+++ ฝากไว้ในดวงดาว +++

วฤก


๏ ดารดาษวาดดาวหว่างหาวห้วง
ระบายดวงดาวเด่นเป็นอักษร
แสงประภาสพาทย์พจน์พร่ำบทกลอน
พี่กล่อมนอนแนบสนิทน้องนิทรา
ชมจังหวะระยะวางระหว่างช่อง
แสงดาวส่องสุกใสชวนใฝ่หา
เห็นดาวธงพะวงชิดกฤติกา
เรียมฤๅลาลับล่วงห่างดวงใจ ฯ
ที่จากกันนั้นฤพรากฤพลัดพ้น
ที่จากทนทุกข์ระทมระทวยไหว
ที่จากคามตามสถลสถานไกล
ที่จากไปเป็นเพราะกิจเพราะการงาน
พี่เฝ้าใฝ่ใคร่จะหักจะห้ามคิด
พี่เฝ้าปลิดปลงทุรนทุรายผลาญ
พี่เฝ้ารอขอมิคลาดมิคลานาน
พี่เฝ้าวารหวังจะคืนจะเคียงนวล ฯ
จึงวาดดาวสกาวแสงไว้แจ้งเหตุ
จงสังเกตกาพย์กลอนฉะอ้อนหวน
เห็นนัยคำสำคัญเรียมรัญจวน
คำคร่ำครวญคะนึงคิดถึงเธอ ๚ะ๛
๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๖				
comments powered by Disqus
  • หมึกมรกต

    15 พฤศจิกายน 2546 00:28 น. - comment id 181631

    สวัสดีครับ อาจารย์
    ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอาจารย์สอนแล้วช่างมีอารมณ์สุนทรีย์ น่าติดตามในเนื้อหาเป็นยิ่งนัก
    ถึงแม้จะเรียนปี3แล้ว..อาจารย์ยังเป็นอาจารย์ที่กระผมชอบมากที่สุดเลยหล่ะครับ...
  • พรระวี(ไม่ได้ล๊อกอินกรุณาอย่าถือสา)

    15 พฤศจิกายน 2546 01:18 น. - comment id 181649

    ฝีปาก(กา)ของท่านอาจารย์หมอในเชิงกลอนรัก ช่างพิลาศพิไลเป็นที่ยิ่ง  นี่จึงเป็นตัวอย่างอันดีของนักกลอน คารวะในฝีมือเสมอมาครับท่านอาจารย์หมอ.
  • ผู้หญิงไร้เงา

    15 พฤศจิกายน 2546 02:58 น. - comment id 181708

    เมื่อมีเหตุต้องจากจำพรากฉัน
    ก็บอกกันสักนิดด้วยคิดหา
    เมื่อมีเหตุบอกกล่าวเล่าบอกมา
    ยินดีจะคอยหาเธอกลับมาเหมือนเดิม
    
    ***กลอนคุณไพเราะมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ  ชอบบทนี้มากเลยค่ะ  แต่งได้ดีมากๆๆๆเลยค่ะ***
  • เรนจัง..

    15 พฤศจิกายน 2546 06:59 น. - comment id 181736

    ..ไพเราะ..มากเลยคะ...
           ..
  • เวทย์(ลืมlogin)

    15 พฤศจิกายน 2546 09:33 น. - comment id 181749

    หมอหนุ่ยบอกว่าไม่สันทัดคำประพันธ์อื่นนอกจากโคลง
    ดูจากงานชิ้นนี้แล้วน่าเชื่อตามที่บอกนักเหรอ อิอิ
    
    เอากลอนมาแจมด้วยคน..
    
    ใจเหว่ว้าผวาหวั่นฝันเพียงสุข
    วันคืนทุกข์ฝืนทนจนเสียขวัญ
    ขวัญเสียจนทนฝืนทุกคืนวัน
    สุขเพียงฝันหวั่นผวาว้าเหว่ใจ
    
  • อัลมิตรา

    15 พฤศจิกายน 2546 10:48 น. - comment id 181777

    ...พระฉวีวรรณผุดผ่องพรรณรายนั้น แม้นแสงจันทร์วันเพ็ญที่ว่าสุกสกาวแล้ว...
    ...ยังต้องหลบลี้หนีเข้ากลีบเมฆ ...
    ...จันทราเอยเจ้าอยู่ที่ไหน ไยไม่ออกมาส่องแสงให้ข้าได้ชื่นชมบ้าง...
    
    ...จันทราก็ตอบนางว่า 
    .....ข้ามิอาจสาดแสงจันทร์อันหมองมัวมาแข่งกับรัศมีจากพระฉวีวรรณอันเรืองรองของพระองค์ได้ดอก
    ...โอ นางช่างงามแท้ งามกว่าหญิงใดในสามโลก  ....
    
    ......จันทราเอย เจ้าอยู่ไหน ไยไม่ออกมาส่งแสงให้ข้าเชยชมบ้าง...
    ...ช่างไร้น้ำใจเสียจริง คืนนี้คืนเดือนเพ็ญแท้ๆ แทนที่เจ้าจักออกมาสาดแสงปลอบประโลมข้าบ้าง...
    ...กลับหนีไปอุดอู้อยู่แต่หลังหมู่เมฆเสียได้  ...
    
    ...หามีผู้ใดตอบข้าไม่ ผู้ใดจักมาตอบข้าเล่า พระจันทร์สนทนากับใครได้เสียที่ไหน...
    ...เอาเถิด ไม่ตอบข้าก็ไม่เป็นไรจันทร์เจ้าขา ฟังข้าต่ออีกสักนิดเถิด ...
    
    ...ดวงจันทร์ยังคงลอยอ้อยอิ่งอยู่หลังหมู่เมฆ ไม่มีเสียงขับขานใดๆให้คลายความกังขา...
    ...จันทร์ไปอยู่เสียที่ไหนหนอ ..อยู่ไหน หนอ ..จันทร์ของข้า .. 
    ...ดวงจันทราที่หลบลี้หนีหน้าอยู่หลังหมู่เมฆไปจนถึงรุ่งสาง สายลมแห่งกาลเวลาก็คงพัดพาเรื่อยไปไม่สิ้นสุด...
    ...คล้ายกับจักอาสาทำหน้าที่นำพาบุคคลที่มีชะตาต้องกันให้มาพานพบกันไม่วันใดก็วันหนึ่ง ...
    ...ยิ่งดื้อดึงเท่าไร ก็ดูประหนึ่งว่าจักยิ่งกรรโชกแรงขึ้นไปเท่านั้น ...
    
    
    ..รังสิมันตุ์คราคล้อยลอยไกลลับ
    ดาวประดับเดือนหงายในเวหา
    ถึงเดือนเพ็ญเย็นใจให้กลับมา
    ผูกสองจิตสิเหน่หามาคู่เคียง..
    
    
    เวลาที่คิดอะไรไม่ออก ก็เขียนเรื่อยเปื่อยไป เกาเหลาไม่ได้ปรุง ค่ะ อาหมอ
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    15 พฤศจิกายน 2546 13:26 น. - comment id 181860

    ได้ชื่นชมบทกลอนยอดเยี่ยมของอาหมอแล้วยังได้กินเกาเหลาอีกด้วย อิอิ
  • tiki

    15 พฤศจิกายน 2546 17:50 น. - comment id 181924

    กลอนงามเกินจะชมธรรมดา
    ก็เลยหาคำชมมิได้
  • ชัยชนะ

    15 พฤศจิกายน 2546 19:43 น. - comment id 181942

    ฝากดวงดาว พราวแพรว แนวเวหาส
    นฤนาฏ ทัศนา ราตรีค่ำ
    เหมือนนัยน์เนตร วิเศษซึ้ง คลึงถ้อยคำ
    จีบมัดจำ โจ่งแจ้ง เปล่งแสงมา
    
    ผมว่าเขียนกลอนรักง่าย แต่เขียนกลอนให้คนรักน่าจะไม่ง่ายนะครับ
    
  • วฤก

    15 พฤศจิกายน 2546 22:37 น. - comment id 181993

    มาตอบขอบคุณผู้เยี่ยมเยือน
    
    หมึกมรกต..... 
    
    รู้สึกเป็นเกียรติมากครับที่ชื่นชม
    และผมก็ชื่นชมหมึกมรกตเหมือนกัน 
    ที่มาร่วมสืบสานวรรณศิลป์ไทย
    
    พรระวี....
    
    ขอบคุณมากครับ ... แหะ ๆๆ นาน ๆ ถึงจะเขียนได้อย่างนี้ที
    
    ผู้หญิงไร้เงา....
    
    ๏ ก็เพราะเหตุต้องจากต้องพรากพลัด
    จึงอึดอัดอกอั้นจนหวั่นไหว
    ว่าจะร้างห่างเหินนานเนิ่นไป
    จึงต้องไขข่าวคำคอยย้ำเตือน ๚
    
     ครับผม
    
    เรนจัง...
    
    ขอบคุณสำหรับกำลังในที่มีให้กันเสมอมา
    
    ลุงเวทย์....
    
    ผมถนัดเขียนโคลงมากกว่าอย่างอื่นจริง ๆ ครับ
    หลาย ๆ ครั้งที่เขียนกลอน
    
    ได้ ตระครุบกบกลางหาว ... ทุกที ๆ 
    
    ขอบคุณมากครับสำหรับกลอนกลบทที่นำมาร่วมกระทู้
    
    ลิงตัวนี้ชื่อเพราะจัง .... อัลมิตรา...
    
    เอาเกาเหลามาร่วมงาน ... แฮ่ม ขนาดไม่ได้เกลานะเนี่ย...
    ว่าแต่ว่า ....ดวงจันทร์แอบกระซิบมาว่า
    
    ๏ ใช่ฉวีศศิธรจะอ่อนด้อย
    จึงต้องลอยหลังม่านเมฆผ่านผัน
    แต่สิวเจาะเฉพาะคิ้วน่าฉิวมัน
    โผล่ในวันผ่องเพ็ญจึงเร้นอาย ๚
    
     ฤกษ์ ชัยพฤกษ์.....
    
    นั่นสิครับ ผมก็อิ่มเกาเหลา จนต้องไปนั่งเกาหลัง ไปด้วย
    
    tiki....
    
    ยินดีครับที่ชอบ ... 
    
    ชัยชนะ....
    
    แหะ ๆๆๆ 
    ผมเขียนกลอนรักได้แนวเดียวเท่านั้นครับ
    คือแนวพลัดพรากจากคนรัก
    
    ... เพราะหวานใจกับพ้มอยู่ห่างกัน
    
    เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ว่าเขียนกลอนให้คนรัก ... เขียนยากมาก
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน