ไทรเอยไทรโศก ลมโกรกโยกคลอนทั้งกิ่งก้าน ใบลู่บ้างรวนคล้ายลนลาน ขับขานรันทดหาใดเทียม หนาวเนื้อเหน็บในหทัยแท้ คงแต่คำนึงถึงเจ้าเรียม เห็นไทรไหวเอนโอ้อกเจียม แต่เปี่ยมใจภักดิ์สิเนหา ลมพลิ้วเพรียกแผ่วอีกแล้วหนอ ใคร่ขอพักพิงอิงพฤกษา ฝากเอยพระพายจงพัดพา แจ้งตรมอุราเกินข่มแล้ว ฤๅน้องนวลงามทรามวัยเจ้า คงเคล้าคลอเคียงคู่ขวัญแก้ว ลืมเลือนคนไกลไร้วี่แวว ไม่แคล้วดับดิ้นสิ้นใจเอย
24 กรกฎาคม 2547 00:03 น. - comment id 301894
...สวัสดียามรัตติกาลค่ะ.. ...วันนี้...อัลมิตรามีโอกาสได้ฟังสำนวนเพลงขับในสมัยโบราณ... ...ซึ่งอัลมิตราเองไม่คุ้นเคยเท่าใด...แต่หากนำมาขับกล่อมแล้ว... ...ชวนน่าฟังยิ่งนัก... ...ส่วนที่อัลมิตราได้ฟังนั้น... ...เป็นบทที่พรรณาชื่นชมจากชายผู้หนึ่งถึงหญิงคนรัก... ...แสนไพเราะเหลือเกิน...น้ำเสียงของผู้ขับกล่อมก็แสนเยือกเย็นวังเวงใจ... ...และได้ทราบว่า..ในละครเรื่อง... ฟ้าใหม่ ทางช่องเจ้ดก็มีการขับเพลงนี้เช่นกัน... ...อัลมิตราเอง...เลยลองเขียนเพลงขับนี้บ้าง..เอาไว้กล่อมตัวเองค่ะ... ...เนื้อหาไม่น่าชวนฟังเท่าใด...เพราะออกจะดูโศกเศร้า... ...และท่านผู้อ่านอย่าด่วนถามว่า..อัลมิตราเขียนบทขับนี้...มีที่มาที่ไปเช่นไร... ...เพียงแค่นึกถึงเพลงขับโบราณ...ของไทย ๆ ... ...เลยนำฉันทลักษณ์ที่ได้ยินมา...บรรยายความรู้สึกบางเศษเสี้ยวบ้าง... ...ก็เท่านั้นเอง... ...ลองทำเสียงตามไป...นะคะ...เผื่อจะได้จำไว้กล่อมเด็กๆ... ...ยามให้เขาเหล่านั้นนอนหลับใหล... ...อัลมิตราเองลองทำเสียงกล่อมเหมือนกัน...แม้ว่าไม่ถนัดนัก... ...แต่ก็ได้อารมณ์ที่แปลกไป...ในยามฝนพรำในยามที่วังเวงใจเช่นนี้... ...มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
24 กรกฎาคม 2547 04:38 น. - comment id 301901
ขับไม่เป็นนะครับ จะทำอย่างไร
24 กรกฎาคม 2547 08:40 น. - comment id 301916
ทิ้งดอกโศกบานคาโลกอย่าสิ้นหวัง ดอกพลังความดีคลี่หอมใจมาลัยขวัญ หยาดน้ำใจปันสายใยรักจากใจจันทร์ มาลัยขวัญมะลิคล้องครองรัดรึง.. คารวะแด่เธอหญิงคนกล้า หาญทายท้ารจนางานแสนหวานซึ้ง หนึ่งในร้อยให้ร่มรักหวานตราตรึง เป็นคะนึงเป็นมิตรภาพตราบสิ้นฟ้า... มากอ้อมใจอ้อมรักคอยปกป้อง คนหมายปองมากหลายหมายห่วงหา ปิดประตูใจไยเล่าเจ้าดวงตา คนรู้ค่ามากมีที่รักใจที่รักจริง... ปลูกดอกรักสักกอชูช่อฝัน ทุกคืนวันแตกกอต่องามยิ่ง ให้โลกรักบรรเจิดใจจริงกว่าจริง ทุกสรรพสิ่งนิ่งอวยพรอรชรอัลมิตรา.. ด้วยรักล้นใจ พี่พุด.. อยากแต่งบ้างค่ะและ คิดถึงคำ ไทรเอยไทรงามทรวงข้าหวามระทม รอยเชยรอยชมยังบาดอารมณ์อาลัย
