..๏ เพราะเธอไกลเกินกว่าจะคว้าถึง รักเราจึงเหินห่างอ้างว้างเหมือน สัญญาใจเคว้งคว้างดุจร้างเลือน กลัวรักเบือนสูญสลายคลายสัมพันธ์ จากเริ่มแรกแตกต่างอย่างสุดขั้ว จึงนึกกลัวเส้นทางระหว่างฝัน อาจราบรื่นเรียบง่ายดั่งหมายพลัน หรือมหันต์ภัยรอบมาครอบเรา แสนหวั่นใจเหลือเกินจึงเกริ่นถ้อย รักเลื่อนลอยสุดตรมระทมเหงา เพียงคำหนึ่งเธอมอบปลอบบรรเทา ฤๅคลายเศร้าทุกข์ขมปลดปมทรวง ขอวอนเธอสักคราเวลานี้ หากเธอมีหัวใจรักใคร่หวง แม้นห่างไกลเกินคว้ามาเดินควง จวบกาลล่วงอย่าลืมฉัน..อัลมิตรา ๚ะ๛
14 ธันวาคม 2547 10:53 น. - comment id 388329
Forget me not!!
14 ธันวาคม 2547 10:59 น. - comment id 388332
อ่ะนะ ผมก็ว่าอย่างงั้นนะ น่าจะมีลูกชายที่ขี้ร้อน ด้วยนะครับ จะได้โยงไย สายสัมพันธ์ กันดี ฮ่า ๆ
14 ธันวาคม 2547 10:59 น. - comment id 388333
^_^ ใครจะลืมคุณอัลมิตราได้ล่ะคะ เห็นแต่หนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่วนเวียนเข้าบ้านคุณอัลจนหัวบันไดไม่แห้งเลยค่ะ555 ...อิอิ อิจฉาค่ะ
14 ธันวาคม 2547 11:08 น. - comment id 388340
ง่า ไม่ลืมคร้าบไม่ลืม อยู่ที่นี่หนาวจังเลยคร้าบ ขอบ่นซะหน่อย เอิ้กๆ
14 ธันวาคม 2547 11:17 น. - comment id 388342
มะกรูดก็ไม่ลืมคุณ......หร๊อก ก็แหม...น่ารักออกอย่างนี้....... คิดถึงเสมอค่ะ
14 ธันวาคม 2547 11:32 น. - comment id 388349
... ไม่เลือนลืมหญิงงามนามนี้ ที่วจีงาม ไพเราะผ่านอักษรา เธอมีนาม แสนเพราะ อัลมิตรา ใครจะกล้าลืมหนา ... คงไม่มี อิอิ
14 ธันวาคม 2547 11:34 น. - comment id 388350
มิได้มาแต่จิตยังคิดถึง เธอเป็นหนึ่งในใจฉันเสมอ มิตรภาพยังประทับอยู่กับเกลอ มิเคยเผลอมอบใครที่ไหนเลย พูดจริงน่ะใช่หลอกแกล้งหยอกเย้า ฮักแต๊เจ้าสุจริตจิตเปิดเผย ตั้งแต่เช้าจรดเย็นเป็นเหมือนเคย ไปแล้วเหวยพับถุงต่อต้องขอตัว.. ไม่ลืมจ๊ะ..เพียงแต่ไม่ว่างเท่านั้นเองจ๊ะ..อิอิ เพิ่งกลับจาก เชียงฮาย..เจ๊า.. ..
14 ธันวาคม 2547 12:01 น. - comment id 388358
แต่งได้เพราะมากเลยครับ ---ม่านแสง แวะมาชมนะครับ---
14 ธันวาคม 2547 12:05 น. - comment id 388359
เสียงเพลงของครูเพลง สุรพล สมบัติเจริญ ก้องเข้าหู ไหนว่าไม่ลืม ไม่ลืม ไม่ลืม ไม่ลืม...ไม่ลืมสัญญาที่เคยผูกพัน...... หัวใจพองคับอกเมื่อแคร์กัน...
