ฉันทารักผูกเค้า.................ก่อโครง เสมือนหลักแน่นสนิทโยง....ยึดไว้ ผืนผ้าผูกเสากระโดง...........ดึงปะทะ ลมแล หวังผ่านพายุได้.................รอดด้วยหลักเดียว ฉันทารักถักร้อย.................เรียงคำ โคลงกลับมองมืดดำ............ชั่วช้า ไร้ทองปิดเปลวนำ...............ทางสว่าง สิ้นทรัพย์ฤๅอาจอ้า..............โอษฐ์อ้างคำไหน ฉันทารักทั่วทั้ง...................จักรวาล ฟ้าจรดดินจวบกาล..............จบสิ้น ชั่วฟ้าชั่วดินนาน.................เนาเนิ่น คำพร่ำผ่านลมลิ้น................พูดให้ใครฟัง ฉันทารักสลักไว้.................เรื่องราว ภาพผ่านอักษรพราว............พจน์สร้าง ฟังแล้วมิรู้หนาว-.................ร้อนนิ่ง ไฉนนอ มองอ่านคำเอ่ยอ้าง..............ห่อนรู้แลเห็น ฉันทารักแตะแก้ม...............นวลใส ซับหยดน้ำนองนัยน์............สลดเศร้า ซึมซาบสู่กลางใจ...............จางโศก เธอนา ไร้ค่าคงฝันเฝ้า...................กี่ครั้งกี่หน ฉันทารักรอบล้อม...............ตัวตน ใจกลับยังเวียนวน...............วุ่นว้า ขีดเขียนมิเห็นหน................ทางออก สัมผัสใจไขว่คว้า................ใช่เอื้อมมือถึง
18 พฤศจิกายน 2548 16:23 น. - comment id 538676
ฤาลำพังระหว่างเส้นเช่นทางฝัน มีขอบคั่นจริง-ลวงช่วงอ่อนไหว ครั้นบรรจงกลั่นกรองทำนองใจ ด้วยหลงใหลร่ายรจน์ บทกวี ย้ำหยดหมึกตรึกตรองพ้องอักษร เป็นกาพย์กลอนฉันท์โคลงบ่งศักดิ์ศรี ใช่เปรื่องปราดช่ำชองพ้องเมธี เพียงผู้ที่หัดเขียนเลียนแบบครู จำจดจารวรรณกรรมนำสื่อสาร แม้กลอนกานท์ไร้ค่าน่าอดสู ขอร่ายเรียงจินตนาการอันพร่างพรู ด้วยความรู้ยังด้อยคอยพากเพียร วอนเหล่าครูเมตตามาสอนสั่ง ศิษย์จักฟังอรรถรสแล้วจดเขียน ยากฤๅง่ายเพียงใดใคร่ร่ำเรียน ด้วยคำเธียรล้ำค่ากว่าสิ่งใด จักบรรจงบ่งความตามภาษา แล้วรจนาเรียงร้อยถ้อยขานไข อาจผิดเพี้ยนฉันทลักษณ์มากเพียงใด ขออย่าได้มองเห็นเป็นเศษกลอน ด้วยยังหมายขยายความตามใจหวัง หากพลาดพลั้งเผลอบ้างโปรดสั่งสอน อย่าเหนี่ยวรั้งอุดมการณ์ให้สั่นคลอน แม้นบทกลอนเป็นดั่งเกล็ด ..เศษกวี..
