ฉันไม่เคย มีเธอ ดั่งเพ้อฝัน ผ่านร้อยวัน พันปี ไม่มีเห็น ผ่านร้อนหนาว เช้าสาย ยันบ่ายเย็น มันยังเป็น เช่นเคย แค่เลยไป ฉันไม่เคย มีใคร มาใคร่รัก เขาทายทัก รู้จักกัน อย่าหวั่นไหว คนอย่างเรา เขาไม่รัก จงปักใจ เป็นแนวไว้ ในชีวิต อย่าคิดเพลิน ฉันไม่มี หัวใจ ให้รู้สึก พึงสำนึก ตรึกใน มิให้เหิน ใครมองพ้น ยลผ่าน พลันหมางเมิน เชิญเถิดเชิญ ใช่ตาเรา ตาเขาเอง เพราะฉันมัน รักใคร ไม่เป็นหนอ มิมัวร่อ มาร้องห่ม ให้ข่มเขง เขาไม่รัก เราก็ไม่ มิได้เกรง ก็วังเวง ก็ว้าเหว่ บางเวลา ฉันไม่มี ตัวตน เหมือนคนอื่น อาจรั้นยืน รื้นอยู่ รู้เดียงสา ทว่าร่าง ที่พ่างตาย ในสายตา ไร้วิญญาณ์ จะอาลัย ให้อาวรณ์ ฉันไม่รู้ ร้อนเย็น เช่นสัตว์โลก สุขหรือโศก โรคหรือภัย ไม่พึงหลอน หอมอบร่ำ รสอร่อย รอยงามงอน ฉันสิ้นพร สัมผัสไซร้ มิใคร่มี ฉันไม่มอง เมื่อมอง แล้วร้องไห้ ฤๅบอดได้ ก็บอดไซร้ ให้บอดสี เปลี่ยนให้โลก และสลัว ชั่วราตรี วอนสุรีย์ อย่าเรืองรอง ส่องฟ้าดิน เพราะไม่อยาก และเห็น สิ่งใดไซร้ นั่นดอกไม้ ได้สลอน เคียงก้อนหิน นี่ใบไม้ ไรไรสวย รวยรวยริน โน่นนกบิน ยามเรื่อเรื่อ เมื่อรำไร ต้องคอยเตือน ตัวเอง อยู่อย่างนี้ ในยามมี อารมณ์ อันอ่อนไหว ต้องแข็งแกร่ง มิแปลงเป็น เช่นใบไม้ เธอไม่ใช่ ของฉัน นั่นความจริง ยามเผชิญ ความเหงา ที่โหดร้าย มารุมราย กายใจ ไร้ไฟผิง ยามรอบร่าง ร้างรัก ให้พักพิง มีเพียงสิ่ง ไร้ชีวิต จิตวิญญาณ ไม่ให้ยิ่ง เศร้าเมื่อขาด เธอไปแล้ว แม้นมิแคล้ว คลาดวัฏ- สงสาร แค่พอให้ ไม่สลาย สายลมปราณ ประคองวาร ครั้นมิถึง ซึ่งคราวตาย ฉันต้องไม่ เป็นไร ไปตอนนี้ เพราะยังมี แม่น้ำริน มิสิ้นสาย เกลือยังเค็ม เต็มรสชาติ มิอาจคลาย เมื่อลมชาย ใบไม้ช้ำ ยังพร้ำพรู ขอแค่เพียง ลืมเธอ ไม่เพ้อฝัน ว่าเธอนั้น มิเงียบกริบ กระซิบหู ให้รอยยิ้ม เย้าแหย่ ยังแลดู คอยเดินคู่ อยู่ข้าง เหมือนอย่างเคย เป็นวันผ่าน วานพ้น เพื่อวนหนี ทุกวันนี้ ที่เผชิญ คือเมินเฉย ราวที่สุด เราทั้งสอง ต้องลงเอย มิทันเอ่ย เอื้อนร่ำ อำลาเธอ หนึ่งเรือล่อง สองโลก ไว้โศกสุข โลกหนึ่งปลุก ให้ตื่น เมื่อคืนเผลอ โลกหนึ่งสอน อย่าอ่อนไหว ในวันเพ้อ ขอไม่เจอ เธออยู่ใน ฝันอีกเลย
