เวลาชีวิตของฉันที่ยังหลงเหลือ จะไม่แผ่เผื่อไปใช้ในชาติหน้า กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้พบเธออีกครา จึงคิดว่าจะใช้มันให้หมดในชาตินี้ ต้นไม้คือบ้านของดอกไม้ เธอคือบ้านของหัวใจยากหาใครแทนที่ ความรักของเธอคืออาหารหล่อเลี้ยงชีวี เสียงเธอคือเสียงดนตรีที่ได้ยิน เธอบอกผลไม้คือลูกของต้นไม้ เม็ดทรายคือลูกของก้อนหิน ภูเขาคือเนื้องอกของแผ่นดิน ผีเสื้อโบยบินคือนักมายากล สิ่งที่ยืนค้ำพื้นดินกับเพดานฟ้า เธอบอกว่ามันคือเสาแห่งสายฝน สายรุ้งคือสะพานเชื่อมสวรรค์เบื้องบน ทาเจ็ดสีเพื่อใช้เป็นถนนของคนดี แม่น้ำดื่มน้ำอิ่มแล้วร้องเพลงหวาน แสงแดดระบายดอกไม้บานหลายเฉดสี เสียงใบไม้ไหวเอนเป็นดนตรี หากมีเธออยู่ตรงนี้ ฉันคงไม่ตรม เธอยังพายเรือวนอยู่ในความคิดฉัน ฉันยังพร่ำเพ้อถึงวันแห่งความสุขสม ฉันแอบหลบหน้า อายดวงตาแห่งสายลม ความอ่อนไหวในอารมณ์คอยฉุดดึง เวลาชีวิตของฉันที่ยังหลงเหลือ กำลังตกเป็นเหยื่อความคิดถึง ยามสายลมพัดฉ่ำเหมือนเสียงรำพึง คนที่เธอคิดถึง กำลังคิดถึงเธอ
8 พฤศจิกายน 2547 10:20 น. - comment id 365918
ขอชักใยให้รักได้ปีนป่าย ความร้อนคลายคราปลอบใจให้หายหมอง ความอบอุ่นละมุนมาคราเธอมอง สมใจปองเปี่ยมสุขจิตนิจนิรัดร์** มาทักทายอ่านงานสำบัดสำนวนสะเด็ดมากค่ะ สวัสดีนะคะ
8 พฤศจิกายน 2547 10:49 น. - comment id 365926
เพราะมากเลยจ๊ะ แวะมาทักทายนะจ๊ะ
8 พฤศจิกายน 2547 11:24 น. - comment id 365933
เพราะจ้าเพราะมากๆเลยค่ะ เขียนกลอนมาแต่ละที เพราะๆนะคะ ติดตามอ่านอยู่นะคะ
8 พฤศจิกายน 2547 12:48 น. - comment id 365986
ถามจริงๆนะ กินข้าวกับอะไร นับถือมากเลย แต่งได้ไง คิดได้ไง เอาสิ่งนั้นมาเปรียบเทียบกับสิ่งนี้ แล้วเอามารวมเป็นความรัก ให้ตายสิ อยากมีความสามารถเหมือนคุณจัง
8 พฤศจิกายน 2547 14:04 น. - comment id 366055
เพียงเพื่อผ่านมาเป็นกำลังใจให้เธอคนดี +.+ กลอนน่ารักดีนะค่ะ+.+ ( ^ . ^ )...คิดถึงจ้า...( ^ . ^ )