สุดปลายฟ้าตะวันทอลอออ่อน บทละครชีวิตฝันเริ่มวันใหม่ อกคนเหงาร้าวเจ็บคำเหน็บใคร ฟ้าสดใสใจละมุนวันสุนทร ลบรอยคราบน้ำตาสะอื้นอก เหินเยี่ยงนกเยี่ยมฟ้าถลาร่อน บินให้ไกลไปให้ถึงซึ่งนิวรณ์ ความหลังก่อนซ่อนไว้ในรอยจำ หนึ่งที่ก้าวรอยร้าวกล้ำกลืนย่ำรุ่ง จดใจมุ่งแสวงหาก่อนฟ้าค่ำ ธรรมชาติบาดใจให้สัจจธรรม ชีวิตดำเนินวิถี....นิรันดร์ หอบความหวังกำลังใจแน่นในอก มิสะทกสะท้านพายุ...จะดั้น บินให้สูงยูงรำแพนแสนลาวัณย์ ความใฝ่ฝันชีวิตยึดติดใด ขวัญเอยเคยขวัญอ่อนพักก่อน..พัก เรียนรู้จักรักตนตั้งต้นใหม่ มืดวันนี้มิใช่ว่าตลอดไป กุมหัวใจ..ให้สนิท.....ชีวิตงาม อกเอ๋ยไม่เคยจำถลำลึก บาดรู้สึกเจ็บลึก....รักเกินจักห้าม ครั้นหม่นหมองครองน้ำตา...พยายาม ฝากนิยามชีวิต..ให้..ใจพินิจ ๑๑๑๑๑
27 กุมภาพันธ์ 2548 06:50 น. - comment id 431994
แวะมาอ่านครับ
27 กุมภาพันธ์ 2548 09:24 น. - comment id 432017
สำหรับเช้าวันนี้ โชคดีที่ได้มาอ่านงานของคุณ เพราะจริงๆ เพราะมาก เพราะที่สุด อกเอ๋ยก็เคยจำ แต่ไม่ย้ำให้ลึกไป เลือกเรื่องพอทนได้ เรื่องไม่ไหวก็โยนคลอง ตะวันยังทอแสง ฟ้าสีแดงกลบกลืนหมอง มืดคลึ้มก็ต้องลอง หากว่าต้องก้าวเปลี่ยนทาง ..คุณคะ ชอบบทนี้มาก ที่คุณแต่ง ขวัญเอยเคยขวัญอ่อนพักก่อน..พัก เรียนรู้จักรักตนตั้งต้นใหม่ มืดวันนี้มิใช่ว่าตลอดไป กุมหัวใจ..ให้สนิท.....ชีวิตงาม งามเอยงามตามใจในพินิจ จิตเราคิดตั้งตนมิเกรงขาม แม้นตกยากจากถิ่นพยายาม ถือว่าหามโลกาท้าตะวัน นางเอยนางจะย่างเยื้องละมุน หาความอุ่นกอบใส่หัวใจฝัน ด้วยเรียนรู้ค่าคนยังมีวัน ไม่ต้องหวั่นตัวเราเข้าใจตน เยี่ยงผู้อื่นย่อมคิดสิทธิ์เช่นนี้ จึงเกิดมีหลายสายใช่สับสน คำจารึกจารจดบอกทางคน นับแต่ยลพ่อขุนถึงรุ่นเรา ยังเป็นแนวแก้วเก้าเคล้าชีวิต พรหมลิขิตขีดเส้นใช่จะเหมา โอกาสเลือกหยุดพักมีบางคราว มานะพราวก่อใจได้ทุกวัน
27 กุมภาพันธ์ 2548 09:27 น. - comment id 432018
ตามมาบอกว่า ข้อความข้างบน อาภาภัส เองค่ะ
27 กุมภาพันธ์ 2548 10:27 น. - comment id 432042
มาอ่านกลอนเพราะ ๆ จ๊ะ :) ...ขอเพียงมีกำลังใจ...และไม่รู้จักท้อ ...สักวัน...สิ่งที่คิด...ที่ฝัน...คงไปถึง ...ชีวิตเป็นของเรา...ตัวเราคือ.ผู้กำหนด ...จริงบ่...
27 กุมภาพันธ์ 2548 13:40 น. - comment id 432133
กว่าจะรู้จักจำ ... คิดถึงเพลงนี้เลยครับ เจ็บแล้วก็หยุด พอหายแล้ว ทำใหม่ ฮ่า ๆ คนเรา
27 กุมภาพันธ์ 2548 14:24 น. - comment id 432154
อกเอ๋ยไม่เคยจำถลำลึก บาดรู้สึกเจ็บลึก....รักเกินจักห้าม ครั้นหม่นหมองครองน้ำตา...พยายาม ฝากนิยามชีวิต..ให้..ใจพินิจ ชอบบทนี้ที่สุดเลยค่ะ ก็ใจไม่จำนี่นาทำไงได้ :) มาอ่านนะคะ ไม่ได้มาทวงกลิ่นโมก อิอิ ไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ
27 กุมภาพันธ์ 2548 16:56 น. - comment id 432220
เวลาไหลใจเคลื่อนคล้อยล้านร้อยสิ่ง หาดาวผิงอิงอบกายได้หนไหน อันมรรคาที่ข้าเหินเดินอีกไกล กำลังใจแสนมีค่าพาจิตรมย์
27 กุมภาพันธ์ 2548 19:21 น. - comment id 432278
อกเอ๋ย ไม่เคย จะจำช้ำ อกไม่จำ ให้ช้ำ ยังยิ้มได้ อกก่อนๆ ร้าวรอน เพราะรักใคร ที่ไม่มี หัวใจให้ อกไม่แคร์
27 กุมภาพันธ์ 2548 22:04 น. - comment id 432371
บางคนเจ็บแล้วจำจนตาย บางคนเจ็บแล้ว ก็ยังอยากจะหาข้อพิสูจน์ว่า จะไม่เจ็บอีก และแล้ว ก็เจ็บอีกจนได้ เมื่อไหร่จะจำเสียทีหนอ
28 กุมภาพันธ์ 2548 14:25 น. - comment id 432647
แวะมาอ่านค่ะ เพราะดี แต่แต่งกลอนไม่เป็น อยากแต่งอยู่เหมือนกัน แต่ช่วงนี้มีเรื่องมากมายให้ต้องคิด มีหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่มีแม้กระทั่งเวลาที่จะ..ทำอะไรที่ตัวเองอยากทำ บัว
17 ตุลาคม 2550 08:14 น. - comment id 434764
ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยม...
17 พฤษภาคม 2552 14:42 น. - comment id 986301
ท่องทะเลใจไปเรื่อย เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าสงบ แต่วันฝันคืนกลืนพลบ มิจบมิจำ..คำนึง จอมเทียนเวียนชี้ชีวิต ถูกผิดระอาอย่าขึ้ง คลื่นครามน้ำฟ้าตราตรึง เอื้อมถึงพึงใจไม่นาน พร่างดาวพราวเดือนเลือนหม่น เหมือนคนล้นรื่นขื่นหวาน หน้าชื่นอกตรมซมซาน ประจานเจ็บจำซ้ำซ้ำ ลอยนาวาชีวีว้าง ไปทางใดมีมิหนำ อดีตกรีดร้อยรอยกรรม จะทำไฉน....ใจเอย ......