ลมโชยมาก็หนาวเหน็บเหมือนเจ็บหนัก กิ่งไม้หัก...สะดุ้งไหว...ทำใจเสีย ฟ้าโปรยปรายเป็นหยาดฝนหล่นคลอเคลีย ช่วยลบเลียความเศร้า...เราชั่วยาม เสียงครืนครืน..ตกใจตื่นทั้งลืมตา ขวัญผวา...วิ่งหลบพบคำถาม มาจากใจ..ไม่อยากตอบชอบติดตาม ยังคุกคามถามเรา..ให้เศร้าใจ ฟ้าหลังฝนกลับสดใสใหม่อีกครั้ง ฉันเหมือนนกที่กลับรัง...ยังไม่ไหว ค่อย ๆ บิน ค่อย ๆ เกาะ...ลัดเลาะไป หนทางกว้าง..ยังอีกไกล..ในปลายทาง
23 สิงหาคม 2547 14:24 น. - comment id 315238
ใช้ภาษาได้นุ่มนวลแนบเนียนมากครับ อ่านแล้วสัมผัสถึงความไพเราะได้จับใจ ๚ะ๛ size>
23 สิงหาคม 2547 16:44 น. - comment id 315322
ใจหายไปเลยครับ ยังเขียนได้เยี่ยมเช่นเคยครับ. ขออภัยที่ฝากกลอนที่เขียนวานนี้ไว้ครับ ล่วงกาลผ่านวานนั้นจนวันนี้ ทุกข์ที่มีทั้งสิ้นจึงเสี้ยมสอน ว่าชีวิตใช่งดงามดั่งละคร ดีดั่งตอนที่สุขสนุกใจ เมื่อชีวิตมีเรื่องราวก้าวผ่านพบ มีทุกวันงามสงบก็หาไม่ ต้องมีบ้างทางลงเหวฝ่าเปลวไฟ และวันใจแหลกยับกับวันวัย เมื่อมีสุขวันทุกข์ก็ปล่าวแปลก วันใจแหลกความสุขก็ร่ำไห้ วันใจท้อความทะนงก็ปลงใจ จะมีวันแห่งชัยบ้างไหมหนอ จึงร่ำร้องเรียกหาวันที่ว่า เท่าที่ใจปรารถนาจะร้องขอ ก็หมายกันหมายใจใฝ่หมายรอ เพื่อหลุดบ่วงที่ถ่วงท้อทอดวงใจ ประสบการณ์ทุกข์สิ่งที่เสี้ยมสอน ในวันใจร้าวรอนและอ่อนไหว วันใจช้ำร่ำไห้วันพ่ายใจ แท้ทั้งที่เจ็บเจียนตายก็ลำพัง กาลนี้ผ่านมาถึงวันอันแตกดับ ไปพร้อมกับดวงใจสิ้นสูญหวัง ที่ใจหมายมาแหลกยับกับวันพัง ไม่เหลือทั้ง..ใจอยากสั่งให้เข้มแข็ง
24 สิงหาคม 2547 00:28 น. - comment id 315701
เพราะดีครับ เขียนอีกนะครับ