ณ...คืนฝนตก แสงเทียนเหลืองนวลสว่างใส สายฝนโปรยปรายข้างหน้าต่าง กลิ่นไอดินปลิวมากับสายลมจาง จาง ความเหงาเริ่มคลืบคลานเข้ามาในหัวใจ สวัสดี..ความคิดถึง ไม่ได้เจอกัน นานเหมือนกันนะเนี่ย... คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คนไกล อยู่เสมอ คิดถึง แม้ ไม่ได้พบเจอ คิดถึง อยู่เสมอ นะ คนไกล ทำอะไรอยุ่เมื่อฝนตกที่บ้านฉัน อยู่ทางนั้นอากาศเป็นไงบ้าง แย่จังทำไมเราสองคนต้องไกลห่าง อยู่ว่าง ว่าง คิดถึงกัน มั่งนะ คนไกล... ปล.ขับรถระวังด้วยนะ อย่ามัวแต่คุยโทรศัพท์เพลินล่ะ อีกอย่างหนึ่ง อย่าลืมกินข้าวเที่ยงนะ เดี่ยวโดนโรคกระเพาะเล่นงานไม่รู้ด้วย
11 กันยายน 2547 13:44 น. - comment id 329028
อบอุ่นมากครับกับความที่ร้อยเรียง ๚ะ๛ size>
11 กันยายน 2547 21:16 น. - comment id 329286
ป ร ะ โ ย ช น์ ข อ ง วิ นั ย วินัยทั้งทางโลกและทางธรรมรวมกันแล้วทำให้เกิดประโยชน์ คือ ๑. วินัยนำไปดี หมายความว่า ทำให้ผู้รักษาวินัยดีขึ้น ยกฐานะผู้มี วินัยให้สูงขึ้น เช่น เด็กกลางถนน เข้าโรงเรียนมีวินัย กลายเป็น นักเรียน เด็กชาวบ้าน บวชแล้วถือศีล ๑๐ กลายเป็น สามเณร สามเณร บวชแล้วถือศีล ๒๒๗ กลายเป็น พระภิกษุ วินัยเป็นข้อบังคับกายวาจาเราก็จริง แต่เป็นข้อบังคับเพื่อให้เราไปถึงที่ หมายของชีวิตตามความประสงค์ของเราเอง ถือเป็นอานิสงส์ของการมีวินัย ๒. วินัยนำไปแจ้ง คำว่า แจ้ง แปลว่า สว่าง หรือเปิดเผย ไม่คลุมๆ เครือๆ วินัยนำไปแจ้ง คือเปิดเผยธาตุแท้ของคนได้ ว่าไว้ใจได้แค่ไหน โดยดูว่าเป็นคนมีวินัยหรือไม่ ๓. วินัยนำไปต่าง เราดูความแตกต่างของคนด้วยวินัย ยกตัวอย่าง คน ที่ซ่องสุมสมัครพรรคพวกและอาวุธ ไว้สู้รบกับคนอื่น ถ้ามีวินัยเราเรียกว่า กองทหาร เป็นรั้วของชาติ ถ้าไม่มีวินัยเราเรียกว่า กองโจร เป็น เสี้ยนหนาม ของแผ่นดิน คนที่พกอาวุธ เดินปนอยู่ในที่ชุมชนอย่าง องอาจ ถ้ามีวินัยเราเรียกว่า ตำรวจ เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ถ้าไม่มี วินัยเราเรียกว่า นักเลงอันธพาล เป็นผู้พิฆาตสันติสุข คนที่เที่ยว ภิกขาจารพึ่งคนอื่นเลี้ยงชีวิต ถ้ามีวินัยรักษาศีล ๒๒๗ เราเรียกว่า พระ ภิกษุ เป็นบุญของผู้ให้ทาน ถ้าไม่มีวินัยเราเรียกว่า ขอทาน อาจสร้าง ความรำคาญให้แก่ผู้ถูกขอ เราต้องการก้าวไปสู่ความดีความก้าวหน้า เราต้องการความบริสุทธิ์กระจ่างแจ้ง เราต้องการยกฐานะให้สูงขึ้น เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นต้องรักษาวินัย ผู้มีวินัยดี หมายถึง ผู้ที่รักษาวินัยทั้งทางโลกและทางธรรมอย่างถูกต้องและเคร่งครัด ดาบคมที่ไร้ฝัก ลูกระเบิดที่ไม่มีสลักนิรภัย ย่อมเกิดโทษแก่เจ้าของได้ง่ายฉันใด ความรู้ และ ความสามารถ ถ้าไม่มีวินัยกำกับแล้ว ก็จะมีโทษแก่ผู้เป็นเจ้าของได้ฉันนั้น ช่างดาบทำฝักดาบไว้กันอันตราย ช่างทำระเบิดก็ทำสลักนิรภัยไว้เช่นกัน ดังนั้น เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนพุทธศาสนิกชน ให้เป็นคนฉลาดรู้ฉลาดทำแล้ว จึงทรงสั่งสำทับด้วยว่า ต้องมีวินัย +-*-+-*-+ +-*-+-*-+เพื่อคุณพ่อผู้ล่วงลับ+-*-+-*-+ +-*-+-*-+
12 กันยายน 2547 11:53 น. - comment id 329534
รูปสวยจังเลย... รู้สึกถึงความเหงา ที่โน่นฝนตกบ่อยๆจัง... อ่างแก้วคงสวยงามมากเมื่อยามฝนโปรย ... ยิ้มก็ห้าม แย่จริงๆ.. เสียใจยิ้มไปแล้วล่ะ อิอิ --------------------- ... สวัสดีน่ะความคิดถึง ... สวัสดีน่ะ คนไกล
18 พฤศจิกายน 2547 21:46 น. - comment id 373015
Robert TingNongNoi ขอบคุณมากนะค่ะ ที่อุตส่าห์เสียเวลามานั่งอ่านกลอน ขอบคุณนะค่ะ
18 พฤศจิกายน 2547 21:47 น. - comment id 373016
เมกกะ ไงๆๆก้ขอบคุณนะค่ะ ที่เข้ามาโพสข้อความดีๆๆให้ได้อ่าน ขอบคุณค่ะ
18 พฤศจิกายน 2547 21:48 น. - comment id 373018
พันดาว ใครห้ามยิ้ม เค้าห้ามกำนันยิ้มตะหากเล่า ไม่ได้ห้ามพันดาวสะหน่อย ไงๆๆก้แต้งค์นะ ที่เข้ามาอ่าน