..๏ ยามขลุ่ยครวญพญาโศกให้อกหวั่น แว่วรำพันผ่านเสียงสำเนียงหมาย ด้วยคำนึงห่วงหาคราเดียวดาย ถูกทักทายด้วยเศร้าเข้าเยี่ยมเยือน ปากบรรเลงเพลงแผ่วใจแน่วแน่ นิ้วเปลี่ยนแปรเป็นเสียงเยี่ยงเชือดเฉือน พญาโศกคร่ำครวญรัญจวนเตือน ดั่งเค้าเงื่อนความหมายให้ตรอมตรม ครั้งเก่าก่อนนอนแนบแอบอิงตัก พร่ำคำรักเพลงหวานพลันสุขสม เป่าขลุ่ยกล่อมคราวใกล้ให้อภิรมย์ ยังพลั้งชมเชยเจ้าดั่งเย้ายวน นิ้วบรรเลงเสียงเสนาะไพเราะแล้ว คงไม่แคล้วหันหน้ามาเสสรวล เป่าเป็นเพลงลาวดวงเดือนเหมือนเชิญชวน ฟังถ้อยถ้วนแห่งจิตติดตรึงตรา สิ้นสำเนียงหมายกล่อมถนอมเจ้า ยังใฝ่เฝ้าร่ายนิยามตามภาษา ชมหมู่ดาวพราวเด่นเพ็ญนภา จำนรรจาเป็นกวีที่เปรียบเปรย สายลมเย็นแผ่วผ่านพลันหวั่นไหว พลั้งเผลอใจหลงอดีตโอ้จิตเอ๋ย แท้ความจริงอ้างว้างดั่งเช่นเคย ลมรำเพยให้ตื่นฟื้นจากภวังค์ พญาโศกคงความย้ำความโศก ดั่งลมโกรกพัดให้อาลัยหวัง ด้วยคำนึงครวญคร่ำพร่ำลำพัง อันความหลังรบเร้าเฝ้าหลอกใจ แม้นพลัดพรากจากไกลไม่หวนกลับ ยามตื่นหลับยังหวังดังฝันใฝ่ เกินหักห้ามสิเนหาและอาลัย ด้วยเยื่อใยผูกพันนิรันดร์กาล ๚ะ๛
26 เมษายน 2547 00:34 น. - comment id 254211
มาชื่นผลงานนะ ถ้ามีเวลาอะ เพราะไม่เคยสร่างแม้เวลาล่วงเลยที่เคยชม
26 เมษายน 2547 03:27 น. - comment id 254230
ขลุ่ยบรรเลงเพลงหวาน...ห้วงกาลก่อน เสียงสะท้อนแว่วไหว...สู่ปลายฝัน แทนคำเอ่ยห้วงนัย...ก่อนไกลกัน ...เนิ่นนานดูดดื่ม...ไม่ลืมเลือน...
26 เมษายน 2547 06:26 น. - comment id 254244
บทกวี ..ที่ลงตัวที่สุด นะคะ.. เรนแวะมา ..ชื่นชม .. งาน ..ของพี่อัลมิ .. งดงาม.. ทั้งคำ ..ที่สัมผัส.. และความหมาย..