14 ธันวาคม 2547 12:20 น. - comment id 388368
อัลมิตราเปรียบนางฟ้าดาราสวรรค์ นวลดั่งจันทร์คืนเพ็ญที่เห็นส่อง ผู้คนหมายอยากได้ไว้ครอบครอง เพราะจำจองกับน้ำใจในเนื้อนวล จึงวาดร้อยถ้อยถักมาแข่งสู้ บอกนวลรู้ว่าใจชายหมายชื่นชวน หลงรักนางปางว่าใจจะร้าวรวน นั่งครางครวญทุกคืนค่ำประจำยาม ใช่พี่แน่ดอกหนาที่ท้าแข่ง กวีแข็งถืดทื่อมือแบกหาม ไม่ค่อยรู้ไม่เคยเรียนกวีงาม เพียงเขียนตามอารมณ์แม่จมใจ ขอนวลรู้ดูใจชายก็หมายชิด ใช่ประดิษฐ์คิดแต่งคำให้หลงไหล อยากบอกนวลเนื้อนางแม่ทรามวัย ว่าดวงใจวาดแต่ฝันอัลมิตรา ไม่ได้เอาคำหวานมาหว่านล้อม ขอนวลน้อมเอาดวงใจที่ห่วงหา เชื่อมประสานสะพานใจให้นำพา พบเจอหน้าในฝันทุกวันเอย ผมเขียนกลอนนี้ในห้องพี่กะว่าจะได้โพสเป็นคนที่ 2 ครับ เขียนตั้งนาน...
14 ธันวาคม 2547 12:36 น. - comment id 388382
เอาไปโพสเข้าห้องครับ
14 ธันวาคม 2547 12:39 น. - comment id 388387
^_^ อิอิ สงสารคุณดอกข้าว ที่เฝ้าคอยเคียว555 มาป่วนอีกรอบค่ะ
14 ธันวาคม 2547 12:52 น. - comment id 388397
ดีแล้วหล่ะที่ไปโพสต์ เป็นความปราบปลื้มดี มารอบสองนะจ๊ะ อัลมิตรา
14 ธันวาคม 2547 13:05 น. - comment id 388404
มิกล้าขอรอคำดังจำหลัก มิกล้าทักร้องถามความห่างเหิน มิกล้า...และมิกล้า...แม้เผชิญ เพียงอย่าเมินแค่เหมือน...คนผ่านมา ......................................................... ลี่...ผู้มาเยือน .
14 ธันวาคม 2547 13:26 น. - comment id 388422
แม้นอยู่ไกล หมื่นลี้ มิหนีหาย ยังมิคลาย ห่วงใย ในใจฉัน แม้เวลา ผันผ่าน เนิ่นนานวัน ยังคงมั่น ในเจ้า เฝ้าแอบอิง ***เอ ไม่รู้ว่าบทกลอนนี้จะพอฟัดพอเหวี่ยงกับวาดฝันของอัลมิตราทั้งสองท่านหรือปล่าวน๊ะ... ...แวะมาทักทายหลังข้าวเที่ยงครับ
14 ธันวาคม 2547 14:18 น. - comment id 388460
ขยับเขย่ากลอนประตูห้องแห่งความทรงจำ เพื่อขยำเอาความหลังให้ป่นปี้ จนค้นพบอดีตที่หล่นหาย คล้ายว่าตัวตนของเรานั้นถูกทอดทิ้งไว้อย่างโดเดี่ยวที่กรงขังของการลืม แล้วเราก็ไม่อาจเล็ดรอดออกมาได้แม้จะพยายามสุดแรงกำลัง ละอองน้ำตาที่ปลิวไปพร้อมสายลมอดีตกาลเลาะผ่านกำแพงเฉยชา เที่ยวแล้วเที่ยวเล่า ละลายหายไปพร้อมสายหมอกสีจางแห่งความเศร้าหมอง เราจึงชินอยู่กับความลำพังตราบนานเท่านาน เราค่อยถูกกลืนกินไปในการล่องหนแห่งเวหา นาทีจำพรากมาถึงแล้ว... ลาก่อนนิจนิรันดร์กาล
14 ธันวาคม 2547 15:02 น. - comment id 388486
ไม่ต้องคิดหรือหาเวลานึก ในส่วนลึกเคียงคู่อยู่เสมอ อย่าคิดไปใจฉันนั้นลืมเธอ มิเคยเผลอห่วงหาทุกนาที ตอบด้วยกลอนเชยๆสั้นๆ แล้วกัน..กลัวองค์รักษ์เยอะ..ยิ่งไม่ค่อยมีคนเห็นใจอยู่.. แค่ข้างบน คุณก็ตอบแย่แล้ว..สวัสดีครับ..อ้อ..มีดน่ะ.วางได้แล้ว เดี๋ยวบาดมือ..
14 ธันวาคม 2547 16:59 น. - comment id 388570
กำลังจะแต่งให้นะเพลง เจ้าสาวที่กลัวฝนและเจ้าบ่าวที่บ่นหนาวนะ...แวบมารอบสอง........
14 ธันวาคม 2547 17:13 น. - comment id 388579
น่าอ่านมากฮะ ติดตามอ่านของคุณอยู่ แต่บางทีก็ไม่ได้อ่านหรอก แบบไม่ค่อยว่างฮะ กำลังหัดเขียนเรื่องสั้นอยู่ฮะ
14 ธันวาคม 2547 17:56 น. - comment id 388608
อย่าลืมฉัน!! ขอแค่นั้นเพียงเธออย่ามอง ช้านเป็นคนอื่น อยากเจอกันเธอคงไม่ฝืน และพอจะยิ้มให้ชื่นจาย......ย...ย........ย.. โห!! ฟ้าสวยออกลูก (แหะๆๆ) ของมิสเตอร์ทีม ชอบๆๆ ทั้งกลอน ทั้งเพลงเลยค่า...า...า....... ** หวัดดีค่ะ พี่อัล(สุดสวย) มาชื่นชมผลงาน ที่มีคุณค่ามักๆ มายๆ ของพี่อัลนะค้า..า..... ** ไปหละค่ะ ไปและๆๆ
14 ธันวาคม 2547 18:08 น. - comment id 388614
คุณรดา ... never never ... คุณแม่จิตร .. ว่าไปนั่น มุขหนอมุข คุณคนเมืองลิง .. สองวันนี้ รู้สึกมดจะแยะ ว่าจะหาซื้อดีดีทีมาสักกระป๋องไว้ฉีดไล่มดบ้างค่ะ คุณบอกอกูรู .. จะกลับมาทันหนาวที่เมืองไทยไหมคะ คุณแมงกุดจี่ .. ขอบคุณค่ะ ที่ไม่ลืมกัน คุณไวยากรณ์ .. - - .. สมญานามไพเราะ เพราะคนชม ค่ะ คุณกุ้งฯ .. คิดถึงจัง ไปไม่กี่วัน อู้คำเมืองมาเชียวค่ะ อัลมิตราฟังได้ไม่กี่คำ ต้องหัดบ้างเสียแล้ว คุณม่านแสง .. ขอบคุณมากค่ะ คุณฤกษ์ .. หากเจอตัวเป็น ๆ ต้องร้องให้ฟังนะคะ คุณดอกข้าว .. ยินดีค่ะ ที่คุณเขียนโดยใช้พล๊อตเรื่องนี้ ถึงจะรู้สึกเหนียมนิดๆ กระดากชอบกลค่ะ อนิจจาอกเอ๋ยอยากเผยว่า เธอวาดมาสโนไวท์ใช่ตัวฉัน ที่ขี้เหร่เกินใครหมายรำพัน โธ่ ! ไยฝันสวยงามเกินตามควร เพียงผู้หญิงธรรมดาหน้าไม่สวย มิสำรวยสง่าองค์ให้หลงหวล มีคารมมากมายหลายกระบวน หัวเราะร่วนและซึมเศร้าจงเข้าใจ มิได้เลิศเลอค่าน่าใฝ่ฝัน หรือหยอกกันเริงรื่นหมื่นคำไข เพราะรู้ตัวด้อยค่ากว่าอื่นใด ฤๅจะกล้าเทียบไปในคำชม จึงบอกเล่าความจริงใช่หยิ่งศักดิ์ อย่าหลงรักอัลมิตรามิพาสม โลกของเน็ตหากหลงใหลในคารม อาจตรอมตรมเพราะรักคุดยากฉุดเอย คุณคนเมืองลิง .. ดอกข้าว คือรวงข้าวหรือเปล่าคะ อัลมิตราไม่เคยเห็นดอกข้าวค่ะ คุณคนเมืองลิงพอจะรู้ไหมคะ ว่าคืออะไร คุณลี่ฯ .. ที่นี่มีเพื่อน เพื่อนย่อมมีความหมายแตกต่างกว่าคนผ่านมาค่ะ คุณบินเดี่ยว