๏ หรือลิขิตจากฟ้าลงตราไว้ ส่งดวงใจสองผ่านบนลานฝัน ให้ครั้งหนึ่งร่วมปลูกความผูกพัน เกิดต้นขวัญบานรับประดับใจ ๏ ขวัญเจ้าเอย..มาหลอมมาร้อยสู่ สองสินธูเชื่อมผ่านสมานสมัย รวมเป็นหนึ่งร้อยปวงความห่วงใย มารองไว้ซับเข็ญบนเส้นทาง ๏ ขวัญเจ้าเอย..จะกล่อมนอนในคืนหนาว ใต้แสงดาวจุดปรุงจนรุ่งสาง ห่มแพรผืนอุ่นไอจากใจนาง ที่เทียบวางไว้สู่เพียงผู้เดียว ๏ ดวงตาวันทาทาบในภาพเช้า พรายแสงเงารุ่งรางบนทางเปลี่ยว โลมแดดอุ่นแอบอ้อนใบอ่อนเรียว ลบเศษเสี้ยวคืนหนาวอันยาวนาน ๏ จากเพรงกาลทดท้อ..ผู้รอคอย กลับตรารอยด้วยลิขิตชิดสมาน เก็บหยาดคำร่ำกรองมาลัยกานต์ คล้องวิญญาณแนบขวัญนิรันดร ๏ แม้สายธารบรรจบในภพนี้ มอบไมตรีคู่เคียงเพียงอักษร จดจารไว้ธาราแห่งอาทร สู่อกอร..ตราบสายลมหายใจ ๏ นับแต่นี้..ตราไว้ในดวงจิต เสมอมิตร..กัลยาร่วมปราศรัย เสมอกานต์..ล้อมกายด้วยสายใย เสมอไป..เช่นนั้น..ขวัญเจ้าเอย..
26 ธันวาคม 2549 06:22 น. - comment id 639834
๐ พอเมฆขาวลอยฟ่องเต็มท้องฟ้า ก็รู้ว่าเป็นหนาวอีกคราวหนึ่ง พอรวงข้าวร่ายรำก็คำนึง ความหมายซึ่งรำร่ายผ่านสายตา ๐ สดใสแต่แผ่นฟ้าจดหล้าล่าง จึงเห็นความแตกต่างอยู่ข้างหน้า พร้อมหลากสรรพหลากสีหลากลีลา หลากหลายปรากฎเป็นจึงเห็นงาม ๐ เรียวข้าวโค้งยอดค้อมดังพร้อมอยู่ จะให้กรูเกรียวลมพัดข่มข้าม อ่อนเอนส่ายใบรัวเพียงชั่วยาม ก็หยุดยอดหยัดท่ามตะวันทอ ๐ หมื่นพันร่องรอยเล็บ..กลางเหน็บหนาว ก็ผุดราวนิรมิตภาพติดต่อ ลมหนาวกรีดสำเนียงหรือเพียงพอ จักข่มเสียง..งอน/ง้อ...ที่คลอลม ๐ จากเรียวกรอ่อนราวใบข้าวพลิ้ว ถึงปัดปลิวป่ายใจเส้นไรผม รวมขุ่นขึ้งค่อนว่า..งามน่าชม ขอรวบห่มอกแล้วนะแก้วใจ ๐ พร้อมเรียวนิ้วกำหมัด..เสียงตัดพ้อ คือหยัดรอสร้อยศัพท์..เสียงขับไล่ พร้อมค้อนคมขุ่นขึ้งหน้าบึ้งใคร คือห้วงใจครวญคร่ำ..กับน้ำตา ๐ ตราบเงยหน้า..จูบย้ำพร้อมพร่ำพลอด แล้วกุมกอดด้วยเล่ห์เสน่หา ก็เมื่อนั้นแก้มเนื้อแดงเรื่อมา จึงรู้ว่าวันนี้...วันที่รอ ๐ เพียงปอยผมลมร่ายปลิวป่ายหน้า จึงคุณค่าเลอเลิศได้เกิดก่อ ก็เมื่อช่วงตราตรึงลึกซึ้งพอ จึงตามต่อพ่วงภพ...สุดลบเลือน ๐ ต่อเข้าเพลกึกก้องเสียงกลองร่ำ ก็ดั่งคร่ำครวญใครมีใครเหมือน อ่อนหวานในนิรมิตมาติดเตือน เมื่อแล่นเลื่อน...ย่อมสำหรับ...ให้กลับย้อน..!
26 ธันวาคม 2549 06:54 น. - comment id 639836
โห...เป็นเกียรติเกินพอ.... เยี่ยมเยียนตอนเช้าค่ะ.....
26 ธันวาคม 2549 07:26 น. - comment id 639837
......วาสนาคงได้เคียงเพียงอักษร...... เป็นเกียรติจริงๆค่ะ
26 ธันวาคม 2549 07:58 น. - comment id 639858
งามแท้ๆขวัญเจ้าเอย
26 ธันวาคม 2549 08:19 น. - comment id 639874
สวัสดีค่ะ คงได้เคียงเพียงอักษร... ความจริงเป็นเช่นนั้นสำหรับเราสอง... งดงาม ละมุนละไม ใจบอกไม่ถูกเลย... รักษาสุขภาพนะคะ
26 ธันวาคม 2549 08:36 น. - comment id 639890
ยินดีที่ได้มีมิตรรักเคียงอักษร.. :)
26 ธันวาคม 2549 09:10 น. - comment id 639915
... มารับขวัญครับ คุณนาง กลอนยังไพเราะเหมือนเดิมเลยนะครับ ...
26 ธันวาคม 2549 10:03 น. - comment id 639937
ยืนหยัดขอยืนสู้
26 ธันวาคม 2549 11:23 น. - comment id 639978
อยากเขียนเพราะแบบนี้ได้จัง
26 ธันวาคม 2549 12:50 น. - comment id 640016
.. เกินกล่าวคำใด... .. .. มีแต่ความสุขนะคะคุณ...
26 ธันวาคม 2549 14:31 น. - comment id 640055
แวะมารับบทกลอนที่ละมุนละไมขอบคุณน่ะค่ะที่ได้อ่านแล้วรุ้สึกอบอุ่นและมีความสุขจริงๆ
27 ธันวาคม 2549 12:49 น. - comment id 640428
กลอนเพราะมากค่ะ อ่านแล้วอบอุ่น
28 ธันวาคม 2549 05:10 น. - comment id 640813
ถือโอกาส สวัสดีปีใหม่ทุกท่านนะคะ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์อำนวยพรให้ทุกท่าน พบแต่ความสุข ความโชคดีตลอดไปค่ะ
29 ธันวาคม 2549 14:48 น. - comment id 641390
1 มกราคม 2550 01:41 น. - comment id 642092
15 มกราคม 2550 19:57 น. - comment id 646434
..วาสนาคงได้เคียงเพียงอักษร ผ่านลานกลอนลงสู่ใจด้วยไฟฝัน มอบ..จินตนาการแห่งรักอันนิรันดร์ จรดลงบนลานจันทร์ให้ฝันงาม