26 เมษายน 2547 06:39 น. - comment id 254247
ขลุ่ยครวญคร่ำรำพึงถึงใครเล่า? จะครวญคร่ำร่ำร้าวถึงเช้าหรือ ครวญจนสิ้นชีวาลงคามือ พญาโศกโศกคือเพลงครวญแท้ ผู้จากไกลไปสู่นิรันดร์ภพ เสียงครวญทบทวีหาเกินกว่าแก้ ยินขลุ่ยเพรียกอาลัยในดวงแด ขอเพียงแต่คนที่ครวญอย่าหวนมา!!! (กลัวผีหลอกเน้อ) กลอนเพราะมากครับ
26 เมษายน 2547 06:54 น. - comment id 254253
แต่งดีมีเสนห์ ร้อยเล่ห์คำคม จากใจชื่นชม สุขสมภิรมณ์หมาย เขียนได้ดีนะครับจะคอยเป็นกำลังใจต่อไปนะ
26 เมษายน 2547 09:09 น. - comment id 254282
ไพเราะจังค่ะ **____** หยี่มาชื่นชมผลงานด้วยคนนะคะ
26 เมษายน 2547 09:17 น. - comment id 254283
ขลุ่ยครวญค่ำร่ำไห้ใจจะขาด เนื้อเพลงพาดพิงฉันวันเศร้าหมอง ได้ยินเพลงบรรเลงพลิ้วผิวทำนอง น้ำตาต้องตกมาน่าเศร้าจริง
26 เมษายน 2547 09:46 น. - comment id 254296
... ไพเราะค่ะ ...
26 เมษายน 2547 11:03 น. - comment id 254351
อ่านแล้วเหมือนกับได้ยินเสียงขลุ่ยแว่วๆมาเลยครับ คนที่มีอารมณ์สุนทรีย์จะโศกเศร้าก็ไม่วายเค้นออกมา เศร้าครับ เศร้า
26 เมษายน 2547 12:51 น. - comment id 254394
ขลุ่ยครวญอารมณ์เศร้า โศกและเหงาเข้าถาโถม เพลงขลุ่ยจะประโลม ทุกข์รุมล้อมสู่ขั้วใจ
26 เมษายน 2547 12:59 น. - comment id 254399
พญาโศกเหมือนโยกคลอนสะท้อนไหว ให้จิตใจเหว่ว้าคราได้เห็น คนที่รักครวญหาว่าลำเค็ญ สิ้นใจแล้วแม่เนื้อเย็นเพ็ญสิ้นไป เมื่อกายห่างจากไกลใจดวงนี้ สุดเหลือที่ใจของพี่จะรับไหว จึงได้คร่ำครวญไฝ้หาโอ้อาลัย ถึงวันนี้เจ้าคงไกลใคร่จากจร
26 เมษายน 2547 13:05 น. - comment id 254401
เสียงขลุ่ยคลอขับขาน ส่งเสียงหวานแว่วหวั่นใจ พร่างพรมสายลมไกว ยิ่งคลั่งไคล้ให้ระทม
26 เมษายน 2547 13:45 น. - comment id 254429
เสียงขลุ่ยฟังแล้วไพเราะดีนะคะ ชอบค่ะ
26 เมษายน 2547 14:45 น. - comment id 254488
....ไพเราะมากจ้ะ
26 เมษายน 2547 15:42 น. - comment id 254561
เครื่องดนตรีที่ให้อารมณ์แก่คนฟังได้มากที่สุด .. ผมคิดว่าเป็นขลุ่ย
26 เมษายน 2547 16:02 น. - comment id 254586
คุณแม่จิตร .. ขอบคุณมากค่ะ นายดอกไม้ .. ยินขลุ่ยครวญหวลไห้อาลัยยิ่ง เพลงพาดพิงดั่งใครคล้ายเพรียกหา ผะแผ่วพร่ำตอกย้ำช้ำพรรณา หวิวอุราสะท้านใจให้ระทม เสียงโหยไห้ใจร้าวยิ่งเศร้านัก เกินจะหักจิตห้ามความขื่นขม ผู้ใดหนอคลอขลุ่ยไปดั่งใจตรม นิ้วจึงพรมบรรเลงเพลงโศกครวญ น้องเรน ..ขอบคุณมากค่ะ คุณโกฏิดารา.. พญาโศก..