เพ้อพราก

โฉบเฉี่ยว

.    ดึกดึกดาวเด่นค้าง       กลางหาว
รำลึกนึกเรื่องราว               รับรู้
หวิวหวิวร่างนั่งหนาว      เหน็บเนื่อง นางเอย
คิดเมื่อครั้งเคียงชู้             ชิดเนื้อนวลปราง
     เธอแอบอิงอกอ้อน          ค้อนตา
พี่พิศชิดกายา                  แนบแก้ม
เปล่งปลั่งร่างกานดา        ดวงพี่ นี้เอย
ปากปริ่มปริ่มพริ้มแย้ม    เยื่องย้ายอายโลม
     พี่เพ้อพรากจากร้าง        รอเรียม
หมองหม่นไหม้อกเกรียม     กรอบแห้ง
ทำไมไม่บอกเตรียม            ตรอมอก ฟกเอย
โศกสลดรัดทดแล้ง             เปลี่ยวร้างวิญญาณ์
     ตัดเนื้อน้องตัดได้        ตัดขาด
ตัดเยื่อใยตัดสวาท              อาจเอื้อม
ยิ่งตัดยิ่งคมบาด                 ปาดลึก ลงเอย
กลับเพิ่มพอกงอกเงื้อม       เงื่อนเค้าอาลัย
     ใจพร่ำเพรียกเรียกร้อง    รักนาง
มุ่งมาดไม่จืดจาง                   จากเจ้า
ค่ำคืนคิดครวญคราง            คอยเครียด เสียดเอย
เมื่อไหร่หนอรอเฝ้า               คั่งค้างรางเลือน
      ใครเขาเคียงข้างอยู่      ชู้เชย
ไม่คิดคาดไว้เลย                รักล้ม
ใจเจียนหยุดสุดเผย           พูดไม่  ออกนา
ร้อนเร่ากว่าเผาต้ม             ตอกเนื้อเถือใจ				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    31 พฤษภาคม 2549 15:48 น. - comment id 580932

    ไกลกันยังพร่ำเพ้อ          ถึงชาย
    ความเก่ามิเคยคลาย       จากน้อง
    ยังครวญคร่ำมิวาย           ถึงพี่
    คิดมากจนนวลร้อง           ป่านนี้พี่เคียงใคร
    
    
    
    ไม่ไหวแล้วค่ะ ได้บทเดียว อิอิ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • sagacious

    31 พฤษภาคม 2549 15:49 น. - comment id 580934

    แต่งได้ดีค่ะ
    
    ชอบมาก
  • ดอกบัว

    31 พฤษภาคม 2549 16:50 น. - comment id 580979

    ไพเราะมากค่ะ
    เข้ามาอ่านแล้วก้อแวะมาทักทายค่ะ
    41.gif36.gif
  • สดายุ

    31 พฤษภาคม 2549 20:50 น. - comment id 581020

    คนละบรรยากาศกัน
    
    1125697624.jpg
    ๐ ฝนมาฟ้ามืดร้าง...........รอยแข
    ดารดาษดื่นดาวแล..........ปลาตสิ้น
    ยังสายวชิระแปร.............ป่วนภาค โพยมเนอ
    แปลบปลาบประภาพดิ้น....เดือดทั้งโลกสถาน
    
    ๐ หนาวพรมเหนือแผ่นพื้น..ปฐพี
    ท่ามหรีดหริ่งราตรี...........แซ่ก้อง
    แผ่เพียงอดุระทวี.............เทวษแว่ว
    แข่งหฤทัยร่ำร้อง.............รบเร้าระงมเสียง
    
    ๐ ชลสรวงเนืองสู่ท้อง.......สินธู
    ละหยดละหยาดดู.............ดั่งแก้ว
    ชลเนตรเกลือกเนตรพธู.....เทียมเทียบ
    ละวาบละวับแพร้ว............พรับแล้วฤๅสลาย
    
    ๐ วังเวงวิเวกย้อม............วิญญาณ
    กลางสรรพสำเนียงขาน.....ขับร้อง
    เผยเพียงศัพท์อาการ.......กรายสู่
    ศัพท์แห่งปฏิพัทธ์พร้อง.....พร่ำเพ้อละเมอเห็น
    
    ๐ วาววามวิโรจน์เรื้อง......รัถยา
    ปลั่งประภาพเรขา...........ข่มพื้น
    วาวเนตรตักตวงอา-........วรณ์พี่ แลแม่
    แต่งรื่นรมย์พลิกฟื้น.........ร่วมฟ้าหลังฝน
    