ฯ .. วาดฝันอันผิดเพี้ยนของคุณงดงาม ค่ะ นายสถานี .. นึกว่าจะไม่มาช่วยกันเสียแล้ว กำลังย่ำแย่เชียว ขยำความทรงจำจนป่นปี้ .. อืมม ให้ความรู้สึกรุนแรงในจินตนาการ ผู้ที่ถูกทอดทิ้งให้เปล่าดาย ย่อมรับรู้รสชาติแห่งความเศร้าหมองนั้นได้ดี ท่านผู้เฒ่า ฯ .. นึกไม่ค่อยไหวแล้วค่ะ เย็นมากแล้ว หิวจัง ติดไว้ก่อนนะคะ ที่เหลือเก็บกับคุณฤกษ์ค่ะ คุณบินเดี่ยวฯ .. ขอบคุณมากค่ะ ไว้จะรอฟังเพลงค่ะ คุณอาบูไซยาบ .. ศานติจงมีแด่ท่าน เห็นเรื่องสั้นของคุณวันนี้ แต่ยังไม่ได้คลิ๊กเข้าไปอ่านค่ะ ดึกๆจะเข้าไปนะคะ ไม่เจอคุณเสียนาน หวังว่าสุขสบายกายเช่นเดิมนะคะ คุณฟ้าสวย .. มีเพลงหนึ่งที่ชอบมาก คือ ขอให้เหมือนเดิม .. ฟังกี่ทีก็ไม่เบื่อค่ะ ร้องให้ฟังบ้างสิคะ
14 ธันวาคม 2547 18:25 น. - comment id 388617
อยากเอ่ยคำ ว่ารัก อีกสันหน แม่หน้ามล จะร้างลา เมินหน้าหนี อยากร้อยคำ ฉ่ำหวาน ซ่านฤดี กลัวตรงที่ มีดถือ ในมือเธอ @@@@@@@@@@@@ :)
14 ธันวาคม 2547 18:27 น. - comment id 388619
จะลืมเลือนกันได้อย่างไรหนอ ยังวาดหมายหวังต่อเฝ้ารอคอย ...... .. ปายดีกว่า แต่มะได้ลืมอ๊ะ
14 ธันวาคม 2547 18:40 น. - comment id 388624
ความทรงจำ เก็บไว้มิรู้เลือน ช่วยเตือนดวงเนตรมิรู้หาย อย่าลืมฉัน แม้คืนวันจะกลับกลาย ตราตึงใจ ระลึกไว้ แม้ใหม่ครอง .... คิดถึง อัลมิตรา ค่ะ
14 ธันวาคม 2547 19:08 น. - comment id 388643
^_^ ไปหาข้อมูลมาให้คุณอัลค่ะ ตามประสาคนซื่อ..อิอิ แต่ความจริงเราน่าจะถามคุณดอกข้าวเขาโดยตรงเน๊อะ ไม่รู้ข้อมูลจะตรงกับเจ้าตัวเขาหรือเปล่านะคะ555 ต้นข้าวมีการขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดซึ่งเกิดจากการผสมระหว่างเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย เพราะฉนั้น ลักษณะที่สำคัญเกี่ยวกับการ ขยายพันธุ์ ได้แก่ รวง ดอกข้าวและเมล็ดข้าว ๒.๑ รวง รวงข้าว(panicle) หมายถึงช่อดอกของข้าว(inflorescence) ซึ่งเกิดขึ้นที่ข้อของปล้องอันสุดท้ายของต้นข้าว ระยะระหว่างข้ออันบนข องปล้องอันสุดท้ายกับข้อต่อของใบธง เรียกว่า คอรวง ๒.