โศกจริงยิ่งกว่าโศก แสนวิโยคปวดปร่าคราคิดหวน เพลงตอกย้ำช้ำใจให้รัญจวน บ่งบอกถ้วนความหมายคล้ายโศกตาม ลาวดวงเดือน.. เคยเอื้อนทำนองกล่อม พรอดพร่ำหอมนงเยาว์เคล้าใจหวาม นั่นเดือนเพ็ญสุกศรีราตรียาม เพลิดเพลินท่ามมวลดาวพราวพิไล คุณผลิใบสู่วัยกล้า .. ขอบคุณมากค่ะ คุณกำมะหยี่ .. ขอบคุณค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก ค่ะ คุณนกตะวัน .. เพลงโศกดั่งพญาโศกวิโยกเศร้า เทียบความเฉาอับปางทางรักให้ จึงคลอขลุ่ยหวังเพียงเสี่ยงดวงใจ เผื่อมีใครคิดฟังความหลังเดิม คุณห้องฝัน .. ขอบคุณค่ะ คุณคนผ่านมา ..ขอบคุณมากค่ะ อัลมิตราเป่าขลุ่ยเป็นนะคะ คุณเป่าเป็นมั๊ย คุณดินสอ .. ลมพัดเมฆหมอกไปให้ไกลคว้าง ท่ามฟ้ากว้างจะรั้งดั่งไฉน คนที่เคยเฝ้าภักดิ์ปักหทัย ก็ลอยไปมิกลับ...ดุจลับตา ยัยไหม.. ขลุ่ยครวญคร่ำว่าช้ำตอกย้ำนัก เกินห้ามหักดวงจิตคิดไหวหวั่น เพลงอ้างถึงคำซึ้งรำพึงรำพัน ลาวดวงเดือนเสมือนฝันวันดื่นดาว คุณชัยชนะ .. อดีตที่เคยหวานวันวานซึ้ง ยังคำนึงเพรียกพร่ำดุจย้ำหา หากเป็นเพียงแค่เงาเศร้าวิญญาณ์ จะไขว่คว้าก็ไกลในความจริง หนที่ยาวไกลในภายหน้า ประดุจพายุกรายร้ายอย่างยิ่ง จะถอยหลังหยั่งเชิงหาเพิงพิง ก็ไร้สิ่งพึ่งพามาเยียวใจ คุณตฤณ .. ขอบคุณมากค่ะ คุณวสุนทรา .. ขอบคุณมากค่ะ คุณวิจิตร .. ค่ะ อัลมิตราก็คิดเช่นนั้นค่ะ .. อัลมิตรามีขลุ่ยอยู่หนึ่งเลา เขาให้มาเมื่อสองปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นตอนเป็นเด็ก ก็ได้เรียนวิชาดนตรี ชอบขลุ่ยกว่าเครื่องดนตรีชนิดอื่นๆ บ่อยครั้งเมื่อเดินทางไกล จะพกพาไปด้วยเสมอ ในยามเหงาๆก็จะหยิบขึ้นมาเป่า แต่แปลกจริง ! เวลารื่นเริง ไม่ค่อยได้หยิบขลุ่ยขึ้นมาเป่าเลย ..
26 เมษายน 2547 16:37 น. - comment id 254632
อย่าเกรงว่าจะต้องอ้างว้าง หรือโศกเศร้าไปเลย...น้องหญิง ผมบอกคุณแล้วงัย ... ว่าผมจะไม่ปล่อยให้คุณยืนอยู่เพียงลำพัง ข้างๆคุณจะมีผมอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ตราบวันสุดท้ายแห่งลมหายใจ ลำพังผมเองคงไม่หวานซึ้งขนาดนั้นหรอกครับ แต่นี่จำคำเขามาเล่า เพราะเพิ่งดูหนังจบ... คำพูดของนายหรั่ง....สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย น่ะครับ... ยืมเค้ามา คงไม่ว่ากันนะ อิ อิ
26 เมษายน 2547 20:20 น. - comment id 254787
เสียงขลุ่ยครวญเกินกล่ำดับความเศร้า โอ้ตัวเราเปล่าเปลี่ยวเดี๋ยวดายหนอ เคยมีเจ้าชิดใกล้พะเน้าพะนอ เคยเคล้าคลอลืมสิ้นถวิลครวญ... **--** ชอบเสียงขลุ่ยค่ะ แต่ว่าฟังแล้วก็อารมณ์เศร้าๆๆๆ...
26 เมษายน 2547 20:54 น. - comment id 254805
เพราะจังเลยแต่งเก่งจังคะ ขลุ่ยแว่วมาพาใจให้หวั่นไหว เพลงบาดใจให้คิดถึงวันนั้น อยากกลับไปทบทวนคืนและวัน ที่สุขสันต์ ช่างยาก ยิ่งเหลือใจ
26 เมษายน 2547 20:55 น. - comment id 254806
เพราะจังเลยแต่งเก่งจังคะ ขลุ่ยแว่วมาพาใจให้หวั่นไหว เพลงบาดใจให้คิดถึงวันนั้น อยากกลับไปทบทวนคืนและวัน ที่สุขสันต์ ช่างยาก ยิ่งเหลือใจ
26 เมษายน 2547 23:14 น. - comment id 254901
ขอบคุณค่ะ คุณศศิชนก คุณน้ำใส คุณปะการังสีเงิน .. :) งามในความหมายค่ะ
27 เมษายน 2547 00:25 น. - comment id 254940
...เสียงครวญคร่ำทำนองเศร้าของขลุ่ย กล่อมเจ้าทุยเรื่องเล่าของเจ้าขวัญ อยู่ห่างเรียมเปี่ยมเศร้าเทียบเท่ากัน เหมือนยามฉันขาดเธอเสมอมา... .....................สวัสดีครับ...................
27 เมษายน 2547 08:24 น. - comment id 255063
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณใบบอนแก้ว .. เมื่อคืนก็นึกถึง ขวัญ-เรียม นะคะ จำได้ในหนังตอนที่ขวัญเป่าขลุ่ยแล้วเรียมนอนหนุนตัก .. ดีจัง คุณเขียนมาพอดี ขลุ่ยครวญเศร้าปวดร้าวฤๅไฉน จึงโหยไห้ทำนองพ้องกำสรวล เทียบแผลเก่าในนิยายคล้ายรัญจวน รักต่างล้วนมิสมภิรมย์เอย ฯ
27 เมษายน 2547 09:06 น. - comment id 255072
เสียงขลุ่ยครวญหวลระลึกถึงกาลหลัง ยามเมื่อครั้งเธอลำนำความรักหวาน มาบัดนี้มีเพียงขลุ่ยแว่วกังวาล ส่วนตัวนางนั้นหนีหาย....ไม่หลับคืน
27 เมษายน 2547 09:08 น. - comment id 255073
เสียงขลุ่ยครวญหวลระลึกถึงกาลหลัง ยามเมื่อครั้งเธอลำนำความรักหวาน มาบัดนี้มีเพียงขลุ่ยแว่วกังวาล ส่วนตัวนางนั้นหนีหาย....ไม่กลับคืน
27 เมษายน 2547 12:24 น. - comment id 255188
เสียงขลุ่ยโหยโรยลำนำย้ำความฝัน สังคีตสรรค์เพลงรักสมัครสมาน ครวญทำนองซ้องปฏิพัทธ์ชัดดวงมาน ให้ซาบซึ้งดุริย์หวานพนอคลอ ...........ชอบเสียงขลุ่ยมาก โดยเฉพาะในเสียงขลุ่ยของทางล้านนากับทำนองเพลงจีน ไพเราะเสนาะนัก..
27 เมษายน 2547 13:06 น. - comment id 255220
คุณจิรา .. เพลงขลุ่ยครวญหวลจิตให้คิดถึง ความรักซึ่งจากไกลอาลัยหา ยินสำเนียงเยี่ยงตอกชอกอุรา สะอื้นทุกข์ทรมากับอารมณ์ ...เคียงพี่มิลี้พราก.........ผิว์ละจากสิหักใจ หากสิ้นถวิลไป..............ชิวะหมายสิตายตาม คุณวสุนทรา.. ค่ะ ขลุ่ยมีความขลังในตัวของมันเอง ดนตรีคือสื่อจากใจ เมื่อใดก็เมื่อนั้น ปรากฏรูปลักษณ์ได้เสมอ ค่ะ บทกวีที่รันทดสลดแล้ ดุริย์แปรจากหวานพาลขื่นขม สำเนียงแห่งสังคีตสรรค์อันรื่นรมย์ กลับระบมซ่อนเศร้ามาเย้าเยือน :)
28 เมษายน 2547 15:38 น. - comment id 256122
แม้นพลัดพรากจากไกลไม่หวนกลับ แต่ใจปรับรับรู้เธออยู่ใกล้ มิเคยลืมวันเก่าเฝ้าอาลัย ด้วยหัวใจยังมั่นรักและภักดี *-*กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ รักและคิดถึงเสมอนะค่ะ*-*
28 เมษายน 2547 21:52 น. - comment id 256423
ขอบคุณมากค่ะ คุณผู้หญิงไร้เงา คิดถึงเช่นกันค่ะ
29 เมษายน 2547 16:23 น. - comment id 256851
ฤชุวจี จากรมย์ บุริน ถึงอัลมิตรา อ่านกลอนอมรศรี.....................................อุระปรีดิ์วจีวิทูร เรืองดั่งสว่างสูรย์......................................สุพิมลกระจ่างนภา ทั้งเรื่องประเทืองหัว..................................มธุกลั้วสุคนธ์ผกา กล่อมเห่ทะเลจ๋า........................................สติบ้าประชดประชัน ขอขวัญแกล้วหา.................................อริลาระทดระทม งานสารพันสม..........................................ปณิธาณกวีมิวัฌ์ มอบส่งอนงค์ขวัญ.....................................อภินันท์ลิขิตประพันธ์ ร้อยกานท์พิธานฉันท์................................ฤชุถ้อยพิศุทธิ์พิชาน
29 เมษายน 2547 22:15 น. - comment id 257081
:) ขอบคุณค่ะ คุณ รมย์ บุริน ขอบใจนะดักแด้น้อย ..
30 เมษายน 2547 03:21 น. - comment id 257193
ขลุ่ยแปดบทเปลี่ยนเป็นหลงสี่บทแล้วกันนะ ร้อยคำพูดเวียนวนเหมือนคนบ้า ลากเดือนดาวหมดฟ้ามาร้องไห้ ทุกความคำย้ำเขลาเข้าพงไพร หลงทางใจจนคว้างหลงทางคำ หากเปลี่ยนเป็นสายตาซึ้งกว่าซึ้ง เธอจะพึงพอใจไหม งามขำ จากคนหลง คนดี ที่คงย้ำ ให้เธออ่านใจช้ำจากน้ำตา อย่ามองฉันผิวเผินแล้วเหินห่าง เพราะหลงทางจากเธอที่เพ้อหา แม้ร้อยกลิ่นรินจากร้อยสร้อยผกา ฤาหอมกว่าแก้มหอมของจอมใจ เพราะว่าหลงจึงย้ำคำว่าหลง หากจักคงสื่อย้ำคำอื่นได้ ทุกคำลวงจากปากลากเลยไป เพียงเพราะหลงใครต่อใครจนเลอะเลือน
30 เมษายน 2547 08:39 น. - comment id 257246
:) ขอบคุณค่ะ ตอบเป็นโคลงไปสองบทแล้วค่ะ แต่ไม่ใช่หลง..ยิ่งกว่าหลงอีกค่ะ
3 พฤษภาคม 2547 02:08 น. - comment id 259050
ตามเสียงขลุ่ยมา อิอิ
6 พฤษภาคม 2547 08:51 น. - comment id 261559
คุณฤกษ์ .. ขอบคุณมากค่ะ ตอบช้าไปนิด ไม่ว่ากันนะคะ เพิ่งกลับมาจากป่าเมืองกาญจน์ ค่ะ