๏ พรายก่องผ่องแก้วแวววับ ระยับรวงย้อยสร้อยศรี สวมศอกอหญ้าวารี มณีน้ำค้างกลางไพร ครั้นกูณฑ์สูรย์แกล้งแรงแผด เพลิงแดดดับแก้วแววใส ระเหยเผยเนื้อเจือไคล เคลือบใบบอบช้ำคล้ำตฤณ คราบชลบนปรางนางเปื้อน สะเทือนอุระถวิล น้อยฤๅฤดีพี่ภินท์ เศร้าจินต์จะเศร้าเท่ากัน เพราะวายพรายเพชรเก็จรุ้ง ในทุ่งน้ำค้างสร้างสรรค์ สิ้นแสงแรงละคละควัน มืดพลันพี่หม่นมนมัว เจ้าแย้มแช่มชื่นฟื้นสุข สร่างทุกข์ทุระสลัว เรียมใคร่ไขว่ไว้ใกล้ตัว ด้วยหัวใจรักภักดี ๚ะ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๔๘
26 สิงหาคม 2548 21:23 น. - comment id 508822
...........อ่านน้ำค้างแล้ว คิดถึงเพลงลูกทุ่ง ที่ร้องว่า.... น้ำค้างเดือนหก ตกแล้ว น้องเอย น้องแก้ว เจ้าไม่หนาวบ้างหรือไร .... อิอิ หนาวป่ะม่ะรุ้น่ะ เพียงแต่ว่าตอนนี้อากาศร้อนอ่ะค่ะ . ^_^
26 สิงหาคม 2548 22:11 น. - comment id 508847
แวะมาอ่าน ชื่นชมผลงาน อักษรงดงามมากๆค่ะ
27 สิงหาคม 2548 08:35 น. - comment id 508950
บินมาอ่านครับอาจารย์หมอ....หลุดจากกลอนแปดผมก็ไปไม่ค่อยถูกเหมือนกันครับผม..คงต้องให้เจ้าลิงสอนแล้วครับผม...
27 สิงหาคม 2548 09:09 น. - comment id 508961
ล้อมกายด้วยสายหมอก ปานจะหยอกให้แย้มพราง อิงไอกับใบบาง หยาดน้ำค้างกลั่นเม็ดคอย ชอบบทสุดท้ายของคุณหมอมากค่ะ ....................................................... ลี่...ผู้มาเยือน .
27 สิงหาคม 2548 15:51 น. - comment id 509089
แวววาวเงาฉายพรายแดด พวงแสดระบัดปัดไหว พลิ้วพลิกระริกร่วงไป ดวงนิดดวงใดไปล่ปลิว