๑. รัศมีฉายส่องทั่วท้องหล้า ประมวลมาสร้างเสริมเติมประสาน กอปรก่อเนื่องเรื่องวิถีมีมานาน ถ้วนทั่วตามสรรพสิ่งอิงสุรีย์ ๒. กางปีกกล้าถลาแล่นแดนผาสุก ร่อนอกรุกดุจกินนรจรสุขี แจ่มใสเสียงสำเนียงแว่วแววอารี ประหนึ่งศรีลาวัลย์มาพันทอง ปีกหางงามสะอ้านอาดบาดดวงเนตร รจเรขนับเป็นหนึ่งไม่พึงสอง ทั้งสรีร์ดั่งกนกครอบปรกครอง รูปทิพย์รองเรืองเพริศประเสริฐอัน ๓. พนาไพรใหญ่น้อยคอยวิหก กลางเขตปกสิขรอ้อนสวรรค์ ปีกแห่งผืนพฤกษ์ไพรในนิรันดร์ สถานอันจรรโลงหล้าหากล่อมพงศ์ ฤามีเพียงถิ่นฟ้าอาภาอาสน์ พิมานพาดห่อนหมายจะกลายหลง สืบสร้างกองบุญญาศรัทธาคง จะดำรงถึงถิ่นกลิ่นวิมาน หวังซึ่งเพียงปีกเสรีปีติสม สังวรลมพรมร่างให้พร่างขาน เผยปีกรับแสงสุรีย์นี้ชั่วกาล ฤาเทียบทานเสมออิ่มนั้นปริ่มพรหม --------------------------------
19 มกราคม 2548 18:55 น. - comment id 409309
เพราะจังค่ะ
20 มกราคม 2548 02:04 น. - comment id 409480
-*ปีกตะวันกางออกนอกรวงรัง บินไปยังขอบฟ้าฟากฝั่งฝัน ปีกตะวันหุบกลางเมื่อกลมจันทร์ ทอแสงฝันมาแทนเป็นเช่นปีกจันทร์-*
20 มกราคม 2548 10:41 น. - comment id 409570
กางปีกลงโอบอุ้มทั่ว ท้องฟ้าไม่มัวสลั่วแสง พันธ์ไม้งามด้วยสีแดง แสงแห่งสุริยาอาอำไพ ขอชมการเขียนที่ไพเพราะ...และการเขียนที่ใช้คำมีความหมายค่ะ.....ขอชมจากใจค่ะ
20 มกราคม 2548 11:43 น. - comment id 409589
อยากมีปีกบ้างจัง อิอิ กลอนไพเราะ มากจ๊ะ ปีกแห่งแสงตะวัน
20 มกราคม 2548 17:01 น. - comment id 409767
ขอบคุณค่ะ คุณซอนย่า ************ แม้ทิพาหรือราตรีมีในหล้า ฉายแสงมางามส่องผ่องผสาน ประดับปีกประหนึ่งแก้วที่แววปาน หากพบพานคงได้สบพบเสรี.. ขอบคุณค่ะ คุณดอกข้าว...
20 มกราคม 2548 17:06 น. - comment id 409771
มุ่งระมาดหาแหล่งแห่งสงบ อร่ามพบหิมพาน ณ กาลไหน เที่ยวจรหาโพยมบนฤากลใด ลวงหลอกไซร้ให้หลงมิปลงปอง ขอบคุณค่ะ คุณแก้วนีดา สำหรับคำชมและกำลังใจนะคะ
20 มกราคม 2548 17:08 น. - comment id 409773
อยากมีปีกบ้างจัง อิอิ กลอนไพเราะ มากจ๊ะ ปีกแห่งแสงตะวัน จาก : รหัสสมาชิก : 130 - แอ็ปเปิ้ล ------------------------------- ผู้เขียนเองก็อยากมีปีกจ้า.. จึงรำพันออกมาเป็นบทนี้... ด้วยว่า..งานที่ทำอยู่ทุกวันเช่นนี้น่าเบื่อ (แต่หนีไปไหนไม่ได้...อิอิ) ไปไม่รอด ขอบคุณค่ะ..ที่เข้ามาทักทาย