    ๐ ปรารถนาประณีตเร้า....โลมสมร
    กล่อมนิทราน้องนอน.......แนบข้าง
    ผันภาคสู่อัมพร................พิมานเมฆ
    ลอยละล่องเวิ้งว้าง...........ระหว่างฟ้าระหว่างฝัน
    
    ๐ แผ่เพียงขึ้นสู่ห้วง.........เวหน
    แลลิ่วร่วงภูวดล...............แผ่นพื้น
    หวิววาบปริมณฑล...........อุระภาค กระนั้นนา
    ก่อนวรรษะวสันต์รื้น.......ร่วงฟ้าทิวาสถาน.
    
  • โฉบเฉี่ยว

    1 มิถุนายน 2549 15:06 น. - comment id 581214

    คุณเพียงพลิ้ว
    
      ทางไกลไม่อาจกั้น  กันจิต
    ชั่วแวปแปล๊บเดียวคิด  นึกหน้า
    ชายหนอพ่อทำพิษ  หลบเลี่ยง เบี่ยงเอย
    โอ้ป่านนี้พี่คว้า คู่แล้วแคล้วกัน
    
    ขอบคุณครับ
  • โฉบเฉี่ยว

    1 มิถุนายน 2549 15:12 น. - comment id 581215

    คุณsagacious
    
         ขอบคุณครับชุ่มชื้น  ชมนา
    โคลงยากลำบากหา   พจน์พร้อง
    ยินดีที่แวะมา       หมายอ่าน งานเอย
    เหมือนญาติมิตรพี่น้อง  ร่วมรู้โคลงกลอน
    
    ขอบคุณครับ
  • โฉบเฉี่ยว

    1 มิถุนายน 2549 15:16 น. - comment id 581216

    คุณดอกบัว
    
            ไพเราะเสนาะล้ำ   ทำนอง
    เสียงส่งลงกับกลอง     ครึกครื้น
    ต่างปรบตบมือสอง    เสียงลั่น สนั่นเอย
    บ้างสนุกลุกยืนพื้น  พลาดล้มลงนอน
    
    ขอบคุณครับ
  • โฉบเฉี่ยว

    1 มิถุนายน 2549 15:32 น. - comment id 581219

    คุณสดายุ
    
          ร้อนลมบ่มอุ่นให้      ใจรน
    ลำบากยากหายหน            หลบลี้
    ชายเนตรเลศลอบยล       กลับยิ่ง  ร้อนเอย
    โหมลุกสุกสุมจี้                  เจิดจ้ากว่าปราม
         เมฆลอยอ้อยอิ่งห้วง       เวหา
    มวลนกผกผินนภา          แผ่วร้อง
    แสงแดดแผดลงมา      หมดทั่ว แนวเอย    
    โลมอาบซาบซึ้งต้อง       แต่งแต้มแกมกลืน 
        ชีวันฝันสักครั้ง        คราวเดียว
    คืนพบประสบเสียว        สุขซึ้ง
    วอนรักจักกลมเกลียว    ก่อแต่  แม่เอย
    รินหยดรสหวานอึ้ง        อาบห้วงดวงหทัย
        วิจิตรนิมิตนั้น             บรรเจิด
    แสงสว่างพร่างแพรวเพริศ      ผ่องหล้า
    ปวงรสกลิ่นหอมเลิศ        ลดาดอก ดวงเอย
    โปรยร่ำฉ่ำชื่นฟ้า           เฟื่องฟุ้งรุ่งคืน
         จันทร์ดวงร่วงดับไซร้   ไม่สน
    เหลือแต่แค่เพียงคน         เคลิบเคลิ้ม
    โชติสว่างอย่างเกินทน     ทานทัด  จรัสเอย
     แท้ยากรับหยาดเยิ้ม     อยู่ด้วยนั้นเลือน
            ตราตรึงพึงเกิดขึ้น  ครั้งคราว
    จมจิตคิดกลับหนาว         หวั่นสะท้าน
    ดั่งมีดกรีดคมวาว         วาบบาด  ปาดเอย
    เกินกว่าคว้าเก็บกว้าน     ก่อก้าวเพราะกรรม
            วานลมห่มห่วงร้อย     ลอยมา
    กลางท่ามคิมหันต์นา          บ่มยิ้ม
    พริ้งเพริศเลิศงามตา      ตามหน่วง บ่วงเอย
    หมายแต่แลพักตรพริ้ม      เพิกเว้นมิมี
    
    ขอบคุณครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน