..๏ ชมเพ็ญแขแลพิลาศดารดาษดาว ช่างแพรวพราวพรรณรายฉายเฉิดฉัน ล้ำเรืองนักลักขณาโสภาพรรณ เรียงรายสรวงห้วงสวรรค์นิรันดร แสงกระพริบระยิบระยับวับวาวยิ่ง เช่นช่วงชิงเปล่งประกายเฉิดฉายก่อน พลันพวยพุ่งรุ่งเรืองเบื้องอัมพร บ้างโชนชรฉวัดเฉวียนเปลี่ยนทิศทาง มวลหมู่ดาวราวระเริงบรรเทิงนัก ฤๅปองรักในพระจันทร์อันแจ่มกระจ่าง จึงอวดแสงแข่งรัศมีทุกที่ทาง ฟ้าเวิ้งว้างจึงงามยามราตรี บางดวงดาวราวประสงค์คงเคียงคู่ แม้นงามอยู่ห่างไกลใฝ่จันทร์ศรี จึงพุ่งฟ้าจ้าจรัสสุรัชนี หมายไมตรีแห่งจันทร์บันดาลมา ครั้นเคลื่อนคล้อยลอยละลิ่วพลิ้วผาดแผลง พลันหมดแรงร่วงลงตรงภูผา เคยสวยแสงแปลงไปไร้ชวาลา จากเมืองฟ้าพลัดหลงลงแดนดิน สุดพิลาสอัศจรรย์สุขสันต์แสน หากมาตรแม้นคู่ใจในต่างถิ่น ได้มามองผองชุติศศิพินทุ์ แม่โฉมฉินจักเกษมอิ่มเอมใจ จักเรียงร้อยถ้อยคำวรรณกรรมกล่อม ชมดาวล้อมจันทราอัชฌาสัย ถึงผองดาวพราวจันทร์พรรณพิไล มากเพียงใดหมายเจ้านั่งเฝ้าฟัง จักเอื่อนเอ่ยเปรยสำเนียงเป็นเสียงเสนาะ แล้วฉอเลาะชี้ชมสมใจหวัง ว่าเดือนดาวสุกสกาวราวจีรัง งามพร้อมพรั่งดั่งไมตรีมีให้กัน ดาวเคียงเดือนเสมือนใครใคร่ใกล้ชิด พลั้งเผลอจิตถลำใจคิดใฝ่ฝัน มีเพียงข้าฯเหม่อมองผองดาวจันทร์ ไร้จอมขวัญเคียงข้างอ้างว้างจริง วอนเดือนดาวพราวประกายที่ปลายฟ้า ด้วยตัวข้าฯ หมายใจในบางสิ่ง ว่าผู้หนึ่งซึ่งเหงาเฝ้าแอบอิง หวังพักพิงเพียงจันทร์แม้นพันดาว ๚ะ๛
7 เมษายน 2549 02:03 น. - comment id 570334
เราก็หวังหมายใจในบางสิ่ง แม้ไม่อาจเป็นจริงได้ในสิ่งหมาย แต่ยังเห็นเดือนดาวพราวประกาย อยู่ที่ปลายขอบฟ้าคราพักพิง
7 เมษายน 2549 04:32 น. - comment id 570344
คืนเคียงกันชมดาวบนราวฟ้า อัลมิตราลืมใครหรือไม่หนอ จึ่งพ้อพจน์หมดหวังตั้งตารอ เฝ้าวอนขอดาวเดือนหาเพื่อนใจ คนปลายฟ้าอยู่ไกลหวั่นไหวจิต ยามมิ่งมิตรไร้คู่คนอยู่ใกล้ จึงส่งสาส์นผ่านจันทร์อันอำไพ ว่าหัวใจยังคิดถึงคำนึงกัน อย่าโศกเศร้าเหงาหงอยกลอยใจเจ้า ตัวข้าฯเฝ้านับวารที่ผ่านผัน ยามสุรีย์ลี้ลับดับแสงวัน จงมองจันทร์นั่นคือใจคนใกล้อัลฯ
7 เมษายน 2549 09:51 น. - comment id 570370
นภาพรรุจีรัศมีแข ประดุจแดประดับศรีฤดีสมร สถิตห้วงสรวงสวรรค์นิรันดร ศศิธรคู่ขวัญดาษพันดาว ดวงประทีปชวาลาพสุธาถวิล พิสุทธิ์ศิลป์เสกสร้างสู่กลางหาว เลิศพิไลรุจิรานภาพราว สุกสกาวเนตรวานรศรคคนางค์
7 เมษายน 2549 11:32 น. - comment id 570383
