..๏ ขอเรียงร้อยถ้อยคำลำนำนี้ ณ คืนที่ฟ้าหม่นคนรักหาย ดุจดวงดาวดับแสงแห่งเรือนกาย เฉกจันทร์ฉายเลื่อนลับมิกลับเยือน โอ้ตัวเราเฝ้าชะแง้แลจันทร์เจ้า ใจโศกเศร้ายิ่งนักใครจักเหมือน แลนภาเมฆหมอกกั้นพลันลางเลือน ปกปิดเบือนมิให้เห็นเช่นเคยมอง โอ้จันทร์เอยเคยชมภิรมย์คู่ บัดนี้อยู่เดียวดายใจกายหมอง ณ ริมฝั่งธาราน้ำตานอง ยังร่ำร้องถวิลหาคราครวญรอ ริมโคนไทรในคืนอันขื่นขม แว่วเสียงลมพัดอู้อดสูหนอ กระทบกายหวั่นไหวไร้ใครคลอ สายลมล้อเสียดไผ่ใจไหวเอน เสียงลู่เรียงพริ้วไหวปานใจนี้ ชอกช้ำทวีเพียงใดใครจักเห็น หนาวสะท้านปานว่าคราลำเค็ญ ประหนึ่งเช่นไร้เดือนดาวสกาวพราย โอ้ว่าไทรไหวโยกเหมือนโศกเสียง ย้ำสำเนียงขื่นขมสุดข่มหาย กิ่งก้านโกรกโยกแกว่งสำแดงกาย สไบชายดูพลิ้วลิ่วลมลอย ยินนกร้องหาคู่กู่ขานเสียง แล้วคลอเคียงบินไปใจกลับหงอย ช่างต่างกับตัวเราเฝ้าหลงคอย กระต่ายจ้อยเทียมเราเศร้าเอกา ขอลิขิตอักษรตอนจิตเหงา คืนที่เราพ่ายพระจันทร์รำพันหา ยามที่อยู่โดดเดี่ยวเปลี่ยววิญญาณ์ ประหนึ่งคนบ่นบ้าอาดูรครวญ ที่ทำได้คือพร่ำไปให้ยินถึง อาจซาบซึ้งกระทบจิตใครคิดหวน จากเศษเสี้ยวความช้ำย้ำกลอนทวน บ่งบอกถ้วนเรื่องจริงอิงสื่อนัย เพราะเสียงแผ่วเพียงลมพรมพลิ้วผ่าน จึงยากขานโน้มจิตมาชิดใกล้ ดุจดาวเดือนลางเลือนเสมือนไกล คงร่ำไห้หมองหม่นทุกข์ทนรอ ๚ะ๛ ...คื น นี้... ...ย า ม ร า ต รี ไ ร้ แ ส ง จั น ท ร์... ...ดั่ ง ใ จ เ ร า นั้ น... ห วั่ น ไ ห ว... ...แ ล ล ม ห ว น...ปั่ น ป่ ว น ใ จ... ...ช่ า ง เ ดี ย ว ด า ย... ไ ร้ เ ดื อ น ด า ว
9 กันยายน 2547 14:11 น. - comment id 327741
คำละเมอเพ้อพร่ำรำพันเศร้า กลางคืนเหงางามโสมส่องโคมฉาย กระซิบสั่งดังคละเสียงพระพาย พาใจหายหากสดับเสียงศัพท์ครวญ ฯ ==================================== แง ๆๆๆๆ เศร้า
9 กันยายน 2547 14:11 น. - comment id 327742
เศร้าจังนะคะ...อ่านแล้วเศร้ามาก ..มาก รีบหาให้เจอนะคะ...
9 กันยายน 2547 14:32 น. - comment id 327754
ุสุดแสนเหงาและงดงามครับ ๚ะ๛ size>
9 กันยายน 2547 14:37 น. - comment id 327757
โอ้จันทร์เอย เคยจ้อง มองจันทร์เจ้า ใยกลับหลบ ไม่เห็นเงา เจ้าจันทร์สวย หรือจันทร์หน่าย แหนงหน้า คนคุ้นเคย ทำละเลย เลือนหลบ กลบแสงจันทร์ ฝากสายลม ที่พริ้วพัด ระบัดไหว บอกคนไกล ใจนี้ สุดเปลี่ยวเหงา ทั้งดาวเดือน เลือนลับ ไม่เห็นเงา ปล่อยคนเศร้า นั่งรอเก้อ ชะเง้อคอย ***แวะมาเยี่ยมเยือนครับ
9 กันยายน 2547 14:56 น. - comment id 327767
ไพเราะครับ
9 กันยายน 2547 15:32 น. - comment id 327783
พริ้วไหวเหมือนมองพระจันทร์คืนแรมเลยครับ
9 กันยายน 2547 19:00 น. - comment id 327883
แวะมาอ่านครับพี่ เพราะมากเลยครับ เมกขออนุญาตเก็บไว้ที่หน้าส่วนตัวนะครับ +-*-+-*-+ +-*-+-*-+ปู้ชายอารมดี+-*-+-*-+ +-*-+-*-+
9 กันยายน 2547 19:50 น. - comment id 327913
เหงา เศร้า บอกไม่ถูกอ่ะค่ะ ขอเก็บด้วยนะคะ
9 กันยายน 2547 23:10 น. - comment id 328034
จับใจในความรู้สึกมากนะคะ ........................................
9 กันยายน 2547 23:30 น. - comment id 328042
.....เหงา ตามคุณอัลมิตราไปด้วยเลย นะเนี่ย
10 กันยายน 2547 03:33 น. - comment id 328076
คำสวย เรื่องเหงา เราต่างโหยหา
10 กันยายน 2547 08:34 น. - comment id 328118
อาหมอ.. โอ๋ๆๆ นะคะ อาหมอ จันทร์มิคืนผืนฟ้าราตรีนี้ ร้าวฤดียิ่งนักใครจักเห็น จึงครวญคร่ำย้ำว่าน้ำตากระเซ็น อย่าหลีกเร้นเลี่ยงหายมิฉายเงา คุณสอยดาว .. ขอบคุณมากค่ะ จะรอ คุณโรเบิร์ต .. แต่ทว่าคนเขียนไม่เศร้านะคะ ยังชื่นมื่นอยู่ค่ะ :) คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. ขอบคุณมากค่ะ เพียงลำพังครั้งนี้ที่คอยหา ชะเง้อมองจันทราว่าอยู่ไหน ยามราตรีที่เหงาปวดร้าวใจ ฤๅดับแสงพิไลไม่ย้อนคืน คุณ ... ขอบคุณมากค่ะ คุณคนผ่านมา .. นึกถึงประโยคที่ว่า .. ฤๅรักฉันจะเป็นเพียงความฝันไม่มีวันนั้น วันที่จันทร์เต็มดวง คุณเมกกะ .. ยินดีค่ะ คุณคนเมืองลิง .. ยินดีเช่นกันค่ะ คุณลี่ .. น้ำตาท่วมคีย์บอร์ดแล้วค่ะ :) คุณรัถยา .. เหงาคนเดียวก็เปลี่ยวจิต เหงาพร้อมมิตรคิดหรือเหงา เหงาด้วยกันปันบรรเทา ก็มิต้องเหงากันต่อไป จ๊ะ คุณเงาพระจันทร์ .. มีเสียงกระซิบถามมาว่า อัลมิตราเศร้าอีกแล้วเหรอเป็นอะไรเศร้า มีอะไรหรือเปล่า อัลมิตราหัวเราะแทนคำตอบค่ะ กลบเกลือน..เนอะ
10 กันยายน 2547 09:14 น. - comment id 328129
ในคืนวันฝันร้างที่กลางหนาว เก็บซ่อนเงาเศร้าซ้อนซ่อนเอาไว้ ฝากเดือนดาวคราวนั้นรำพันไป บอกคนไกลคิดถึงเขาใต้เงาจันทร์ @@@@@@@@@@@@@@ เหงาครับเหงา เหงาจริงๆ ยื่งอ่านยิ่งเหงา
10 กันยายน 2547 09:56 น. - comment id 328152
จำเรือนผมเนียนพริ้วปลิวสยาย ใต้จันทร์ฉายเจ้างามคล้ายอัปสร วันนี้เล่า ไร้เงานวล..กนิษฐ์อร ศศิธร..เปลี่ยวเหงา..เศร้า..เปล่าดาย กลิ่นสุคันธ์ประทิ่นฉมนวลฉวี ประทับที่ ดวงหทัย มิจางหาย พี่ยังรอเจ้ากลับมาเยือนเรือนตาย ร่วมยลจันทร์ก่อนลับหายสู่ทิวา
10 กันยายน 2547 09:57 น. - comment id 328155
จำเรือนผมเนียนพริ้วปลิวสยาย ใต้จันทร์ฉายเจ้างามคล้ายอัปสร วันนี้เล่า ไร้เงานวล..กนิษฐ์อร ศศิธร..เปลี่ยวเหงา..เศร้า..เดียวดาย กลิ่นสุคันธ์ประทิ่นฉมนวลฉวี ประทับที่ ดวงหทัย มิจางหาย พี่ยังรอเจ้ากลับมา..เยือนเรือนตาย ร่วมยลจันทร์ก่อนลับหายสู่ทิวา
10 กันยายน 2547 13:30 น. - comment id 328325
เพราะจับใจ จริงๆ สวยงามาก...
10 กันยายน 2547 16:25 น. - comment id 328474
คุณเรไร .. ขอบคุณมากค่ะ คืนที่เราเดียวดายใจหม่นหมอง เฝ้าร่ำร้องถึงจันทร์รำพันหา การรอคอยที่ยากไร้ใครนำพา จะโน้มโค้งขอบฟ้าพาเดือนเคียง คุณแสนย์.. ขอบคุณค่ะ เคยเคียงชมดาวเดือนดุจเพื่อนสม ท่ามสายลมแผ่วผ่านขับกานท์ใส กลับอ้างว้างวังเวงบรรเลงไป เขาอยู่ไหนมิเร้นฤๅเห็นเงา กลิ่นสุคนธ์กรุ่นไอให้โศกศัลย์ ดุจรักนั้นดับสิ้นจินต์จึงเหงา แลดาวเดือนหมายเพื่อนเคลื่อนบรรเทา กลับยิ่งเศร้ามองไปไร้ดาวเดือน คุณพันดาว .. ขอบคุณมากค่ะ :)
13 พฤศจิกายน 2547 19:00 น. - comment id 369587
สาวดำ มาอ่านกลอนนี้ ตอนร้องให้นะคะ หวังว่า คงไม่ว่ากันนะคะ.... กะแค่..คนที่เคยดูจันทร์ ด้วยกันเค้าคงไม่มาดูด้วยอีกแล้ว ต่อแต่นี้กะคงม่ายอยากดูแล้วหล่ะค่ะ..กลัวพ่ายจันทร์ค่ะ