24 กรกฎาคม 2547 08:47 น. - comment id 301917
ชอบภาพงามข้างบนมากค่ะ อยากเห็นใครบางคนเป็นเจ้าสาว แต่งงามแบบนั้นจังค่ะ รักนะ
24 กรกฎาคม 2547 09:38 น. - comment id 301925
เศร้าจังเลยครับ ศิษย์พี่ อรุณสวัสดิ์นะครับ คิดถึงศิษย์พี่จังเลยครับ :)
24 กรกฎาคม 2547 10:08 น. - comment id 301930
ไทรเอยไทรงามเจ้างามหลือ นวลเนื้อเหน็บในหัวใจหวิว ลมพลิ้วเพรียกแผ่วเป็นแถวทิว โอ้น้องปลิดปลิวไปตามลม ลอยไปกับสายลมยากจะคืน อิอิ
24 กรกฎาคม 2547 18:24 น. - comment id 302009
กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชื่นชมในผลงานนะค่ะ
24 กรกฎาคม 2547 19:37 น. - comment id 302039
มาครับ กดส่งหาย..ท่าจะเขียนนานเกินไป.. ขึ้นไว้ว่า โศกใดในโลกมิโศกเท่า.... แต่คนละความหมายกับบ้านข้างนอกนะ..เขียนใหม่ก็ลืมแล้ว...รักษาสุขภาพนะครับ..สวัสดี..
25 กรกฎาคม 2547 02:27 น. - comment id 302150
สวัสดีครับและขอคารวะด้วยใจครับ คนที่ถ่ายทอดอารมณ์ตนเองในขณะนั้นให้เป็นเพลงขับ ทั้งที่คุณอัลมิตราบอกว่าได้ยินเป็นครั้งแรก และไม่คุ้นเคยเลย แต่กลับรจนาได้อย่างงดงาม ถือว่าเป็นใสสะอาดของจิตใจครับ เพลงขับเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของวิถีคนไทยแต่โบราณ เห็นได้ว่ากระทั่งเพลงกล่อมเด็ก ก็แสนจะเรียบง่าย แต่พร้อมไปด้วยถ้อยคำและสำเนียงที่สละสลวย ที่สำคัญคืออารมณ์ครับที่ถ่ายทอดมาในน้ำเสียง เพลงขับของคุณอัลมิตราเศร้าสร้อยมากครับ ตัวอักษรที่ปรากฏ เหมือนจะปรารภกับความหม่นของหัวใจตนเอง
26 กรกฎาคม 2547 08:51 น. - comment id 302326
เหมือนเข้าไปอยู่ในสมัยโบราณเลยทีเดียว เพลงขับ..บทที่พี่อัลมิตราเขียน ได้ไพเราะจริงๆค่ะ นานๆแวะมานะคะ คิดถึงพี่ค่ะ
1 สิงหาคม 2547 13:48 น. - comment id 303912
ขอบคุณมากค่ะ ทุกๆคน .. คุณขนมน้อย คิดถึงเช่นกัน ค่ะ
4 สิงหาคม 2547 23:07 น. - comment id 306221
งามครับ ไม่เหมือนกลอน แต่ก็คล้ายนะครับ ผมขับไม่เป็นเสียด้วย แต่อ่านเป็นเนื้อความได้ไพเราะครับ
26 สิงหาคม 2547 22:22 น. - comment id 317299
ขอบคุณมากค่ะ คุณคนผ่านมา .. :) ขออภัยที่ตอบช้าไปมากๆ ค่ะ เพิ่งได้มีโอกาสย้อนกลับมาดูกระทู้เก่า ๆ ค่ะ