..๏ เดือนดาวพราวพร่างแพร้ว..นภาพรหม ดูงดงามสวยสม.......................สว่างแท้ เรียงรายทั่วนภจม...................แจ่มจรัศ แสงส่องเรืองรองแล้................รุ่งหล้าราตรี ฯ ..๏ กาลผันคืนผ่านพ้น.............เพียงใด สุกสว่างพร่างพิไล-................ลักษณ์ล้ำ ครามองชื่นพิศมัย...................มีสุข เสมอนา เดือนเด่นดาวดื่นย้ำ.................ยิ่งให้หทัยเพลิน ฯ ..๏ วับวาวราวเนตรน้อง...........ดรุณงาม เคยสบตาครายาม....................อยู่ใกล้ ดวงจิตสื่อนัยความ...................ปฏิพัทธ์ คราวเพ่งมองยิ่งให้...................อกนั้นสั่นคลอน ฯ ..๏ เมฆามาเคลื่อนคล้อย..........ลอยบัง ฤๅจบซึ่งความหลัง...................ก่อนนั้น เดือนดาวหม่นหมองดัง............รักเริ่ม- มลายฤๅ จึงถูกเมฆปิดกั้น.....................หมดสิ้นรัศมี ฯ ..๏ เดือนดาวราวไร้ซึ่ง.............แสงงาม ถูกบุกรุกคุกคาม....................ข่มแล้ว เคยพราวพร่างทุกยาม..............ยังมืด- มนเฮย คงเปรียบดังน้องแก้ว...............กลับน้ำคำฤๅ ฯ ..๏ สำนวนโคลงบ่ซึ้ง...............ตรึงใจ ยามร่ายบทกวีใด.....................ยิ่งช้ำ มธุรพจน์บทกวีใคร..................มากล่อม- แม่เฮย จึ่งแอบลอบรุกล้ำ-.....................จิตเจ้าจนหลง ฯ ..๏ เพ็ญแขแลหม่นแล้ว..........ดาวหมอง เคยเด่นพรรณยรรยอง.............มืดสิ้น ฤๅเช่นจิตนวลละออง...............แปรเปลี่ยน แล้วนา เพลินซึ่งมธุรพจน์ลิ้น-...............แห่งท้าวจอมกวี ฯ ..๏โคลงใครเคยกล่อมเจ้า........จึงหลง แม่เอย บทกาพย์ใดอันผจง.................หยอกเย้า บทฉันท์ซึ่งหวานคง-...............เสนาะโสต เสมอแฮ อีกบทกวีใดกระเซ้า.................ล่วงล้ำใจนาง ฯ ..๏ หลงใหลโคลงอื่นแล้ว..........ฤๅหนอ แม่เอย ลืมคำกล่อมนวลลออ-..............อดีตนั้น มีกวีเอกมาพนอ......................จิตระรื่น แลฤา จึ่งชื่นชมโคลงครั้น-.................อ่านแล้วจึงเพลิน ฯ ..๏ โคลงดินมีกลิ่นคลุ้ง.............สาบโคลน โคลงเมฆสูงโลดโผน...............ลิ่วฟ้า เผลอจิตคิดเอียงโอน-..............เอนจิต ฤๅแม่ จึงเปรียบเทียบโคลงข้า............ต่ำต้อยเพียงดิน ฯ ..๏ เชือดเฉือนเหมือนมีดน้อย.....อันบาง หมายกรีดซึ่งผิวนาง....................บาดเนื้อ อาจแทงทิ่มใจพลาง....................ไหวหวั่น โคลงบาดอาจช้ำเยื้อ....................ค่ำเช้าบ่วาย ๚ะ๛
2 ตุลาคม 2548 06:49 น. - comment id 492575
เดือนบ่ร้างดาวบ่ร่วง..............ดอกหนอ กลับกลุ่นอุ่นห่มละออ..............หวานซึ้ง ครวญหนอครวญกวีคลอ........ต้องจิต ใจหวิว หวิวจิตใจหวั่นวาบตรึง...........ต้องตาม ครวญเครือ สวัสดีตอนเช้าครับ
2 ตุลาคม 2548 05:48 น. - comment id 492595
ชอบมากครับ
1 ตุลาคม 2548 22:47 น. - comment id 521963
หม่นได้...แต่อย่าหมองนะลิงน้อย....นกเดี่ยวลงโปรแกรมอยู่เลยแว๊ปมา...อย่านอนดึกหละ..
