สานสายตาพาใจให้ไหวหวั่น ตาคู่นั้นคมขำดำสุกใส ประกายเปล่งเพ่งมองจ้องเรื่อยไป ดุจดาวใสเดือนส่องต้องราตรี แค่ได้พบสบตาพาฉันเคลิ้ม เหมือนรักเริ่มก่อร่างสร้างสุขี ดวงใจฉันพลันแตกแหลกเต็มที มิอาจหนีเมินหน้าลาจากไกล ฝืนใจหลบจบลงคงดีกว่า หยุดสายตาส่งต่อรอไม่ไหว เธอคงอยู่คู่เขาต้องเข้าใจ รักมิใช่แค่ชมสุขสมกาย แล้วเธอนั้นพลันเดินเพลินไปเรื่อย สายตาเฉื่อยฉันเพ่งเล็งไม่หน่าย เธอหันหน้ามาสยบสบขวาซ้าย ใจเลิกส่ายแม้สั่นหยุดฝันรอ 31 พฤษภาคม 2547
31 พฤษภาคม 2547 20:00 น. - comment id 277739
แวะมาทักพร้อมมีกำลังให้ เป็นแรงใจส่งถึงคุณคนเขียน ขอให้มีผลงานที่พากเพียร เป็นงานเขียนที่นิยมคนชมเชย ^^--^^ ^^--^^
31 พฤษภาคม 2547 22:22 น. - comment id 277813
สานสายตาพาใจให้ไหวหวั่น เธอกับฉันจัองมองคล้องดวงจิต ทำให้ตาสบตาพาใจชิด แนบสนิทชิดใกล้ในสายตา *-*กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ*-*
1 มิถุนายน 2547 05:26 น. - comment id 277940
กระไรเลยเฉยแล้วพี่แก้วจ๋า เพียงสบตาไม่น่าหลบสยบหาย รักเพริดพริ้งอิงแอบคงสบาย เกิดเป็นชายหมายรักจักสมควร แวะมาชื่นชมผลงานค่ะ
1 มิถุนายน 2547 07:20 น. - comment id 277976
อื้อฮื้อออพี่ที ทำหวานแหว่ว มัทขอแซว ซักหน่อย จะได้ไหม เป็นอะไร แต่งกลอนหวาน บันดาลใจ หรือรักใหม่ บังเกิด ขึ้นในทรวง พี่ทีแต่งกลอนเพราะจังค่ะ ชอบมาก ๆ ค่ะ
1 มิถุนายน 2547 09:35 น. - comment id 278011
รักใหม่คงไม่บังเกิดหร็อก แต่แอบดูรักของคู่อื่นไง อย่างเช่นรักหวานแหววระหว่าง Sunstrom กับ พายุ สุริยะ แล้วก็เอามาแต่งเป็นกลอน สร้าง inspiration ได้ดีนักแล
1 มิถุนายน 2547 13:11 น. - comment id 278133
สานสายตาสู่หัวใจ เมียงมองมาพิศมัยสู่วัยหวาน สานความรักสู่อ้อมตักพิมาน คือหนึ่งสะพานสานสายตาสู่หัวใจ... มาเยี่ยมนะครับ *-* บทกลอนไพเราะเหมือนเดิมนะครับ.. คิดถึงมาก ๆ ด้วยล่ะครับ
2 มิถุนายน 2547 21:16 น. - comment id 279050
สานสายตาสบจ้องมองพินิจ ไม่เบนบิดอยากชิดใกล้คะนึงหา เพียงได้มองมองเธอสุขอุรา อยากหนักนาที่จะได้มาจับจอง เเต่งเพราะมากคับ กร