ถ่ายทอดความรู้สึก ความหมายของรักมาเป็นบทกลอน ยามรักผักต้มยังว่าหวาน ยามรำคาญน้ำตาลยังว่าขม หากคู่ใดไร้รักทุกข์ระทม ต้องตรากตรมชอบช้ำกับความเหงา ยามรักมักตาบอดมองไม่เห็น สิ่งที่เป็นความชั่วในตัวเขา ยามชังแล้วด่าได้ก็ด่าเอา บอกเลิกเขาความรักพังทลาย อันความรักก็คล้ายกับดวงตา จะนำพาชีวิตสู่จุดหมาย หากดวงตาเกเรเขี้ยวเขวไป มองไม่เห็นความชั่วอยู่ข้างหลัง รักดีดีรักให้เป็นเห็นถึงอก รักนรกเพราะเงินทองอย่าไปหวัง รักจริงจริงรักแท้อยู่ยืนยัง ฉันแค่หวังรักเธอตลอดไป
23 กันยายน 2547 19:52 น. - comment id 336898
:) มาอ่านค่ะ...ค่อยๆฝึกเสียง สระสัมผัสไปแล้วกันนะคะ
23 กันยายน 2547 20:04 น. - comment id 336908
อ้อ ลืมบอกว่า มาอ่านเรื่องรักคือดวงตา เลยลืม ไปไม่ได้มีตามาดูความหมายกลอนเลยค่ะ .. มาอ่านด้วยความยินดีที่ไปอ่านกลอนน่ะค่ะ
23 กันยายน 2547 20:13 น. - comment id 336914
:) .............................. :)
23 กันยายน 2547 21:15 น. - comment id 336982
ครับ ขอบคุณนะครับที่ติ-ชม
23 กันยายน 2547 21:34 น. - comment id 337006
ยามรักน้ำต้มผักมักจะหวาน แต่พอนานรักสลายกลายเป็นขม เหมือนน้ำตาลทิ้งค้างไว้ให้ต้องลม จึงเกิดเป็นความเพาะบ่มความข่มจริง *-*ชอบค่ะชอบ เห็นด้วยค่ะ*-*
24 กันยายน 2547 06:51 น. - comment id 337176
สวัดีครับ............. ผมเข้ามาอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่แสนดี หาก ผลิใบ ยังอยู่ก็จะคอยให้ความอบอุ่นเช่นนี้ตลอดไป กำลังใจจากข้างในส่วนลึก ไม่ต้องฝึกต้องหามาให้เห็น จะแดดร้อนตอนสายจนบ่ายเย็น จะคอยเป็นกำลังใจให้ดนดี
24 กันยายน 2547 14:30 น. - comment id 337424
ยามรักก็ควรรักให้นานๆ ให้ความหวานนั้นคงอยู่ตลอดไป ดีค่ะ เพราะมากๆๆๆๆๆ