1 ตุลาคม 2548 23:25 น. - comment id 521971
เข้าใจเปรียบดีจริงๆ เลยค่ะ คุณอิม
1 ตุลาคม 2548 23:42 น. - comment id 521973
ผู้ใดหากล่าวว่าต่ำต้อยเพียงดินเล่า ยลแล้วอบอวลไปด้วยเนื้อความอันลึกล้ำเสมอ สมเป็นแบบฉบับนางนี้หนึ่งเดียว โคลงใดก็โคลงนั้น ต่อคำสูง หาได้เท่าความหมายที่เกาะกุมใจข้าน้อยเล่า ^_^
2 ตุลาคม 2548 00:52 น. - comment id 521980
โคลงเมฆอาจส่งให้ ลอยลม โคลงอุ่นดินใครชม เลิศล้ำ โคลงไฟไม่ยอมจม ผลาญสรรพ สิ่งเอย โคลงฉ่ำใสสายน้ำ ชื่นแท้ สายชล มาลองต่อโคลงดูนะครับ....
2 ตุลาคม 2548 08:50 น. - comment id 521991
เมื่อมี รั ก .. หัวใจ..แม้ไม่มีปีกก็โบยบินได้ ดอกไม้ทุกดอกล้วนสวยงามทั้งสิ้น บทเพลงที่ได้ยินไม่มีบทเพลงไหนไม่ไพเราะ .. แต่เมื่อ รั ก จากไป.. ทุกอย่างกลับตรงกันข้ามสิ้น... ความรักหนอ.. เลือดเย็น
2 ตุลาคม 2548 09:05 น. - comment id 521992
โคลงใดอันใหม่ซึ้ง........ซาบนวล อาจเอ่ยอาจเชิญชวน.....นิ่มน้อง เนื้อความห่อนอบอวล....เทียบเท่า เรามี ติดตรึงแต่คำร้อง.........บ่เข้าผูกพัน ..
2 ตุลาคม 2548 09:43 น. - comment id 522000
แม้ยามหม่น...แต่ยังมีมนต์สะกดให้หลงใหล..ในทุกตัวอักษร...ชื่นชมมากค่ะ...
2 ตุลาคม 2548 10:21 น. - comment id 522009
2 ตุลาคม 2548 12:44 น. - comment id 522038
เหมือนความเข้าใจ เหมือนเห็นภายใน เหมือนมีหัวใจ เหมือนผู้ชายกับความรัก \"อัลมิตรา\"โปรดอย่าเกิดเป็นชาย เพราะสตรีทั้งหลายเธอจะอกหัก
2 ตุลาคม 2548 13:12 น. - comment id 522063
มาชื่นชมค่ะ
2 ตุลาคม 2548 15:27 น. - comment id 522098
คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. ที่ว่าแว๊ปมา นึกว่าจะหายตัวแว๊ป มากรุงเทพฯเสียอีก คุณแดดเช้า .. ขอบคุณมากค่ะ คุณสุญญะกาศ .. วาจาช่างบางเบาพลิ้วละมุนดั่งเส้นผม ทว่าคมกริบดั่งดาบคม :) คุณท่องเมฆา .. เคยคลอโคลงแนบน้อง......กล่อมนวล เช้าค่ำยังรัญจวน.................ออดอ้อน ฤๅชายอื่นเฝ้าครวญ.............เคียงจิต อกพี่จึงรุ่มร้อน...................ชอกช้ำกำศรวล คุณก่อพงษ์ .. :) ขอบคุณมากค่ะ คุณธรรมาภิวัฏ .. สวัสดียามบ่ายค่ะ เพ็ญเอยเคยข้องแวะ.......ชี้ชม ดาษดื่นดาวรื่นรมย์...........กระพริบเย้า วันคืนเปลี่ยนไยตรม.......ขมขื่น โดดเดี่ยวเพราะไร้เจ้า.......อยู่ข้างเคียงกาย คุณผู้หญิงช่างฝัน .. เป็นธรรมดาที่อิทธิพลของความรักจะส่งผลให้กับผู้ประสพ ไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวัง หัวใจน้อย ๆ ก็บันดาลให้เกิดความรู้สึก ความรัก มิได้ทำร้ายใคร หากแต่ ใครผู้นั้นต่างหาก ที่ทำลายความรัก คุณกุ้งหนามแดง . ฤๅโคลงเราช่างด้อย............สุนทรี ดั่งรักเคยมากมี...................เปลี่ยนได้ ชายใดมอบไมตรี................สูงส่ง จึงเปรียบภักดิ์พี่ไว้..............หมดสิ้นสิ่งหวัง คุณราชิกา .. ทุกอย่างอยู่ในหัวใจ เลื่อนไหลระบายออกไปเสียบ้าง ทำให้ผ่อนคลายค่ะ คุณร้อยแปดพันเก้า .. ขอบคุณยิ้มละมุน ค่ะ คุณทัพ .. \"..ความรักไม่ให้สิ่งอื่นใดนอกจากตนเอง และก็ไม่รับเอาสิ่งใด นอกจากตนเอง ความรักไม่ครอบครอง และก็ไม่ยอมถูกครอบครอง เพราะความรักนั้นพอเพียงแล้วสำหรับตอบความรัก..\" แฮ่ม !! .. บทร้อยกรองของอัลมิตราแสนด้อยยิ่งนัก หากเปรียบเทียบกับวาทะอันเอกอุแห่งท่าน คุณนางสาวใบไม้ .. อัลมิตราติดตามงานของคุณเสมอนะ :) มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
2 ตุลาคม 2548 17:39 น. - comment id 522112
งง ครับ สำหรับผมแล้ว ความรักคือรักกัน กินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน คิดถึงกัน โทรหากัน คบกัน อยู่ด้วยกัน เชื่อถือกัน ไม่ทิ้งกัน สร้างครอบครัวด้วยกัน มีลูกด้วยกัน ช่วยกันทำกิน ดูแลกันยามเจ็บไข้ ทำศพให้กัน ร้องให้ให้กัน จดจำซึ่งกันและกัน ดีใจที่ได้เกิดมาคู่กัน ... ที่คุณพูดมาผมไม่เข้าใจเลยครับ ออกไปทางว่างๆเหมือนออกบวช เคยบวชวัดป่ามา 1 พรรษาครับหากไม่มีงานมีแฟนผมคงอยากจะบวชต่อไปเรื่อยๆ มันเบาว่างมีความสุขที่สุดเท่าที่ชีวิตจะหาได้แล้วครับ ...
2 ตุลาคม 2548 19:53 น. - comment id 522144
..๏ วับวาวราวเนตรน้อง...........ดรุณงาม เคยสบตาครายาม....................อยู่ใกล้ ดวงจิตสื่อนัยความ...................ปฏิพัทธ์ คราวเพ่งมองยิ่งให้...................อกนั้นสั่นคลอน ฯ ชอบบทนี้ค่ะ .
2 ตุลาคม 2548 21:00 น. - comment id 522156
คุณทัพ .. ข้อความที่อัลมิตรายกมา เป็นปรัชญาแห่งความรักของ คาลิล ยิบราน ปราชญ์ชาวเลบานอนค่ะ .. ความรักที่คุณอธิบายมา :) เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็อยากให้เป็นไป ทำศพให้กัน ร้องไห้ให้กัน .. อัลมิตราไม่อยากตายทีหลังเลย .. คุณเพรง.พเยีย .. ขอบคุณมากค่ะ โคลงชุดนี้ อุปโลกตัวเองเป็นหนุ่มตัดพ้อสาวคนรักค่ะ :)
2 ตุลาคม 2548 22:42 น. - comment id 522187
...คืนวันอันหม่นเศร้า...........สุดหมอง เหมือนร่ำเรียกเพรียกมอง...ไขว่คว้า สุดจักหม่นทนครอง...............หดหู่ คืนที่เหงาใจล้า......................หวั่นสิ้นสวาทหาย.... สวัสดีครับ
2 ตุลาคม 2548 23:14 น. - comment id 522200
คุณที่รักของฉัน .. ค่ำคืนที่ปวดร้าว...............ระทมจิต กาลก่อนชวนย้อนคิด.......อดีตนั้น ไมตรีมากมวลมิตร...........ร่วมก่อ ครั้นเมื่อต้องเก็บกลั้น.......สิ่งสะท้อนฤๅเห็น
3 ตุลาคม 2548 10:50 น. - comment id 522305
ช่วงนี้นั่งเรือบ่อยแน่เลย
3 ตุลาคม 2548 11:11 น. - comment id 522307
ช่ายแล้ว ทั้งเรือเหาะ แล้ะเรือไม่เหาะ .. ชีพจรลงเท้าเป็นว่าเล่นเลยค่ะ คุณกุ้งก้ามกราม :)