๒ ดอกข้าว หมายถึง ส่วนที่เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียสำหรับผสมพันธุ์ ดอกข้าวประกอบด้วยเปลือกนอกใหญ่สองแผ่นประสานกัน เพื่อห่อ หุ้มส่วนที่อยู่ภายในไว้ เปลือกนอกใหญ่แผ่นนอก เรียกว่า เลมมา(lemma) ส่วนเปลือกนอกใหญ่แผ่นใน เรียกว่า พาเลีย(palea) ทั้งสองเปลือกนี้ ภายนอกของมันอาจมีขนหรือไม่มีขนก็ได้ ๒.๓ เมล็ดข้าว หมายถึง ส่วนที่เป็นแป้งที่เรียกว่า เอ็นโดสเปิร์ม(endosperm และส่วนที่เป็นคัพภะ ซึ่งห่อหุ้มไว้โดยเปลือกนอกใหญ่สองแผ่น เอ็น โดสเปิร์มเป็นแป้งที่เราบริโภค คัพภะเป็นส่วนที่มีชีวิตและงอกออกมาเป็นต้นข้าวเมื่อเอาไปเพาะ) ......อ่านให้หนำใจเลยนะคะ อิอิ ..........
14 ธันวาคม 2547 20:59 น. - comment id 388717
ทำไมต้องวันพฤหัส..... ทำไมไม่วันศุกร์......... วันศุกร์ไม่ได้งั้นวันพฤหัส...
14 ธันวาคม 2547 21:09 น. - comment id 388725
ยังแอบคิดฮอดคุณอัลมิตราอยู่เสมอ แต่กอดบ่ได้เด้อ ครับ บักลัก ครับ :]
14 ธันวาคม 2547 21:39 น. - comment id 388758
คุณเรไร ..มีดที่ถือไว้ บาง แต่คมเฉียบค่ะ ยืมหมอผ่าตัดมาอีกที :) นายดอกไม้ .. เหมือนลืมกันเลย หนาวนี้ผ้าพันคอคงมีประโยชน์นะคะ คุณตฤณ .. ขอบคุณมากๆค่ะ คุณคนเมืองลิง .. ขอบคุณค่ะ แต่อัลมิตรายังไม่เคยเห็นดอกข้าวเลยนะคะ สีขาวใช่ไหม (มีขนด้วย 555 ขำ..) น้าสิบ .. อัลมิตราก็อยากให้เป็นวันศุกร์เหมือนกันค่ะ เคลียร์คิวได้แค่ 16-17 เอง และนายเจ ต้องบินกลับ 17 ไปดูแลคุณยาย ทำให้เหลือแค่วันเดียวคือ 16 .. เอาน่า .. วันไหนๆก็มี 24 ชั่วโมงเท่ากันนะคะ น้า.. คุณลักษมณ์ .. น้าสิบอยู่แถวๆนี้ แสดงว่าคุณพ่อส่งคนคุ้มครองมาป้วนเปี้ยนแล้วล่ะค่ะ ( เหมือนจะขู่ เนอะ.. )
14 ธันวาคม 2547 22:12 น. - comment id 388797
จากวันนั้นยันวันนี้ยังมีอยู่ ยังเชิดชูดูเจ้าเหมือนเก่าก่อน มิห่างหายจากใจในนิวรณ์ ยังเป็นห่วงดวงสมรดังก่อน..เอยฯ แวะมาเยี่ยม คร้าบบบบ
14 ธันวาคม 2547 22:46 น. - comment id 388823
นายพระจันทร์ ... :) เพราะเราต่างร่วมฝัน ณ วันนี้ ต่อให้มีอุปสรรคมาขัดขวาง ก็จะขอผจญไปไม่ท้อพลาง รักมิหมางกลับเพิ่มพูนคูณทบตัว
14 ธันวาคม 2547 23:25 น. - comment id 388840
...เพราะไกลเกิน เดินไป เพื่อให้ถึง แต่สิ่งหนึ่ง ไม่ขาด ปรารถนา มิตรภาพ ตราบสิ้นใจ ให้เธอมา รับรองว่า จริงแท้ และแน่นอน... ................สวัสดีครับ...................
