***** ในอ้อมกอดของสายลมหนาว คนหัวใจร้าวยิ่งเงียบเหงา ข้างกายไม่มีแม้แต่เงา ของคนอย่างเขามากล้ำกราย ***** หลับตาฟังเสียงของหัวใจ มันกู่ร้องร่ำไห้ เมื่อรักหน่าย หยาดหยดน้ำตาที่พร่างพราย ไหลรินเพื่อคลายความหมองตรม ***** อยากหลับไปชั่วนิรันดร์กาล ลืมเรื่องวันวาน ที่ขื่นขม ลืมสิ้นหัวใจที่ซานซม ลืมความระทม ที่เคยมี ***** เมื่อลืมตาตื่นเห็นความจริง ไม่อาจละทิ้ง ฤาหลีกหนี ไม่อาจตัดเยื่อใยไมตรี ที่เคยมี เคยให้ มาเนิ่นนาน ***** จึงต้องทนสู้อยู่ต่อไป เจ็บร้าวเพียงใด ต้องให้ผ่าน จะทุกข์ จะท้อ ทรมาน ล้มลุก คลุกคลาน ต้องทนเอา ======================================================== ***** ในอ้อมกอดของสายลมหนาว คนหัวใจร้าวยิ่งเงียบเหงา ข้างกายไม่มีแม้แต่เงา ของคนอย่างเขามากล้ำกราย
20 ธันวาคม 2548 00:33 น. - comment id 547795
คงหนาวอย่างแรงแต่งกลอนเจ็ด น้ำตารินเล็ดเข็ดลมหนาว ฤดูเปลี่ยนผันผ่านเรื่องราว เส้นทางอีกยาวต้องก้าวไป \"อดทน\" คำนี้คงดีแน่ ล้มแผ่คลุกคลานต้องต้านไหว ความหลังทิ้งบ้างช่างปะไร เพราะมีหัวใจไม่จำนน ไง คุณอ้อย หนาวขึ้นกว่าวันก่อนป่าวเนี่ยะ กรุงเทพฯ ยังสั่นเลย
20 ธันวาคม 2548 03:22 น. - comment id 547815
หนาวๆกายไม่เท่าไรนะ แต่อย่าเป็นอย่าง โซคลู ละ ที่หนาวใจ
20 ธันวาคม 2548 08:13 น. - comment id 547843
จริงๆแล้วหากดูตามไซด์...ขนาดคุณอ้อยไม่น่าหนาวนะ..อิอิ...ไปหละแวะมาแซวครับ
20 ธันวาคม 2548 08:16 น. - comment id 547847
มันเยือกเย็นมากนะ ลมหนาว หนาวกายนี่...ก็ทนไหว แต่...หนาวใจนี่ มันจิ๊ด ๆ แปลก ๆ นะคะ ที่นี่...ลมหนาวพัดเย็นมาก ๆ
20 ธันวาคม 2548 08:58 น. - comment id 547871
ท่านด้าวอังคัน อากาศที่นี่เหลือประมาณสิบองศาได้มั๊ง ลมพัดอยู่กราว ๆ หนาวจับใจ แฮะ ๆ เขียนกลอนเจ็ด แต่สงสัยอยู่ว่า เอากลอนบทแรกมาลงท้ายเนี่ย มันถูกต้องหรือไม่ ไม่เห็นมีใครทำกัน แต่ที่ทำก็เพื่อย้ำภาพในห้วงคำนึง ที่ผู้หญิงคนนึง น้ำตาไหลเมื่อลมหนาวพัดต้องผิวกาย ถ้าเป็นเราจะคิดอย่างไรหนอ ขอบคุณค่ะเด็กตรัง หนาวที่กาย พาลให้ใจหนาวเหน็บด้วยสิคะ ตัวใหญ่ใจนิดเดียวค่ะคุณบินเดี่ยว ขอบคุณที่แวะมาแซวค่ะ แมงกุ๊ดจี่ คงเป็นอย่างคุณว่าค่ะ ที่นี่หนาวเหมือนกันค่ะ ถ้าวันไหนอากาศหนาวมาก ๆ ก็กลายเป็นเมืองในหมอกเหมือนกันค่ะ
20 ธันวาคม 2548 09:04 น. - comment id 547873
หนาวๆๆๆๆๆๆ ไม่มีเงาคนนั้น เศร้าจังนะคะพี่ช้าง
20 ธันวาคม 2548 10:16 น. - comment id 547888
หนาวๆอย่างนี้ต้องหาคนกอดนะ จะได้หาย อาทิเช่น แม่ หรือพี่สาว น้องสาว กอดกันให้กลมดิ๊ก
20 ธันวาคม 2548 16:36 น. - comment id 547983
แอบมาหาอ้อมกอดของสายลมหนาวนะ...
20 ธันวาคม 2548 19:25 น. - comment id 548032
ในอ้อมกอดของสายลมที่พรมผิว จะชิวชิวได้ไงไม่อาจฝืน เพราะวันนี้เจ็บแท้และกล้ำกลืน มีเรายืนคนเดียวเปลี่ยวใจเอย
20 ธันวาคม 2548 19:40 น. - comment id 548037
มามะ .. มากอดที .... เก่งชะมัดเขียนกลอนเจ็ดได้ .. เด๋วกีกี้เอามั่ง ..
20 ธันวาคม 2548 21:12 น. - comment id 548064
จ้าน้องช้าง ทั้งหนาวทั้งเหงาเลยน๊าอยากกอดไอซ์ แต่กลัวกระดูกทิ่มอ่ะ ทำไงดีเนี่ย อื้อ ไม่ต้องแอบค่ะ คุณแก้วนีดา ออกมาลุยอ้อมกอดของสายลมหนาวได้เลยจ้า ช่วงนี้เป็นโรคกลัวน้ำน่ะ ในอ้อมกอดของสายลม ยากนักจะข่มใจได้ หนาวในวันที่ไม่มีใคร จะมาเข้าใจเพียงสักคน ขอบคุณที่มาแจมค่ะ extream life อื้อ มากอดสิมา ไม่เก่งหรอกน่ะ พอจะบ่นอะไร มันมักจะลงเจ็ดคำทุกที เขียนดิเขียนจะรออ่าน นะนะ
20 ธันวาคม 2548 23:11 น. - comment id 548097
หนาวแล้วหนอพอประทังช่างขังขอด เคยสวมกอดรับไออุ่นที่หนุนสาว พร่ำเพ้อหาฝากไว้อยู่ในดาว ที่แสงพราวเคล้าหมอกย้ำตอกจำ.
แก้วประเสริฐ.
21 ธันวาคม 2548 14:24 น. - comment id 548294
ขอบคุณค่ะคุณลุงแก้ว รักษาสุขภาพนะคะ หนาวแล้ว