อาดูรเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวฝันใฝ่ ส่งหทัยแห่งรักภักดีมิหน่าย โอ้เจ้างามหนอรอรักทักทาย ชโลมกายปรายแสงแสนร้าวราน บอกผ่านสายลมว่าข้าฯ โหยหา เป็นสัญญารักมั่นฝั่งฝันหวาน คอยเงาเว้าวอนเจ้าให้อยู่นาน สุขสมกานดาตราบนิจนิรันดร์
30 มกราคม 2549 21:58 น. - comment id 556780
บางครั้งสิ่งที่เราตั้งใจไว้ มิได้เป็นไปตามใจเราปรารถนา จนเกิดความเหงารุมเร้านะครับ แก้วประเสริฐ.
31 มกราคม 2549 00:50 น. - comment id 556807
... I just want to say \" hi \" .. and Thank you ........ and nice to talke to you...
31 มกราคม 2549 12:25 น. - comment id 556914
แวะมาอ่านค่า
31 มกราคม 2549 13:40 น. - comment id 556939
**แก้วประเสริฐ** ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ..แหม! อยากได้คำแนะนำในการแต่งกลอนด้วยจังเลยค่ะ **แสงไร้เงา** สวัสดีค่ะ...ขอบคุณคุณแสงไร้เงาที่มาเยี่ยมเยียนค่ะ.. **ลมรำเพย** ขอบคุณลมรำเพยที่แวะมาอ่านค่ะ.. ถ้าจะกรุณาดาวเคียงเดือน..อยากได้ข้อคอมเมนท์ด้วยน้า..
31 มกราคม 2549 15:08 น. - comment id 556961
หลานดาวเคียงเดือน ผมเองไม่ได้เก่งอะไรหรอกครับการเขียนกลอนนั้น ผมใช้ใจในการเขียนหมายความว่า หากต้องการเขียนก็ทำใจให้สบายๆไปตามกระแสร์ แต่ต้องระมัดระวังอย่าให้กลอนพาเราไปโดยอาศัย ฉันท์ลักษณ์เป็นกฏบังคับไว้อย่าให้ผิดฉันท์ลักษณ์เด็ดขาด ส่วนการพรรณนานั้นก็ล้วนอยู่ในแนวความคิดของเรา ที่สำคัญยิ่งคือระดับเสียงของกลอนต้องปรับให้สม่ำเสมอ หมายถึงหากขึ้นสูงก็มากลางแล้วลงต่ำ หากต่ำก็ไล่เสียงเป็นกลางแล้วค่อยขึ้นสูง อย่ากระโดดข้ามเป็นอันขาด เช่นต่ำแล้วไปสูงเลยจะขาดความไพเราะครับ ผมจะเอาเวปฯหนึ่งซึ่งมีประโยชน์ให้คุณไว้ใช้ในการศึกษานะครับ ผมเองก็อาศัยเวปฯนี้หากขัดข้องครับ หวังว่าคงจะไปเยี่ยมผมเสมอๆนะครับ http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/index.html ขอบคุณ ครับ อ้อ..หมั่นฝึกฝนเสมอๆหากว่างๆเมื่อไรก็นั่งคิดกลอนๆไว้จนกระทั่ง จิตเป็นกลอน กลอนเป็นจิต เมื่อต้องการประดิษฐ์กลอนเมื่อไหร่ได้เมื่อนั้นครับ คุณเองก็แต่งกลอนได้ดีแล้วนี่ครับ สวัสดีครับ แก้วประเสริฐ.
31 มกราคม 2549 16:28 น. - comment id 557006
ขอบพระคุณมากค่ะ