงท่านครูเช่นกันค่ะ
26 มิถุนายน 2550 14:49 น. - comment id 715650
น้อมสักการรำลึกคุณ สุนทรภู่ บรมครูแห่งงานวรรณศิลป์ สมญา รัตนกวี ศรีแผ่นดิน โลกยลยินยกย่องก้องเกริกไกร กราบครูภู่ ด้วยหัวใจ คนรักกลอ นค่ะ
29 มิถุนายน 2550 16:41 น. - comment id 717603
สวัสดีครับทุกท่าน ผมเขียนบท กราบครู กาพย์ครู ก็เนื่องจาก อ่านเนื้อความในกาพย์พระชัยสุริยาแล้ว รู้สึกว่า ความเสื่อมโทรมของบ้านเมืองที่ท่านสุนทรภู่ท่านพบเห็น และบรรยายในรูปของนิทานนั้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี นานแค่ไหนก็ตาม สภาพอย่างนั้นๆก็ยังคงดำรงอยู่ สมัยนี้ดูจะหนักกว่าเดิมเสียด้วย ผมเชื่อว่า เรากำลังเดินทางใกล้ความล่มสลายในด้านต่างๆเข้ามาทุกทีๆแล้ว หากไม่ช่วยกันแก้ไขฟื้นวิกฤตเสียโดยเร็ว ก็น่าใจหาย น่าหดหู่อย่างยิ่งยวดครับผม