คุณอัลมิตรา ชอบพระจันทร์กับดวงดาวเหลือเกิน แต่งทีไรก็นึกถึงเวิ้งฟ้า ทะเลฝัน ที่ที่เราพบกันทุกวันน่ะค่ะ มาชื่นชมและศึกษางานงามค่ะ
7 เมษายน 2549 16:00 น. - comment id 570419
เวิ้งฟ้ามองหาเงาจันทร์ มีเธอกับฉันเคียงใกล้ เวิ้งฟ้าเหมือนอยู่ไกลไกล แต่กลับหัวใจเราใกล้กัน
7 เมษายน 2549 18:20 น. - comment id 570440
อัลมิตรา เขียน:- วอนเดือนดาวพราวประกายที่ปลายฟ้า ด้วยตัวข้าฯ หมายใจในบางสิ่ง ว่าผู้หนึ่งซึ่งเหงาเฝ้าแอบอิง หวังพักพิงเพียงจันทร์แม้นพันดาว ๚ะ๛ --------------------------------------- จันทร์ใจ --------------------- มองจันทราราตรีที่ดาวล้อม ช่างงามพร้อมย้อมใจให้สืบสาว เสริมนภาระยิบกระพริบพราว ช่างสกาวชวนจิตสนิทชม แสงจันทราแอร่มเรืองมิเปลืองเปล่า ช่างยวนเย้าดาวกระจายให้ล้อมห่ม แม้แต่คนยลจันทร์พลันภิรมย์ ด้วยชื่นชมจันทร์ฉายพร่างพรายพรรณ มวลดารารื่นเริงบรรเทิงไสว ล้อมเดือนไว้ในอ้อมดังจอมขวัญ เปล่งประกายฉายแสงแฝงรอบจันทร์ นภาอันเวิ้งว่างกระจ่างเรือง หากใจคนพ้นโลภโกรธและหลง จะมั่นคงเฉิดฉายใจปราดเปรื่อง ย่อมเย้ายวนชวนใจให้ย่างเยื้อง และดูเชื่องยอมใจใฝ่ภักดี เว้นราคะโลกีย์ที่ในโลก ย่อมพ้นโศกเศร้าศัลย์พลันห่างหนี แจ่มจีรังยั้งอยู่ชูมนตรี ตลอดกาลนานปียังนิรันดร์ สุขสงัดอัศจรรย์มั่นสงบ หากพานพบสบพักตร์ประจักษ์มั่น ด้วยรักกรุ่นอุ่นเอมเกษมพลัน การุณย์กันมั่นนักหลักเมตตา แม้มิกรองกลอนกานท์มาขานขับ ก็เนืองนับอิ่มอุ่นเพิ่มคุณค่า รักด้วยหวังตั้งสุขทุกพารา กรุณามาทอก่อหลักใจ มิต้องวอนอ้อนพร่ำคำนึงอยู่ จากจิตผู้ยินดีมิผลักไส มุทิตาด้วยฤดีที่ปันไป หวังสิ่งใดให้สมภิรมย์ปอง ดาวเคียงเดือนเหมือนใจที่ใกล้ชิด แนบสนิทด้วยใจที่ใสผ่อง ด้วยเว้นโลภโกรธหลงปลงคะนอง มิเรียกร้องก็ให้เพราะใจมี แม้มิวอนอ้อนออดก็ถอดให้ สิ่งใดใดเขินขาดมิคลาดหนี พร้อมใจเอื้อเกื้อกูลหนุนทวี ด้วยใจนี้คงมั่นกว่าจันทรา ------------------------------ บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก ๗ เมษายน ๒๕๔๙ จิตใจที่พ้นจากโลภโกรธหลง เหมือนจันทร์ที่พ้นจากเมฆหมอกบัง ย่อมยังโลกนี้ให้สว่างไสวจิรันดร์กาล
7 เมษายน 2549 19:00 น. - comment id 570443
... วอนเดือนดาวพราวประกายที่ปลายฟ้า ด้วยตัวข้าฯ หมายใจในบางสิ่ง ว่าผู้หนึ่งซึ่งเหงาเฝ้าแอบอิง หวังพักพิงเพียงจันทร์แม้นพันดาว จบประทับใจจริงนะครับ...หวังพักพิงเพียงจันทร์แม้นพันดาว...