15 ธันวาคม 2547 04:11 น. - comment id 388905
พักนี้ ค่อนข้างขี้ใจน้อย เอ.. อัลมิตรากำลังน้อยใจใครหรือเปล่า
15 ธันวาคม 2547 04:15 น. - comment id 388907
ยามดึกดื่นลืมตาหางานทำ.. แวะมาขำกลอนอ้อนอัลมิตรา สวัสดีรอบดึกค่ะ
15 ธันวาคม 2547 06:49 น. - comment id 388920
แวะมาอ่านยามเช้าครับ หนาวจังเลย..... ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ.......
15 ธันวาคม 2547 07:58 น. - comment id 388959
อิจฉาจังค่ะ .. นานแค่ไหน .. คนบางคนไม่มีวันลืมคุณและคิดถึงคุณเรื่อยไป .. ........................
15 ธันวาคม 2547 08:42 น. - comment id 388968
คุณค้างคาว .. รู้ว่าไกลเหลือเกินยากเดินถึง เพียงคำนึงยังอ่อนล้ามิกล้าฝัน มิตรภาพตราบสิ้นใจมีให้กัน หากเธอรับคำมั่นฉันยินดี คุณสีน้ำฟ้า .. อืมม ! นึกก่อน น้อยใจใครหนอ (สิ่งมหัศจรรย์กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว...) คุณทิกิ ..อรุณสวัสดิ์ค่ะ ตื่นแต่มืดเลยนะคุณ อากาศเย็นนะคะ แผลที่ผ่าตัดอาจจะตึงๆไปนิด แต่การลุกขึ้นบ้างจะช่วยยืดพังผืดกล้ามเนื้อได้ดีค่ะ คุณผลิใบ .. แฮ่ม หนาวเนื้อ หรือ หนาวอากาศคะ คุณชมอักษร.. คนหลายคนไม่ลืม แต่ก็ยังไม่สำคัญเท่าใครคนหนึ่งคนนั้นไม่ลืมค่ะ :) มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า.. ปล.. สุ่มไก่บ้านใครแตก เรียกไก่กุ๊กๆ กลับเข้าสุ่มด้วยจ้า ..
15 ธันวาคม 2547 14:24 น. - comment id 389188
หวัดดีคะแวะมาเยี่ยมด้วยคนนะคะ ยังไม่ลืมกานหรอกคะ คิดถึงเสมอๆๆๆๆ
15 ธันวาคม 2547 14:46 น. - comment id 389212
แม้ไกลห่าง...ภาพเก่าก่อน..ยังตราติด ให้ชวนคิด นึกถึง เธอเสมอ แม้ไม่ได้บอกว่าคิดถึงเธอ ยังละเมอถึงทุกตืนวัน ไม่ได้มาสวัสดีพี่อัลมิตรนานเลยค่ะ เทอมนี้เรียนหนกมาก รายงานก็เยอะ แถมมีตัวขี้เกียจเยอะอีกตะหากค่ะ .... ขึ้นมาอยู่นครปฐม ไม่คิดว่าแถวนี้อากาศจะหนาว เพิ่งมาเจอค่ะ แหะๆๆ...
15 ธันวาคม 2547 15:04 น. - comment id 389223
คุณardin .. ขอบคุณมากค่ะ ที่ยังไม่ลืมกัน น้องดินสอ .. ระลึกถึงอยู่เสมอ พี่อัลฯเองก็งานชุกนัก ว่าจะหาช่วงเวลาเหมาะ ๆ ยกจักรยานขึ้นบนหลังคารถ แล้วก็ตะล่อนไกลๆเสียที ค่ะ
15 ธันวาคม 2547 18:05 น. - comment id 389332
ต่อไปอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าคงไม่ลืมฉันแน่นอนครับ...