18 พฤศจิกายน 2548 16:38 น. - comment id 538693
18 พฤศจิกายน 2548 17:01 น. - comment id 538705
วอนเหล่าครูเมตตามาสอนสั่ง ศิษย์จักฟังอรรถรสแล้วจดเขียน ยากฤๅง่ายเพียงใดใคร่ร่ำเรียน ด้วยคำเธียรล้ำค่ากว่าสิ่งใด จักบรรจงบ่งความตามภาษา แล้วรจนาเรียงร้อยถ้อยขานไข อาจผิดเพี้ยนฉันทลักษณ์มากเพียงใด ขออย่าได้มองเห็นเป็นเศษกลอน ฮา .. ยากฤๅง่ายเพียงใดใคร่ร่ำเรียน แก้เป็น ยากฤๅง่ายอย่างไรใคร่ร่ำเรียน อาจผิดเพี้ยนฉันทลักษณ์มากเพียงใด แก้เป็น อาจผิดเพี้ยนฉันทลักษณ์สักเขียนไป อัลมิตราพลาดจนได้ ไม่ดูให้ดีเสียก่อน กลอนชุดนี้ เศษกวี ... จ๊ะ นายม้าลาย
18 พฤศจิกายน 2548 19:04 น. - comment id 538744
,font size=2>ฉันทารักฉาบไว้ ................ ในคำ ฉันทะรักพึงสัม- ................. ผัสพร้อย ฉันทะลักพักจำ .................. จงจด ไว้นา ฉันทลักษณ์พลาดน้อย ....... นิดแก้กันเขิน อิอิ สวัสดีครับ
18 พฤศจิกายน 2548 19:07 น. - comment id 538748
ฉันทารักฉาบไว้ ................ ในคำ ฉันทะรักพึงสัม- ................. ผัสพร้อย ฉันทะลักพักจำ .................. จงจด ไว้นา ฉันทลักษณ์พลาดน้อย ....... นิดแก้กันเขิน
19 พฤศจิกายน 2548 07:02 น. - comment id 538849
เป็นคนนึงที่ชอบจังหวะ และเลียนแบบครู
19 พฤศจิกายน 2548 12:54 น. - comment id 538952
ฉันทารักเป็นสีชมพู่อ่อน ไม่ผันผ่อนสวยใสใจสุขสันต์ แต่วันหน้าอาจเปลี่ยนใหม่ในชีวัน เป็นสีสรรค์ชมพูเข็มให้เต็มดวง อิอิ ชื่นชมในผลงานค่ะ
19 พฤศจิกายน 2548 18:04 น. - comment id 539035
คุณอัลมิตรา ถ้าพูดเรื่องฉันทลักษณ์นี่สงสัยจะยาวอะครับ แต่เกิดอยากพูดซะแล้ว อันนี้คือความเห็นส่วนตัวและความชอบส่วนตัวนะครับ บทร้อยกรองที่ดีควรจะงดงามในสามส่วน คือรูปสวย เสียงดี และงามอย่างมีคุณค่า เรื่องงามอย่างมีคุณค่านี่สำคัญที่สุด อย่างที่ทราบกันอยู่ คือเนื้อหาที่สื่อมีความหมายและมากมายในคุณค่า มีสัมผัสใจอย่างที่ว่าๆกันนั่นเองครับ ส่วนเรื่องรูปสวยเสียงดี ก็สำคัญ ไม่ใช่ไม่สำคัญ สาวจิตใจงาม เฉลียวฉลาด แต่หน้าเหมือนผีโลงแตก เสียงเหมือนผีแม่นาค คงไม่มีโอกาสได้เป็นนางงามจักรวาล บทกลอนเป็นศิลปะ อันเกี่ยวเนื่องกับอารมณ์ ถ้าเสียงดี หลับตาฟังแล้วเคลิ้ม แต่พอลืมตาดูแล้วอารมณ์สุนทรีย์หดหายนี่ก็ไม่ไหว ที่พูดถึงนี่คือร้อยกรองที่ว่าเอาเสียงเป็นหลักน่ะครับ คือถ้าคนแต่งมาอ่านให้ฟังก็แล้วไป แต่ถ้าให้คนอ่านอ่านเอง แล้วเจอประเภทลายมือไก่เขี่ย วรรคตอนไม่มี สะกดผิดๆถูกๆ ไม้เอกไม้โทที่ควรจะอยู่ตรงที่ก็ไม่อยู่ ครุลหุตัวไหนเป็นตัวไหนให้เดาเอาเอง ฯลฯ อ่านลำบากขนาดนี้ คุณค่ามันก็ด้อยลงไปเยอะนะครับ โดยส่วนตัวผมจะตำหนิเรื่องรูปไม่สวย คือมองด้วยตาแล้วไม่เจริญตาครับ ส่วนเรื่องเสียงดี สัมพันธ์กับรูปสวยอยู่มากพอสมควร คนปากแหว่งจมูกโหว่เสียงมักออกมาไม่ดี ดังนั้นรูปสวยก็ได้เปรียบ อย่างไรก็ตาม ปากเบี้ยวนิดๆหน่อยๆ เสียงอาจไม่แตกต่างก็ได้ แต่ด้วยความโลภมาก เอาให้ดีได้ทั้งสองอย่างก็ดีกว่าสิครับ ฉันทลักษณ์เป็นแบบแผนให้เราเขียนกลอนที่มีรูปสวยเสียงดีนั่นเองครับ คนโบราณศึกษากันมานาน สรุปว่าแบบนี้ดี ทำไมไม่ค่อยเชื่อกันก็ไม่รู้
19 พฤศจิกายน 2548 18:28 น. - comment id 539046
คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ กลอนเศษกวีของคุณอัลมิตรานี่คุ้นๆว่าแต่งตั้งแต่ปีที่แล้วอะครับ อิๆ (ต่อ) อย่างไรก็ตาม ความงามอย่างมีคุณค่าสำคัญที่สุด แม้บางครั้งฉันทลักษณ์ก็ต้องหลีกทางให้ แต่มักจะเป็นฉันทลักษณ์ส่วนย่อยๆ ซึ่งไม่ทำให้รูปแบบของร้อยกรองนั้นเสียไป อย่างโคลงสุภาษิตซึ่งมีผิดเอกผิดโทเพราะต้องคงข้อความสุภาษิตไว้ หรือกลอนที่ทิ้งสัมผัสในเพื่อให้ได้สัมผัสใจ เป็นต้น คนที่คิดจะเขียนกลอน ก็ต้องรู้ก่อนครับ ว่ากลอนคืออะไร มีรูปแบบอย่างไร ถ้าไม่งั้นก็อย่ามาเรียกว่าเขียนกลอนเลย
19 พฤศจิกายน 2548 18:54 น. - comment id 539062
คุณแม่จิตร (ต่อ) สำหรับเรื่องครู ครูดีๆหายากครับ แต่ก็ยังหาได้ ผมเคยเล่าเรื่องเด็กหัดว่ายน้ำไว้หลายหน เพราะตอนนั้นพาเด็กไปหัดว่ายน้ำ ฮี่ๆๆๆ การหัดว่ายน้ำก็มีหลายวิธี เช่น แบบที่หนึ่ง พอเด็กเผลอก็ถีบลงน้ำเลย แบบที่สอง เอาลูกมะพร้าวมาผูกให้แล้วให้เด็กโดดเอง แบบที่สามเกาะโฟมเตะขา มีครูคอยจับแขนจับขา มีหลักสูตรขั้นต้นขั้นกลางขั้นสูง เรียนแบบมีครูเป็นเร็วกว่าแน่นอนครับ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียวของความสำเร็จ ตัวเด็กเองต้องพยายามด้วย ฉันทลักษณ์เป็นสูตรสำเร็จ กลอนครูก็เป็นแบบเรียนสำเร็จ อยากเก่งก็ต้องเลียน และเรียนว่าความสำเร็จของครูน่ะมาได้ยังไง เผื่อสักวันจะเก่งกว่าครูได้ไงครับ
21 พฤศจิกายน 2548 11:13 น. - comment id 539478
คุณหนอนดุ๊กดิ๊ก ฉันทารักทั่วบ้าน.............กลอนไทย ทารักฉันทลักษณ์ใจ.......สุขล้น หวังเห็นรุ่นน้องสมัย.........ใหม่รักษ์ ทารักฉันต่อค้น..............ค่านั้นเพียงไหน
21 พฤศจิกายน 2548 11:21 น. - comment id 539482
คุณผู้หญิงไร้เงา ฉันทารักเป็นรุ้้งพุ่งพาดฟ้า สะท้อนแดดแผดกล้ายิ้มท้าฝน ทาแสงสีสว่างจ้าทั่วสากล ลบเงาหม่นเมฆสร้างจางจากไป