7 เมษายน 2549 22:52 น. - comment id 570474
จันทร์ดวงเดียว...แทนความหมายถึงใครบางคน ที่จะเป็นหนึ่งเดียวในใจเสมอ...ทุกยามมอง
8 เมษายน 2549 07:02 น. - comment id 570503
ชอบแสงเดือนเหลือเกิน คืนนี้จะนอนชมใบตองกล้วยอาบแสงเดือน ลองดูหน่อยนะ แล้วจะชอบ....
8 เมษายน 2549 10:05 น. - comment id 570535
หนึ่งจันทร์ในพันดาว... ทำไมต้องเป็นประโยคนี้ ?... แท้จริงแล้ว ดารดาษดาวบนฟากฟ้า มีมากเหลือเกิน เกินกว่าสายตาของเราจะนับถ้วน... ในความรู้สึกที่เคว้งคว้าง...บ่อยครั้งยามราตรีก็จะแหงนมองขึ้นไปยังเบื้องบน... บางคืนมีดวงจันทร์... บางคืนก็ไม่มี... ทุก ๆ คืนมีดวงดาว... จันทร์เป็นตัวแทนของใคร... หรือใครเทียบความรู้สึกตัวเองเฉกจันทร์ที่เหว่ว้า... ก็คงแล้วแต่สภาพที่หัวใจผู้นั้นจะเชื้อเชิญให้เป็นไป... เมื่อเทียบจำนวนของงานเขียนทั้งหมดที่มีอยู่... เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า...จันทร์คือสิ่งที่เราพรรณนาถึงมากที่สุด... เวลาที่เปลี่ยนไป...อะไรต่อมิอะไร...สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ... เราจำวันที่ครูไหวใจร้ายบอกกับเราว่า...\"..เขียนถึงจันทร์อีกแล้วเหรอ !..\" อาจจะเป็นเพราะความมืดมนจนมองไม่เห็นใคร... อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกที่เหมือนไร้หนทาง... ทุกอย่างที่กลั่นกรองออกมาเป็นคำปรารถนา... ..วอนเดือนดาวพราวประกายที่ปลายฟ้า ด้วยตัวข้าฯ หมายใจในบางสิ่ง ว่าผู้หนึ่งซึ่งเหงาเฝ้าแอบอิง หวังพักพิงเพียงจันทร์แม้นพันดาว..