15 ธันวาคม 2547 20:17 น. - comment id 389445
แม้ว่าฉันห่างไกลในวันนี้ ทำท่าทางทำทีเหมือนหนีหน้า จงรู้เถิดมิ่งขวัญอัลมิตรา กาลเวลาผ่านไปจะไม่เลือน มิตรภาพตราบฟ้าที่ว่านั้น บอกว่าเรารักกันเพียงฉันเพื่อน จะกี่วันกี่ปีหรือกี่เดือน ยังย้ำเตือนบอกไว้ในใจตน เพราะเธอไกลเกินกว่าจะคว้าถึง บางครั้งจึงยอมรับว่าสับสน เมื่อความรักผูกใจให้สองคน แต่ความไกลผลักจนสิ้นหนทาง อุปสรรคมากมายทำให้คิด เพราะไร้สิทธิ์เสียงใดไว้กล่าวอ้าง มีแต่ความทรงจำย้ำไม่จาง แม้เธอร้างลืมฉัน อัลมิตรา
15 ธันวาคม 2547 21:20 น. - comment id 389515
เอ๊ะ! กลอนเกลียวเกี๊ยวนาง ของใครกันนี่? ไม่ปรากฏมีนาม ช่างงามหนักหนา ฝากบทกลอนวอนเว้า เจ้าโฉมผกา แห่งเหล่าภุมราภู่ผึ้งที่รุมตอม (แทบตรอมตรึง) .. :] แมลงลักษมณ์ ครับ
15 ธันวาคม 2547 23:15 น. - comment id 389622
คุณแทนคุณแทนไท .. อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะปรากฏการณ์อุบัติขึ้นหรือคะ คุณม้าลาย .. ฤๅฝันไปหรือไรจึงได้พบ สายตาสบอักษรตอนโศกศัลย์ ใครกันหนอต่อถ้อยร้อยรำพัน ว่ากาลผันเปลี่ยนไปใจมิเลือน มิตรภาพตราบฟ้าสิ้นดินสลาย สื่อความหมายมั่นคงยืนยงเพื่อน จวบผ่านพ้นฤดูเวียนเปลี่ยนปีเดือน ยังเสมือนระลึกไว้ในจิตตน คงเพราะเธอลี้หายให้ห่วงหา คำสัญญาจึงชวนคิดจิตสับสน หากความรักมอบให้ใครบางคน ไยขัดสนกล่าวไปไร้หนทาง หรืออาจมีสิ่งใดหมายแอบแฝง จึงแสดงทีท่าว่าเหินห่าง แสนเสียดายรักเลือนเหมือนอำพราง ดุจใจร้างลืมฉัน .. อัลมิตรา คุณลักษมณ์ .. แมงลัก แบบที่ทานในน้ำแข็งใส รู้จักค่ะ แมลงลักษมณ์ อื้อ .. ดื้อดีดีที ป่าวคะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
16 ธันวาคม 2547 00:59 น. - comment id 389719
ไม่เป็นไรหรอก มันอยูที่ความคิดและจิตใจ เรื่องต่อกลอน อย่าไปโทษใครเลยหล่ะกัน และ ไอที่ขอบคุณผมหน่ะ ไม่เป็นไรหรอกนะ สำหรับความหมายมันยิ่งกว่านั้นไม่ใช่ เหรอ ความรู้สึกของคนเขียนกลอน นับจากนี้ไปผมก็อาจจะเข้ามาตอบหรือว่า แต่งน้อยลง อาจเป็นเพราะว่า ต้องย้ายงานและสถานที่การใช้คอม และคอมฯที่บ้าน ก็คงไม่มีปัญญา มานั่งซื้อเล่นอินเตอ์เน็ตหรอก มีปัญหากับเน็ตฟรี ผมไม่ได้บ่นนะ เพียงเห็นคุณอยู่กับเว็บนี้มานานแสนนาน ราตรีสวัสดิ์และกันนะ บาย
16 ธันวาคม 2547 08:32 น. - comment id 389752
