โพล้เพล้นั้น ความเงียบสร้างความรู้ในด้านที่ไม่คิดหมายได้มากนัก... นี่กระมังครับ หลายคนจึงเตือนฝากไว้ คนเหงาง่ายอย่าอยู่กับเงียบให้นานนัก ... เมื่อฟ้าสิ้นแววแห่งระวีแล้ว ช่วงเวลาแห่งรัตติฯก็มาเยือน ดั่งมีรัตติกรมาปลอบปลุก ประคองความหวั่นนัยก่อนค่ำนี้ ... มองออกไปไกล ณ ปลายฟ้าเบื้องหน้า มิตรผู้มากด้วยความรู้สึกแห่งวาสนาแห่งการเจอเคยกล่าวไว้สั้นๆในการออนไลครั้งก่อน ว่าการได้รู้ว่าได้ทำสิ่งเดียวกันกับอีกหนึ่งดวงใจ แม้อยู่ไกลกัน ก็เป็นความสุขครับ ... ราตรีกาลนี้เราคงนั่งมองดาวดวงเดียวกันนะคุณคนไกล... ... ในรัติกาลหนึ่งคงมีอีกหลายชีวิตกระมัง ที่มานั่งปล่อยจินตนาไปไกลๆเช่นนี้ และคงมีไม่น้อยที่พบความงามง่ายใต้รัตติการนั่น... ท่านทั้งหลายก็คงเคยเป็น แต่บางรัติกาลบางคนอาจกำลังจดจ่อกับการงาน หรืออยู่บนท้องถนนที่มีแต่ดวงดาวสองฝั่งฟาก ไม่มีเวลาแหงนหน้าไปดูความสวยงามบนฟ้านั่น... คุณทั้งหลายก็เช่นกัน อาจมี เหนื่อยนักก็พักกันนะครับ... ขออวยพรให้ดวงใจสวยๆทุกดวง ได้สัมผัสกับทุกรัตติกาลที่หมายใจ พิเศษเฉพาะคุณคนซึ่งในรัติกาลหนึ่งกำลังทำบางประการเพื่อคนที่คุณรักดุจกว่าชีวิต... ดวงใจคุณสวยจัง ด้วยรัติกาลแห่งอารมณ์ ที่นี่...กรุงเทพมหานคร.... ข้าพบว่าความเหว่ว้า ช่างท้นทรมา บางคราก็งดก็งาม มนต์ขลังดั่งฟ้านิยาม พิศดาววาววาม ล่องลอยไปตามจินตนา แสงแห่งรัตติกาลจารทา นุ่มนวลยวนตา อวลไอทรมาพลันหาย เก็บดาวพราวตามาราย ร้อยเป็นสร้อยสาย มาลัยไว้คล้องใจตัว อาการหวั่นไหวใจรัว หวั่นหวาดขลาดกลัว ท่วมทั่วทั้งหัวใจนั้น พลันพิศมาลัยแห่งจันทร์ อุ่นอิ่มอัศจรรย์ หยุดท้อทรมานทรมา ............................. จึ่งพบว่าความเหว่ว้า เพียงปล่อยจินตนา บางคราก็งดก็งาม ............................ มนต์ขลังดั่งฟ้านิยาม พิศดาววาววาม ล่องลอยไปตามจินตนา แสงแห่งรัตติกาลจารทา นุ่มนวลยวนตา อวลไอทรมาพลันหาย เก็บดาวพราวตามาราย ร้อยเป็นสร้อยสาย มาลัยไว้คล้องใจตัว อาการหวั่นไหวใจรัว หวั่นหวาดขลาดกลัว ท่วมทั่วทั้งหัวใจนั้น พลันพิศมาลัยแห่งจันทร์ อุ่นอิ่มอัศจรรย์ หยุดท้อทรมานทรมา ข้าพบว่าความเหว่ว้า เพียงปล่อยจินตนา บางคราก็งดก็งาม ........................... มนขลังดั่งฟ้านิยาม ฯลฯ... ดวงดาวดวงเดือนที่บ้านคุณจะงดงามและอบอุ่นเหมือนที่นี่ไหมหนอ
4 กรกฎาคม 2548 12:20 น. - comment id 488048
งดงามและอบอุ่น..แม้ว่าจะอยู่ไกลกัน หากมองจันทร์ดวงเดียวกันความว้าเหว่ว้าวุ่นนั้นพลันมลายไป... ***แวะมาอ่าน ผ่านมาทกัทายครับผม
4 กรกฎาคม 2548 13:23 น. - comment id 488063
พี่พุด ภาพนี้เป็นทะเลที่ให้ในหลายความรู้สึกนัก แหละนี่คือทะเลเมืองระยอง ไม่ทราบว่าพี่พุดเป็นคนเมืองระยอง ถ้าเช่นนั้นก็คงได้ยลทะเลงามประหลาดอย่างนี้ นับเป็นวาสนาได้ใกล้ธรรมชาติงาม คำว่ามาลัยจันทร์ ผมก็ชอบครับ ถ้าดึงลงมาได้ จะเอาไปคล้องใจทุกดวงให้คลายเหว่ว้านั้น ขอบคุณใจงามพี่พุด
4 กรกฎาคม 2548 13:16 น. - comment id 488094
บินเดี่ยวหมื่นลี้...เป็นหลายครั้งในพลบค่ำหนึ่งๆครับ ความรู้สึกแบบนี้ คลายได้นั่งคุยกับตัวเองเออ เอาเข้าไปซิหนอใจหนอใจ ทั้งที่ทราบว่าจันทร์ดวงเดียวกัน แต่อดไม่ได้ที่มักตั้งคำถามอะไรมี่ไม่เข้าท่า คงเพราะว่าจันทรืที่เราจ้องมองอจดวงเดียวกัน แต่สงสัยนั้นคือความรู้สึกยามจ้องมองต่างหากครับ... แด่ความเหว่ว้า ขอบคุณที่แวะมาครับ...
4 กรกฎาคม 2548 13:18 น. - comment id 488096
ภาพนี้ทะเลบ้านพี่พุดนี่นา คิดถึง และ เหว่ว้าพอกันเลยอิอิ งานงามแปลกดีจัง ชอบคำมาลัยจันทร์จังเลย อยากดึงลงมา มอบเป็นสร้อยขวัญแห่งรักนิรันดร์ พลีกำนัลแด่ทุกดวงใจในร่มรักเรือนใจค่ะ แทนใจอันแสนงดงาม
4 กรกฎาคม 2548 15:34 น. - comment id 488124
จินตนาการที่งดงาม ..ทำให้ความว้าเหว่เข้าใกล้ได้ไม่นาน ทั้งความรู้สึกและภาษางดงาม และให้กำลังใจมากค่ะ ขอบคุณที่ไปเยี่ยมเยือนนะคะ
4 กรกฎาคม 2548 14:24 น. - comment id 488150
ยามสนธยา เรา สองคน
4 กรกฎาคม 2548 14:34 น. - comment id 488158
เพียงความว้าเหว่ ก็สนเท่ห์เสน่หา แม้นานผ่านเวลา ก็นำพาแสงส่องใจ ราตรีที่มีจันทร์ จะพบฝันที่สวยงามค่ะ
4 กรกฎาคม 2548 14:39 น. - comment id 488161
อัลมิตรา-ถ้ามีสักครั้ง ในสนธยาใดใดก้ได้ หากมีคำตอบว่าจะมีวันนั้นแน่แท้ คือการได้สัมผัสปรารถนาในแววตากับใครคนนั้นที่หมายรอ ก็จะรอคอยครับ เราสองคน... ขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่มาเยี่ยมเยือน **************************************
4 กรกฎาคม 2548 14:42 น. - comment id 488163
ผู้หญิงไร้เงา-นั่งปล่อยใจนานๆ จักเพ้อไปใหญ่ครับ ขนาดตอนเขียนยังเวียนซะสองรอบ... ขอบคุณจริง ฝันคุณคงสวยๆในรัตติกาลหนึ่งๆ ******************************
