อยากจะซับน้ำตาให้คลายหมอง ทอข่ายทองคล้องรักสลักฟ้า ร้อยถ้อยรสพจสร้อยอักษรา ผ่านเขาเขินเนินพนาไปหานาง ส่งไปทุกความปรารถนามี ถึงฝั่งฟากฟ้าที่แม้ไกลห่าง ด้วยคะนึงถึงเจ้าไม่จบจาง ส่งข่าวให้รู้บ้างเป็นอย่างไร ว่าในความเหนื่อยหนักในวันนี้ เธอจะมีรู้สึกระลึกไหม ว่าอีกฟากฝั่งนี้ที่ฟ้าไกล มีอีกความห่วงใย...มอบให้เธอ ความเจ็บปวดแม้รวด จนปวดร้าว จะบอกเล่าทุกอย่างกระจ่างเสมอ อย่าสงสัยหัวใจในมือเธอ และอย่าเพ้อเผลอทิ้งทุกสิ่งนั้น อยากจะซับน้ำตาให้คลายเศร้า ในทุกข์ความรุมเร้าที่หวามหวั่น เห็นไหมหนอนั้นหนึ่งความ อัศจรรย์ ที่ขอบฟ้าไกลนั่นฉันทอดาว อยากให้เงยหน้าพริ้มยิ้มอย่างเก่า อย่าซึมเศร้าเหงาโศกดั่งโลกร้าว ในคืนมืดแม้มันจะยืดยาว แต่ต้องมีวันเช้าในพรุ่งนี้ เงยหน้าพริ้มยิ้มเถิดเมื่อเกิดทุกข์ จะได้เข้าใจสุขมากกว่านี้ พี่จะกล่าวปรารถนาอย่างไรดี นอกจากฝากถ้อยวลีนี้มาหา หวังจะแต้มแก้มเศร้าเย้าให้ยิ้ม หวังจะเห็นเรียวอิ่มพริ้มดวงหน้า หวังปลุกปลอบให้คลายท้อทรมา เสมือนข้ามขอบฟ้ามาดูแล
18 มิถุนายน 2548 20:30 น. - comment id 480921
.. เป็นความเศร้า .. ที่แสนสุขใจ .. .. หมดเวลา 6 นาทีแล้วค่ะ ..
17 มิถุนายน 2548 17:18 น. - comment id 480982
ส่งแรงใจข้ามขอบฟ้า เพื่อมามอบให้กานดาคนดี เธอจะรู้ไหมหนอว่าพี่คนนี้ เรียงร้อยถ้อยวจีถึงเธอ อยากจะบอกว่าความเศร้า มันจะคงอยู่กับเราไม่นานปี ถ้าเพียงเธอทำใจให้เข้าใจมี ถึงเหตุที่มีและเป็นไป มองดูที่ปลายเส้นท้องฟ้า ทุกวันเวลาฟ้าจะเปลี่ยนสี ดังฟ้าจะบอกกับเธอนะคนดี ว่าทุกข์มีในวันนี้ต้องจากไป วันหน้าคงได้พบสุข ขอเพียงเธอหมดทุกข์จากใจ พี่คนดีคนนี้ที่แสนจะห่วงใย คงจะพร้อมดีใจไปกับเธอ สำหรับเธอเพื่อนคนดีของแก้วนีดา.......
17 มิถุนายน 2548 17:29 น. - comment id 480987
ภาพข้องบนเป็นทะเลเมืองระยอง ทำไมเศร้าจริงหนอ.... ******************** คุณแก้วนิดาครับ กลอนคุณดั่งนำทิพย์ชโลมใจ ขอบคุณ....
17 มิถุนายน 2548 18:58 น. - comment id 481018
กลอนเพราะทั้งคู่ค่ะ แต่คุณแก้วนีดาขา... ฟังหูไว้หูนะคะ ผู้ชายหน่ะ เชื่อมากไม่ได้ เวลาชม!!
17 มิถุนายน 2548 19:24 น. - comment id 481030
จะเงยหน้าเลิกเศร้าเลิกเฝ้าทุกข์ เมื่อเธอปลุกปลอบใจให้หายเหงา จะเลิกหมองเลิกหม่นไม่สนเอา เมื่อตัวเธอคอยปลอบเราไม่เหงาทรวง ชอบนะค่ะ อ่านแล้วเหมือนมีความอบอุ่นดีค่ะ
18 มิถุนายน 2548 12:24 น. - comment id 481206
หวังขอบฟ้า โค้งฝัน ฝั่งตรงข้าม จะนิยาม คำใด ให้ใจหนอ ยามเจ็บปวด รวดร้าว น้ำตาคลอ มีใครไหม มารอ เช็ดน้ำตา แวะมาแจมค่ะ อ่านไปอ่านมา ชอบจังค่ะบทสุดท้าย บทอื่นก็เพราะนะคะ แต่ว่าชอบบทสุดท้ายที่สุด รู้สึกดี เมื่อได้อ่านค่ะ *^_^* ปล: ชอบนามปากกะอ่ะ
18 มิถุนายน 2548 17:31 น. - comment id 481309
อย่างใดหนอใจ... ยิ่งอ่าน... ยิ่งเศร้า...
19 มิถุนายน 2548 10:51 น. - comment id 481428
SonyaBeauty -ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ ช่างคิดนะครับคุณ ยังดีครับที่มีหูเหลือไว้สักข้าง ***************************** ผู้หญิงไร้เงา-ถ้าคำปลอบมีพลังให้คนทุกข์คลายหม่นหมองก็คงดีครับ ขอบคุณ ***************************** ทะลใจ-แค่มีสักวรรคสักบทที่ตรงความรู้สึกใครบ้างก็อิ่มใจแล้วครับ ปล.นามปากกาคุณ\"ทะเลใจ\"น่าค้นหาครับ ****************************** ผู้หญิงช่างฝัน-อย่าเศร้านะครับนะครับ นี่ครับกำลังใจ หวังใจ ****************************** กีกี้-เป็นการมาเยือนที่สุขใจไม่น้อยไปกว่ากันครับ ขออีกสักนาทีได้ไหมครับ ขอบคุณ ******************************* ขอให้ทุกหัวใจมีแต่วันที่คลี่คลายในทางงาม ด้วยหวังใจ
23 มิถุนายน 2548 14:25 น. - comment id 483278
แวะมาขอบคุณ \"ใครบางคน\" ของคุณ ด้วยค่ะ ที่ทนอ่าน... ขอบคุณ.. จากหัวใจ
4 กรกฎาคม 2548 09:39 น. - comment id 488015
ผู้หญิงช่างฝัน - ใครบางคนคนนั้นเธอบอกยินดีที่ได้นั่งอ่าน ผมทำเธอเสียเวลานานทีเดียว แอย่างว่าครับ ผมนิยมความตรงไปตรงมาของอารมณ์บัดเดี๋ยวนั้นที่เกิดขึ้น ถ้าให้เขียนตอนนี้มั่นใจว่าคำความต้องเพี้ยนไปจากวันวานเป็นแน่ครับ ขอบคุณหัวใจคุณคุณที่มารอบสอง และขอบคุณเธอ **************************************
4 กรกฎาคม 2548 09:39 น. - comment id 488016
บทส่งใจ... วรรคทองในอดีตที่คุ้นคำกวีปลอบใจกวีไว้... แด่คุณ อยากให้เงยหน้าพริ้มยิ้มอย่างเก่า อย่าซึมเซาเพียงหายสเน่หา อย่าร้องไห้ตาจะช้ำเปลืองน้ำตา อย่าเหว่ว้าวุ่นวายให้อายคน... เป็นดั่งนี้แหละครับ เมื่อเจอวรรคช้ำๆ ก็อดหวั่นไปตามคำที่ยลไม่ได้ จึงเขียนปลอบซะทั้งที่ไม่เห็นว่า แท้แล้วคนเขียนงานอีกฟากหนึ่งของฝั่งฟ้าจะช้ำ หรือกำลังชุ่มใจด้วยรสสุขกันแน่!!! นี่แหละใจ.. ขอบคุณทุกท่านที่มา จังหวะดีดีจะแวะไปเก็บอารมณ์ดีดีในบ้านท่านทั้งหลาย ขออนุญาต และขอบคุณครับ...หวังใจ ***************************