ไม่ได้ใช้clickta มาร่วมสองเดือน เนื่องจากก่อนหน้านั้นอาศัยญาติที่ใช้แบบสองคู่สาย และตอนหลังรู้สึกจะติดขัดในระบบบางอย่าง ญาติจึงเปลี่ยนไปใช้อีกหน่วยงานหนึ่ง อัลมิตราจึงใช้ชั่วโมงเน็ตแบบรายชั่วโมง ซึ่งได้มาจากการเล่มเกมส์ แต่ยังไม่ได้ใช้เช็คว่าจะเล่นได้จนถึงกี่ชั่วโมง (เพราะจำไม่ได้) แต่ก็มีบ้างที่อัลมิตราใช้เน็ตฟรี แต่เน็ตฟรีก็มีปัญหาบ้างบางครั้ง บางที่ไม่สะดวกในการใช้งานนัก เข้า ie แต่ละครั้ง โหลดนานมาก ดังนั้นเมื่อเปิดกระทู้ไหนแล้ว มักจะไม่ค่อยปรับเปลี่ยน เพราะถ้าเปิด ie หลายตัว เน็จจะพาล disconnect ไปเสียดื้อ ๆ ( ต้องเสียตังค์อีกตั้งสามบาทในการต่อเน็ตครั้งถัดไป ) เมื่อคืน .. ใช้เวลาอยู่พอประมาณในการตอบกลอนของคุณม้าลาย และทบทวนเพลงที่จะถอดความให้คุณเรไร จึงมารู้ทีหลังว่า กลอนบทที่อัลมิตราเขียนต่อในกระทู้ของคุณ สร้างปัญหามากมาย ซึ่งจะเป็นใครก็ตามแต่..อัลมิตราไม่อาจหาคำตอบให้คุณได้ ทั้งนี้คงต้องรอคุณปีกฟ้าหรือไม่ก็ต้องถามกันตรง ๆ ไป ว่า คือใคร จุดประสงค์อะไร .. บางทีคำหยอกล้อที่ดูแรงไปนิด อาจจะสะกิดอารมณ์ให้ลุกโชน เพียงแต่อย่าเดา .. มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
16 ธันวาคม 2547 18:18 น. - comment id 390134
ใจมีรักที่ไหนให้ขืนข่ม ทั้งแสนเศร้างตรอมตรมสมน้ำหน้า อยู่กับตัวเองเถิดมนุษย์มนา สุขใจกว่าไขว่ขว้า..หาดวงดาว ก็ดวงใจดวงนี้มีค่านัก จงฟูมฟักให้ดีมีสีขาว หยุดติดตามความหลังดั่งตามเงา จะหายเศร้า..เดียวดาย...ไม่พะวงฯ
17 ธันวาคม 2547 23:35 น. - comment id 390892
:) ขอบคุณสำหรับบทรำพันค่ะ คุณเพียงดิน ใจมีรักที่ใด..ย่อมขื่นขม แต่คนทั้งหลายเลือกที่จะตรมเพราะรักนั่น ..
18 ธันวาคม 2547 17:07 น. - comment id 391253
อิ อิ น่ารักจังเลยค่ะ อิ อิ ....
18 ธันวาคม 2547 20:43 น. - comment id 391343
ขอบคุณจ๊ะโยม โยมก็อย่าลืมกินล่ะ :]
18 ธันวาคม 2547 22:02 น. - comment id 391432
คุณลอยไปในสายลม .. ขอบคุณค่ะ คุณลักษมณ์ .. วันก่อนมีโอกาสคุยกับปู่ก๊อง เหตุใดภิกษุใช้คำว่าโยมกับบุคคลทั่วๆไป โยมพ่อ โยมแม่ โยมน้า .. พอจะเข้าฐานเรียกเช่นนั้น แต่สำหรับบุคคลอื่น น่าจะเรียก ประสก หรือสีกา .. คำว่าประสก นี้ อัลมิตรามักจะเจอในหนังสือกำลังภายในเสียมากกว่า .. พอดีคุณเขียนโยม ก็เลยนึกถึงคำที่เคยสนทนากับปู่ก๊องค่ะ
18 ธันวาคม 2547 22:41 น. - comment id 391482
ขอบคุณครับ ผมก็เพิ่งจะทราบเรื่องการใช้คำนี้ จากคุณนี่แหละครับ สีกาอัลฯ ประสกลักษมณ์ กระโดดกำแพง :]