24 พฤษภาคม 2549 18:31 น. - comment id 579377
คุณไม่เคยมีเธอมาเพ้อหรือ ทุกสิ่งคือสิ่งปกปิดมิดชิดไหม เพียงกลบเกลื่อนเลือนฝันอันห่างไกล ปากบอกไม่, ไยใจคิด ไม่เลือนลาง ไม่มีเลยหัวใจจะให้รัก แต่ปากหนักใจอ่อนซ่อนเร้นห่าง แล้วใครหนอพอตกค่ำร่ำมิจาง หัวใจคว้างเหงาเคว้ง เป็นเพราะใคร คุณไม่เคยมีเธอแม้เผลอคิด แต่เศร้าจิตตรอมตรมขมแค่ไหน เย็นชาชืดจืดจางอยู่ข้างใน แข็งจนใจเป็นน้ำแข็ง ... ใช่แกร่งจริง
24 พฤษภาคม 2549 22:09 น. - comment id 579414
รักก็เศร้าหากเราไม่ได้รัก ไม่แปลกนัก ใครก็เจ็บ เก็บลึกไว้ แม้ว่าไม่ครวญคร่ำ---ยังจำใจ ตัดพ้อไป ว่าทำไม ไม่ใยดี ความรักเป็นสิ่งเราตั้งหวังสุดแสน แม้ยากแค้นยังไม่หวั่นไม่หันหนี ลองร้องไห้ดูสักครั้ง--อาจบางที น้ำตาคล้ายสารเคมี--ตัดรอนไม้ อยากอ่อนไหว อ่อนไป เพราะใจอ่อน ไม่ต้องซ่อนหรอกหนา น้ำตาไหล เผื่อบางที อาจรู้ค่า ความอาลัย รักที่เหลือ อาจมีไว้ ให้ตัวเอง มาอ่านค่ะ
25 พฤษภาคม 2549 00:38 น. - comment id 579428
ปราณรดี ปรีดารับ กับสหาย คุณเพลงพราย ช่วยร่ายร่ำ น้ำคำหวาน เตือนสติ ห้าปีก่อน ช้ำรอนราญ ทรมาน ปานจะบาด ใจขาดรอน ณ วันนี้ อ่อนไหว เพียงใจคิด มอบชีวิต ให้ความรัก ในอักษร มิอ่อนโยน เยื้องย่าง อย่างบังอร จักโต้ต้อน กลอนเล่น ได้เช่นไร ปราณรดี ชื่นชม ในชีวิต ขอให้จิต เจ้าแจ่มจ้า เกินหาไหน อีกเพลงพราย ให้แพรวพราว ในพื้นไพร โอ้อ่อนไหว แต่เราไซร้ ไม่อ่อนแอ
28 พฤษภาคม 2549 17:14 น. - comment id 580101
1 นาทีเพื่อรัก ทั้งชีวิตเพื่อลืม
30 พฤษภาคม 2549 13:17 น. - comment id 580597
ผ่านคืนวันเวลามามากล้น ผ่านผู้คนมากมายหลากหลายเหลือ ผ่านการถูกข่มเหงไร้จุนเจือ สุดจะเหือทานทนคนจริงใจ อยู่คนเดียวเปลี่ยวเปล่าฤาเศร้าหมอง ตามครรลองของวารวันฉันหวั่นไหว เมื่อไหร่นาจะมีคนที่มอบใจ ไม่จากไปอย่างนี้จะมีรึ.....
31 พฤษภาคม 2549 12:19 น. - comment id 580866
... ไม่เคยรัก ใยจึง รีบหักอก เหมือนฝนตก กลัวเปียก เรียกหาร่ม ลองยื่นมือ ทีละน้อย ให้ฝนพรม จะชื่นชม หยาดน้ำ ชุ่มช่ำใจ ....เกิดมาทั้งที ไม่มีรัก เพราะกลัวอกจะหักจึงเก็บไว้ ไม่เคยเรียน จะรับปริญญา ได้ยังไง คำนิยาม หรือสู้ใจ ได้รู้จริง