8 เมษายน 2549 10:50 น. - comment id 570541
คุณลักษมณ์ .. ความหวังที่แสนไกล ณ ปลายฟ้า อาจสมปรารถนาค่าทุกสิ่ง แต่ภาพลวงเราเห็นมิเป็นจริง ความทุกข์จึงจมดิ่งยากทิ้งวาง คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. เคยเคียงกันชมดาวบนราวฟ้า ความทรงจำตรึงตราสุขกว่าไหน จะลบเลือนคงลำบากยากทำใจ มองนภาคราใดให้อาดูร คนปลายฟ้าอยู่ไกลหวั่นไหวหนอ รักที่ก่อคงคลายคล้ายเสื่อมสูญ วันที่ความช้ำชอกบ่มพอกพูน ทุกข์เหมือนคูณทบทวีที่อกอัลฯ คุณม้าลาย .. ราตรีที่แจ่มฟ้า...................แพรวพราว ดาษดื่นระรื่นดาว..............กระจ่างแท้ จันทร์แหว่งเว้าในคราว.....แรมผ่าน ดั่งจิตผู้ระบายแพ้-............พ่ายสิ้นต่อสกล คุณภาวิดา .. ค่ะ อัลมิตราชอบพระจันทร์และดวงดาว .. ชอบในความงดงามที่มนุษย์เรามิอาจเอื้อมถึง เป็นความรู้สึกที่ไม่มีวันจบความรู้สึก .. และที่สำคัญ มันเป็นส่วนหนึ่งของความสุขด้วยค่ะ :) คุณหลักไม้เลื้อย .. ไกลใกล้สำคัญใด หากหัวใจยังใฝ่ฝัน ราตรีที่ไร้จันทร์ ค่ำคืนนั้นพลันหมองมัว คุณคนตัวเล็ก .. :) คุณเขียนได้งามนะคะ และให้นัยความหมายของคำว่าจันทร์ในพันดาวต่างออกไป ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดี ในความแตกต่างของจินตนาการที่เปิดกว้าง แรกเริ่ม อัลมิตราเห็นคุณม้าลายเขียนคอมเมนท์ในกระทู้ คนของความคิดถึง ที่เขียนให้อัลมิตรา ขอยกบทที่ ๓ ที่คุณม้าลายเขียนมาเป็นคำอ้าง เพราะเธอคือหนึ่งจันทร์ในพันดาว อันพร่างพราวภพอยู่มิรู้สิ้น เสียงหัวใจฝากหัวใจหากได้ยิน ตราบชีวินสูญสลายไม่เคยลืม ทำไมอัลมิตราถึงโมเมว่าคุณม้าลายเขียนถึงอัลมิตรา .. คำตอบก็มีอยู่ว่า หนึ่งจันทร์ในพันดาว เป็นชื่อที่อัลมิตราระบุไว้ใน msn และคุณม้าลายจับความรู้สึกนั้นได้ จึงนำมาต่อยอดเขียน .. อัลมิตรารู้สึกดีกับการเอาใจใส่ในครั้งนั้น เป็นความปลื้มที่บอกไม่ถูก กระทั่งคุณร้อยแปดพันเก้าก็มาต่อยอดเขียนอีกชั้นหนึ่งในกระทู้กลอนของเขา อัลมิตราเห็นความสวยงาม เห็นความละมุนให้หัวใจ เขาสามารถหยิบยกคำ ๆ นั้นมาเขียนเป็นเรื่องราว โดยถ่ายทอดความรู้สึก ในแบบฉบับของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่เจียมตัวเจียมใจ ที่จะเฝ้ามองจันทร์ในใจของเขา และเขาก็บอกที่มาโดยชัดเจนในตอนที่ตอบคอมเม้นท์ อัลมิตราขอยกอ้าง กลอนบทที่ ๕ ของเขา ขอจันทร์งามสมสง่าในหล้าโลก ดาวอับโชคแอบฝันถึงจันทร์เสมอ จันทร์ของใจแพรวเพริศสวยเลิศเลอ ยกให้เธอ หนึ่งจันทร์ในพันดาว อัลมิตรามีความตั้งใจอยู่ก่อนแล้วว่าจะเขียนงานชุดที่จะมีชื่อว่า หนึ่งจันทร์ในพันดาว และถึงแม้นจะมีผู้อื่นนำไปเขียนเป็นกลอนก่อนหน้าแล้ว อัลมิตราก็ยิ่งมีความรู้สึกที่จะเขียน ไม่ใช่เพื่อการแข่งขัน ประกวดสำนวนแต่ประการใด .. แต่เป็นการขานรับความรู้สึกที่ดี ที่ยิ่งจะต้องตั้งใจเขียนมากกว่าเดิม