4 กรกฎาคม 2548 14:58 น. - comment id 488172
อืมมม มาดูงานเขียนของคนชื่อย้าวยาว ว้าเหว่เร่เข้ามา มีสุราให้ได้ลิ้ม หรือว่าไม่เคยชิม จะยิ้มกริ่มเมื่อลิ้มลอง ความเหงา ดวงดาว กับจันทรา เข้ากั๊น เข้ากัน เหมือนเมรัย โซดาและ กับแกล้ม มาแวะอ่าน ถ้าทำเอาอารมณ์ละมุนสะเทือนไปบ้าง ก็อโหสินะคะ
4 กรกฎาคม 2548 15:49 น. - comment id 488177
การที่เราได้เห็นและเชื่อเหมือนกันว่า .. แสงเล็กๆ ที่เห็นนั่นคือ ดาว การที่มีเราสองคนที่เห็นเหมือนกัน .. -- บ า ง ค รั้ ง แ ค่ นี้ ก็ พ อ แ ล้ ว -- ดีจังค่ะ .. หากเหนื่อยนักพักมองดาวเสียก่อน .. คืนนี้จะไม่ทำอะไร .. นอกจากนั่งมองดวงดาว .. จากฟากฟ้าฝั่งนี้ค่ะ ..
4 กรกฎาคม 2548 16:13 น. - comment id 488188
พระจันทร์เศร้ากับอ้อมแขนว่างเปล่า อารมณ์ไม่สะเทือนเลยครับ ขอบคุณที่มา ค่ำนั้นครับ บางเหงา บางสุข บางทุกข์ และอีกหลายความรู้สึกครับ แหงนหน้ามองฟ้า ปล่อยจินตนาไปไกลๆ จะเจ็บจะสุขก็ถึงใจดีพิลึก ถ้าได้ร่ำสุราอีกสักนิด สุดจินตนาจริงๆ ขอบคุณ ชื่อท่านก็ยาวยาว
4 กรกฎาคม 2548 16:16 น. - comment id 488191
พี่ดอกแก้ว ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือนเช่นกันครับ งานคุณ\"พี่ดอกแก้ว\" งดงามและทรงเอกลักษณ์เสมอครับ จินตนาการบางคนว่าเพ้อเจ้อครับ แต่สำหรับเนื้อใจนี้ ก็แค่จินตา จะหวังสาระอะไรหนักหนากับคนค้นคำเช่นเรา
4 กรกฎาคม 2548 16:19 น. - comment id 488196
กีกี้ การที่เราได้เห็นและเชื่อเหมือนกันว่า .. แสงเล็กๆ ที่เห็นนั่นคือ ดาว การที่มีเราสองคนที่เห็นเหมือนกัน .. -- บ า ง ค รั้ ง แ ค่ นี้ ก็ พ อ แ ล้ ว -- ดีจังครับ .. หากเหนื่อยนักพักมองดาวเสียก่อน .. คืนนี้จะไม่ทำอะไร .. นอกจากนั่งมองดวงดาว ..ดวงนั้นที่คุณนั่งมอง แม้จะเป็นดาวเป็นเดือนดวงเดียวกัน แต่ให้สงสัยอยู่มากครันว่าเวลาที่จ้องมองพร้อมกันนั้น จะมัสักคราวที่รู้สึกจินตนาได้ละม้ายคล้ายกัน จากฟากฟ้าอีกฝั่งครับ ..
4 กรกฎาคม 2548 20:07 น. - comment id 488287
ความว้าเหว่... เหมือนสิ่งที่มีคู่กับเรามาแต่เกิด... ชื่นชมงาน ที่มากความรู้สึกนี้ด้วยใจ... สวัสดีค่ะ
5 กรกฎาคม 2548 11:08 น. - comment id 488310
ความว้าเหว่เป็นเพื่อนคอยคอยไถ่ถาม ความว้าเหว่เติมนิยามความคิดถึง ความว้าเหว่ยังทักท้วงห้วงคำนึง ความว้าเหว่ติดตราตรึงเป็นเงาใจ