กาลครั้งหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ ท่ามกลางความอบอุ่นของปุยเมฆกลางฟ้าใส ไอหมอกเรียงรายทอดกายโอบกอดทั่วผืนฟ้า บดบังสายตาที่เฉยเมยจากพืชพันธุ์สู่เบื้องบน แสงอบอุ่นขาวนวลคู่ควรพืช พยายามชักชวนเติมพลังให้พืชเริงร่าอยู่ร่ำไป หากแต่เพียงสาดแสงไร้แรงกล้า ไม่แกร่งกล้าฝ่าดงหมอกแสนบอบบาง ฤดูกาลผ่านพ้นไป พืชผลิใบแทรกผ่านหมอกขาวบาง เชิดชูกิ่งแผ่ก้านเปิดรับความอบอวลผ่านเมฆหมอก สัมผัสไออุ่นของชีวิตซึมซาบความอบอุ่นเหนือผืนฟ้า เอิบอาบซาบซ่านลบซึมเซาของใบเฉา พืชต่ำต้อยลบปมด้อยเชิดชูใบสู่ฟ้าใส หวังยอดใบเอื้อมสัมผัสรักอบอุ่นเหนือฟากฟ้า ปลดลำต้นปล่อยใบชูไสวตามแสงเรืองค้าง แต่แล้ว ฤดูกาลอันอบอุ่นช่างแสนสั้น แสงสว่างไสวต้องมนตร์ฤดูกาลจำลาจากฟ้าไป เปิดโอกาสให้พืชพันธุ์ที่ตาบอดจากแสงอันเจิดจ้า ลู่รอยยิ้มพิมพ์ใบงามจุมพิตผืนดินที่เฝ้ารอคอยตลอดมา สายสัมพันธ์เหนี่ยวรั้งอันยุ่งเหยิงจากรากแก้วใส ผสานกลับคืนวันสดใสจากเบื้องหลังสู่พืชพลัน ส่งสายน้ำความชุ่มฉ่ำหล่อเลี้ยงความเชื่อมั่นผ่านคืนวัน ปล่อยคืนฝันให้ฟ้าหมองโปรยปรายหยาดน้ำตา หากยังคงเหม่อมองละอองใสจากฟากฟ้าอย่างเงียบงัน คิดถึงวันฟ้าอบอุ่นโอบอุ้มต้นกล้าผู้โดดเดี่ยว หมดหนทางคืนฟ้าใสใจเบิกบาน ขอจดจำแค่คืนวานของสองเราตลอดกาล เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง !!! ฟ้าเงียบงัน ตัวกลิ้งหลุนเกาะขอบใบคว้าเยื่อใยสุดกำลัง แหงนหน้ามองเส้นขอบฟ้าไกลแสนไกล ทำหน้างงคิ้วบูดเบี้ยวเสียรูปทรง ถามตามตรงนี่แค่ฝัน ฉันละเมอ หรือเพ้อไป ฟ้ามืดครึ้มเงียบงันไร้เงาจันทร์ ตะโกนถามย้ำออกไปรู้บ้างไหม ฉันฝันถึง เงี่ยหูฟังสุดขอบใบกลางความมืด ฟ้าไม่ตอบบอกเป็นนัยใครคือคุณ หยาดน้ำค้างลื่นไถลร่วงกระทบปรายแสงดาว ทิ้งประกายร่างแพรวพราวกราวสู่ดิน ลบภาพฝันแตกสลายร่างกระจาย หมดคืนวันฝันสวยงาม น้ำตาใสซับผืนทราย จางหายไป **ปราศนาการ (Dreamless) April 09, 2004 23:05
9 พฤษภาคม 2547 19:07 น. - comment id 264391
ธรรมชาติเป็นสิ่งสวยงาม ยามที่เราได้สัมผัส ยิ่งความรักอบอุ่นยิ่งนัก ยามได้สัมผัสชิดใกล้ *-*แวะมาทักทายค่ะ*-*
9 พฤษภาคม 2547 19:25 น. - comment id 264412
ธรรมชาติ สรรสร้างสิ่งสวยงาม เราควรดูแลและให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไปนะค่ะ
9 พฤษภาคม 2547 22:25 น. - comment id 264617
ชอบภาพน้ำค้างข้างบนจัง** แวะมาทักทายค่า ** ^____________^ **