เขียนเพื่อพวกเขาด้วย.. เราต่างจุดประกายซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่อัลมิตราหวังเป็นอย่างมาก ที่จะให้เกิดขึ้นในบ้านกลอนไทย อัลมิตรายิ่งเป็นสุขทวีขึ้นไปอีก เมื่อได้เห็น \"จันทร์ใจ\" ของคุณ โดยคุณเขียนซ่อนนัยไว้ในเชิงธรรม ฝากไว้ให้เป็นแง่คิด ซึ่งทั้งหมดนี้ ยิ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า .. ในแต่ละมุม ในแต่ละความคิด ในแต่ละจินตนาการ ทุกอย่างไร้ขอบเขต ไร้พันธะคั่นขวางใด .. จันทร์เพียงดวงเดียว มีพลานุภาพมหาศาล อัลมิตรายังมีความเชื่ออีกว่า ยังไม่หมด ..สำหรับจินตนาการแห่งดวงจันทร์ คุณปักษาวายุ .. วันก่อนมีคนบอกว่าเหมือนโดนปักจึ๊กตรงหัวใจ ป่านนี้รอดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? คุณเพรง.พเยีย .. :) คุณพูดสิ่งที่อยู่ในใจของอัลมิตรา และอัลมิตราก็คิดว่า หลายคนคงคิดตรงกันค่ะ คุณครูใหญ่โรงเรียนเล็ก .. คราวก่อนหาใบตองกล้วยไม่ได้ หนำซ้ำซ่อนจันทร์ริมสันเขื่อนอีกต่างหาก ช่วงเพ็ญเดือนแปด .. ทุกอย่างคงพร้อมสรรพ ดนตรีพร้อม .. จะได้ดูคุณครูใหญ่ส่ายสะโพก ฮูลา ฮูล่า ก็ตอนนั้นแหล่ะค่ะ
10 เมษายน 2549 14:51 น. - comment id 570800
อัลมิตราคุณเป็นใครผมไม่รู้ แต่อยู่อยู่คุณอ่านกลอนของผมเข้า ผมก็เลยอยากเชยกลอนคุณแต่เอา อ่านแล้วเร่ารู้สีกให้นึกตาม คุณแต่งกลอนใส่อารมณ์น่าชมชื่น ผมหลับอยู่กลับตื่นขึ้นตีสาม มามองเมียงคอเคียงระเบียงงาม มองดูดาวเดือนตามที่อ่านกลอน ผมอยากรู้จักอยากรักร้อยกลอนแบบคุณ อยากละมุนกรุ่นสัมผัสรัดอักษร รัดรึงใจเร่ารูปรสลิ่มละคร คือบทกลอนก่อนนอนกลอนของคุณ... คุณอัลมิตราอย่าหาว่าผมเพ้อเลยนะ...ก็มันเพ้อจริงๆคุณแต่กลอนไดเพ้อมาก..คุณคงเข้าใจผมไม่ได้ว่านะ แต่ผมพูดตามความเป็นจริง ขอบคุณที่อ่านกลอนของผม(ครูไพโรจน์)สัมผัสใน และเล่นตัวอักษรของคุณดีมาก วรรณศิลป์และวรรณวิจิตผมให้ 10 เต็ม 10 เลย ส่วนวรรณทรรศน์และวรรณสารัตถ์คุณคงรู้..ผมไม่ขอวิจารณ์ ภาพรวมกลอนคุณเพราะครับ
10 เมษายน 2549 23:20 น. - comment id 570855
คุณไพโรจน์ .. ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาเยือนและฝากความคิดเห็นไว้เป็นกำลังใจ
11 เมษายน 2549 23:24 น. - comment id 571140
แวะมาทักทายขอรับคุงพี่
12 เมษายน 2549 07:26 น. - comment id 571179
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณเฟี๊ยตเตอร์
12 เมษายน 2549 14:50 น. - comment id 571282
ถึงจะชื่อฤกษ์ แต่ก็หาใช่ดาวดวงใดในหมื่นพันที่รายล้อมจันทร์ดวงนี้คงเป็นเพียงสะเก็ดปลิวละล่องในห้วงอวกาศเพียงเท่านั้น
12 เมษายน 2549 21:27 น. - comment id 571368
คุณฤกษ์ .. คุณมีค่ามากกว่า .. เศษธุลีเยี่ยงอัลมิตรา
15 เมษายน 2549 16:08 น. - comment id 571694
ในฐานะกวี ผมนับถือคุณ
17 เมษายน 2549 12:29 น. - comment id 572044
คุณวนกวี .. คำชื่นชมจะเป็นน้ำปรุงใจให้อิ่มเอมเสมอ ขอบคุณค่ะ