นิรมิต ของสดายุ

โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน

๑.เมื่อเมฆพราวขาวข้อง ณ ท้องฟ้า
    เสนาะเสียงเพียงอุรุเวลา
    ละอองหมอกเพิ่งบอกลา ณ สายันณ์
๒ สว่างไสวใต้เวหาคณากว้าง
   พิสิฐสร้างดั่งสวนสมพรหมสวรรค์
   ศิลปีกวีวาดประกาศกัณฑ์
   แสนสุคันธ์ ฤา เทียมได้ไม่มีทาง
๓ ธัญญะชาติกระจัดพรมด้วยลมโบก
    จะเกรียวโยกโกรกฟุ้งเมื่อรุ่งสาง
    ดุจเอนอายส่ายต้องละอองวาง
    ณ ทุ่งทองก็ร้องอ้างอยู่เกรียวเกรียว
๔ เคยจิกทิ้งดึงดื้อถือเหตุผล
    เชษฐ์ก็ทนเนื้อกล้ำจนช้ำเขียว
    ด้วยนุชงอนค้อนขึ้งขมึงเเกลียว
    แต่ใจเจียวสิจะยั้งลองหยั่งชาย
๕ แต่ล่วงลามข้ามกอดมาสอดช่วง
   มาดอมดมชมดวงให้ทรวงหาย
   อุ่นอ้อมแอบแนบนิดสนิทกาย
   ละมุนอายไม่คลายจิตสนิทใจ
๖ เพราะขุ่นข้องน้องช้ำจึงกำหมัด
   หมิ่นรีสัตย์สตรีไซร้น่าใจหาย
   จึงพ้อว่าอ้าพิเชษฐ์เพราะเหตุใด
   จึงชมนวล ให้หวลไซร้ต้องช้ำเกิน
๗ แต่ยังกล้าบ่หยุดยั้งระวังจิต
   ยังแอบลอบมาจุมพิศไม่คิดเขิน
   ฤา ไม่ข่มอารมณ์ไว้ปล่อยใจเพลิน
   จึงล่วงเกินกล้ากล้ำให้ช้ำนวล				
comments powered by Disqus
  • สดายุ

    17 กุมภาพันธ์ 2549 05:29 น. - comment id 561482

    1140128928.jpg
    
    สดายุตาฉันท์ ๑๔
    00101011101012
    00101211101013
    
    1.....ลหุ
    0/2/3....ครุ
    
    ๐ เปลวเทียนเฉวียนฉวัด
    พิศะจรัส ณ ค่ำ ณ คืน
    เบียดพลบจะขบจะขืน
    นิละทะมื่นมล้างมลาย
    
    ๐ แสงน้อยประดอยประดิษฐ์
    พละกระจิด ฤ กลบ ฤ กลาย
    มืดดำก็ย้ำขยาย
    จุละประกายจะกร่อนไฉน
    
    ๐ กลางหม่นวิกลวิกาล
    นรกะผ่านสะท้านไผท
    คลุมครอบณขอบสมัย
    ทมิฬะนัยก็แย้มและหยัน
    
    ๐ จงดูจะสู ฤ เรา
    ศักยะเร้าจะโรมจะรัน
    สามารถและอาชญ์ผจัญ
    ชิวะจะผันชิวันจะผลาญ
    
    ๐ เราผู้จะคู่พิภพ
    พละตลบลุทิพพิมาน
    ค่ำคืนจะขืนจะคาน
    รุจะละลาญ ตระการ ฤ เห็น
    
    ๐ จงดูเถอะสู ฤ เรา
    จริตะเฝ้าคละเขลาลำเค็ญ
    เพียงรู้จะอยู่จะเย็น
    ทุขะก็เร้นบ่เค้นบ่คา
    
    ๐ หมื่นเทียนจะเนียนประกาย
    ชยุติผายประภัสสรา
    ข่มขืนทะมื่นพลา
    ศักยะกล้าจะกลบจะกลืน
    
    ๐ ช่วงเธียรเสถียร ณ ทาง
    เหมาะจะเหยาะย่างและหยัดและยืน
    หนึ่งใจเพราะไขว่เพราะฝืน
    มรณะคลื่นจะตื่นเพราะตรอง.
  • โอ๋คับ

    17 กุมภาพันธ์ 2549 08:06 น. - comment id 561494

    เอาแล้วไง ท่านสดายุ หมัดตรงซะแล้ว
  • อัลมิตรา

    17 กุมภาพันธ์ 2549 12:50 น. - comment id 561596

    ๕ ๕ ๕ ... 
    
    ใจเย็นน่า .. ปลายทางหรือที่ไหน ๆ ก็มี 36.gif เหมือนกัน
  • ภูวดินทร์

    17 กุมภาพันธ์ 2549 16:40 น. - comment id 561642

    6.gif11.gif
    
    แวะมาอ่านผ่านมาก็มาเป็นนักอ่านที่ดีครับ
    
    6.gif11.gif
  • โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน

    17 กุมภาพันธ์ 2549 17:56 น. - comment id 561658

    วิทิตะสดายุตาฉันท์ ๑๔
    
    001010.....11101012
    001012.....11101013
    
    ๐ ฉายฉานสุรียะแสง
       ทิวะ ณ แจ้งก็แรงก็เริง
       ร้อนรุมประชุม ก็เติม
       พละสิเหิมบ่แล้งบ่ลา
    
    ๐ กัดทึ้งณ ชีพ ณ ชนม์
       ฤติกระมล จะค้างจะคา
       ดิ้นด้น ฤ ชนม์ ฤ กา-
       ละสุขะชีพ สละสลาย
    
    ๐ กลางแจ้งประภัสประไพ
        ดนุหทัย สิ ห่วง สิ หาย
        ยังย้ำระกำไฉน
        ฤรติกล้ำกระทำกระเทือน
    
    ๐ กราวเกรียว ณ เคียว กระกวัด
       วยุสบัดจะพัด จะเบือน
       สมเพช ฤ ข้าจะเหมือน
       กะจุณะเศษขยะขยาย
    
    ๐ เหม่อมอง ณ ท้อง พนา
       ชยุติกล้า จะท้าจะทาย
       แสนสรรค์ ฤ พรรณ อุไร
       ดนุจะไป สิไหว้ และ หวัง
    
    ๐ เพราะพรหม ฤ กรรม ฤ กาฬ
        ทมิฬะปาน จะกลบจะฝัง
        ต่ำต้อย และ น้อย พลัง
        ฤจะตะโกน ก็ กลัว ก็เกรง
    
    แทบแย่.....................

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน