ได้ยินเสียงเพลงคลื่นสะอื้นไห้ มองออกไปนอกหน้าต่างคว้างสับสน เสียงประตูปึงปังดังวกวน ฉันอดทนฟังเสียงร้องของโคมไฟ แพรผ้าม่านขานชื่อเธออย่างเพ้อพร่ำ เสียงแก้วน้ำเอ่ยเอื้อนเหมือนร่ำไห้ ทั้งโต๊ะเตียงเสียงสั่นอัดอั้นใจ กลีบดอกไม้ซบหน้าน้ำตาริน ตู้ปิดฝาระริกสั่นกลั้นสะอื้น พัดลมยืนเข่าทรุดสุดถวิล โมบายหยุดเคลื่อนไหวไม่ให้ยิน ส้อมด่าวดิ้นร้าวรอนข้างช้อนชา โต๊ะเข่าอ่อนทรุดนั่งข้างเก้าอี้ แผ่นซีดีหมุนเคว้งเป็นเพลงบ้า หมอนเจ็บปวดอย่างสงบซบโซฟา ผ้าปูเตียงมีน้ำตาเลอะที่นอน น้ำเสียงเพลงดนตรีเล่นคีย์เพี้ยน น้ำตาเทียนหลั่งไหลอย่างไหวอ่อน น้ำยาแอร์รินหล่นจนเปียกปอน น้ำตาฉันเปรอะหมอนนอนฟูมฟาย พยายามทำใจให้อดกลั้น สิ่งแวดล้อมยังไหวหวั่นคนขวัญหาย ยอมรับว่าการทำใจใช่ง่ายดาย เมื่อข้างกายฉันนี้ไม่มีเธอ ไม่ควรเลยไม่ควรรักมากเช่นนี้ ไม่ควรรับไมตรีที่เสนอ เธอเข้ามาแล้วจากไปทั้งใจเธอ ทิ้งฉันเพ้อในป่าช้าความทรงจำ เหมือนถูกฝังในหลุมลึกความนึกคิด ร้อนชีวิตดังเพลิงเผาทุกเช้าค่ำ ใจเบาบางด่างพร้อยเป็นรอยดำ เมื่อเธอถอนถ้อยคำเคยรำพัน ทุกรอยร้าวฝาผนังยังซึมซับ เก็บเสียงเธอไว้กับภาพความฝัน สิ่งแวดล้อมจึงปวดร้าวราวนิรันดร์ ทำให้ฉันไม่เป็นตัวของตัวเอง
23 สิงหาคม 2547 20:21 น. - comment id 315409
หมดคำใดจะเอื้อนเอ่ย เหอๆ..แต่งได้กินใจดีนะเจ้าคะ..มาทักทายเป็นจิ้งจกกะเค้าซักกะหนอ่ยน่ะ..
24 สิงหาคม 2547 10:34 น. - comment id 315873
ถ่ายทอดความรู้สึกของความร้าวลึก ทรมานออกมาได้อย่างงดงามมีตัวตน ๚ะ๛ size>
24 สิงหาคม 2547 11:52 น. - comment id 315900
....แต่งได้สะเทือนอารมณ์มาก...เล่าได้อย่างหมดใจว่ารู้สึกอย่างไร...นับถือจริงๆเลยค่ะ ....อย่างนี้แหล่ะนะ...ความรัก...อย่าท้อนะคะ... ....เพราะพรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว ^ ^
6 กันยายน 2547 13:02 น. - comment id 325287
:)