สดับสาส์นกาลคล้อยมาร้อยจิต พ่อมิ่งมิตรฝากใจหมายคิดถึง แม้นห่างเหินเกินคำพร่ำรำพึง ยังคงขึงเรียงพจน์เป็นบทกลอน สายสวาทมาตรมั่นสัญญาว่า มิคลาดคราคืนคลายสายสมร ยินเสียงแผ่วแว่วซึ้งคะนึงวอน เป็นบทอ้อนเหนี่ยวใจให้จารจำ จากเรือนห่างร้างไกลหมายคืนถิ่น ยังยลยินตักหนุนกรุ่นงามขำ แสนเหว่ว้าหนาวกายาคราฝนพรำ สุดระกำจึงเพียรเขียนกลอนคืน หากบุญหนุนจุนเจือมาแต่หลัง จิตเรายังผูกพันมิผันอื่น แม้นชีพลับดับมลายคล้ายหยัดยืน รักคงชื่นตราบนานเท่ากาลมี เทียบน้ำหยดรดหินบิ่นสึกกร่อน รักมิห่อนร้างเลือนหรือเบือนหนี ยังหนักแน่นแก่นทรวงห้วงฤดี ยากจะมีวันชืดจืดจางลง อย่าหวั่นใดในกานท์ที่หวานหยด หากจะปลดทิ้งคว้างหว่างลุ่มหลง ฤๅจะเทียบเทียมใจหมายจำนง รักยังคงสถิตแน่นยังแก่นใน กำไลร้อยกำไลรักจักคงถ้อย มิเสื่อมถอยคำเล่ห์เสน่ห์ไหน ยังสวมสอดกอดกระหวัดมัดฤทัย สื่อเป็นนัยหมายมาตรมิพลาดชม คนสมุยคุยเฟ้อ..เออ ! บ้านนอก อยากจะบอกคนกรุงมิฟุ้งถม หากรักจริงมิ่งชายคลายระทม อย่าได้ตรมตรอมจิต..พิศวาทเลือน..
29 กันยายน 2546 12:26 น. - comment id 170756
ได้อ่านคำฝากรักของสาวหนุ่ม ให้ร้อนรุ่มเพราะดวงจิตคิดอิจฉา 5555 จะรักกันยืนนานนั้นมั่นสัญญา ขอเป็นดั่งสัญญาเถิดหนาใจ คนสมุยใครว่าใช่ใคร่บ้านนอก ไม่จริงหรอกพี่จ๋าอย่าสงสัย สาวเมืองกรุงก้อใช่ว่าจะกล้าไกร เพียงแต่ได้อยู่ถิ่นี้ที่เมืองกรุง อย่าคิดเลยพี่จ๋าอย่าสงสัย สาวกรุงไกรคนสวยจักหมองศรี อยู่แห่งไหนก็ฝืนฟ้าและนที(เดียวกัน) อย่าได้มีจิตคิดว่าผิดกัน ................... ฝากถึงค้างคาวนะ อยู่ที่ไหนก้อผืนฟ้าเดียวกัน...กะสาวกรุงนั่นแหละ
29 กันยายน 2546 13:36 น. - comment id 170763
ยัยไหม.. หากไมตรีที่มีมิสูญสิ้น ตราบเท่าดินฟ้ากลบมิลบเลื่อน จะประทับความทรงจำย้ำมิเลือน ความเป็นเพื่อนแน่นแฟ้นเกินแก่นใด หากแต่แปลเจตนาเป็นผู้อื่น มาตรหมายคืนเพลงยาวเย้าตอบใส่ ื่สื่อประจักษ์แจ้งจิงอิงจากใจ ขออย่าได้แปลงความนิยามนวล ล้อกลอนพี่จากน้องคล้องนัยสื่อ อย่ายึดถือคารมชมใคร่หวน อันร้อยกรองมากมายหลายกระบวน เพียงแค่ชวนต่อคำย้ำพาที :) ยัยไหมฝากคำไปถึงค้างคาวคืนคอน .. แล้วจะให้อัลมิตราทำฉันท์ใดเล่า คนไกลใจไกล คนใกล้บอกเองดีกว่ากระมังนะจ๊ะ
29 กันยายน 2546 14:31 น. - comment id 170766
แหม.....ขอโทษอัลมิตราอย่าว่ากล่าว ด้วยข้าเจ้าไม่รู้ความตามเฉลย เลยเข้าใจผิคิดพลั้งอย่างเคย..เคย ด้วยเป็นคนไม่ใคร่อ่านกานท์กวี แหม...แหมโกรธทีตีนกาโผล่(น่ะ) เราแค่โอ่เพราะใจคิดเพราะผิดพลั้ง คิดแต่แซวเล่น ...เล่น ใช่จริงจัง แหม...พลาดพลั้งกันได้อัลมิตรา
29 กันยายน 2546 21:31 น. - comment id 170806
ผมคิดว่ากลอนชุดนี้ตอบที่เขียนอยู่ก่อนหน้าข้างล่าง คงไม่ได้เข้าใจผิดนะครับ ชื่อก็เขียนอยู่ว่าตอบเพลงยาว ผมคงไม่หลงทางเหมือน..............
29 กันยายน 2546 22:05 น. - comment id 170813
เพราะมากค่ะ ชื่นชม ค่ะแต่งได้สวยค่ะ
29 กันยายน 2546 23:21 น. - comment id 170823
ชอบครับ อาจารณ์ ^___^
30 กันยายน 2546 01:35 น. - comment id 170851
แต่งกลอนจังเลยค่ะ อ่านแล้วลึกซึ้งกินใจมากๆเลยค่ะ
30 กันยายน 2546 08:09 น. - comment id 170920
สวัสดีอัลมิตรา....ตอบเพลงยาวใครกันหนอ...ฮิๆๆ...เอ้าสักบท ตราบไหลอุทกสิ้น สุดสาย แลแม่ รักพี่จึงจักหาย เหือดแห้ง รพีบ่เผยผาย ภาล่วง สลายแล โลหิตหลั่งตราบแล้ง อาจแล้งอาลัย
30 กันยายน 2546 08:14 น. - comment id 170922
เอ้าพ่อหนุ่มเอ๋ย...อย่ามัวแอบจิตอยู่เลย...เอาสักบทสิ....ตื๊อเก่งนี่...น่าจะเขียนเก่งนะ....
30 กันยายน 2546 08:14 น. - comment id 170923
คุณคนผ่านมา .. :) อัลมิตราเห็นพี่ชายเขียนเพลงยาว ก็นั่งมองอยู่หลายวัน ยังไม่เห็นสาวไหนเขียนเพลงยาวตอบพี่ชายเลย ( อุตส่าห์เผื่อเวลาแล้วนะนั่น) จึงลองขยับ ตอบเพลงยาวบ้างตามประสาพี่-น้อง ค่ะ คุณใจปลายทาง .. ขอบคุณค่ะ หว่ออ้ายหนี่ .. คิดถึงนะ คุณผู้หญิงไร้เงา .. ขอบคุณมากค่ะ และอัลมิตราคงต้องขอบคุณพี่ชายอีกทอดหนึ่ง ที่เขียนบทนำได้ดีค่ะ
30 กันยายน 2546 08:22 น. - comment id 170925
อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่ชาย .. ตอบเพลงยาวของพี่ชายนั่นแหล่ะ (แบบว่า ไม่ได้กันท่าสาวคนอื่นนะคะ คือว่า อัลมิตรารอมาหลายวันแล้ว เห็นว่ายังไม่มีคนตกหลุมพี่ชายซักที ก็เลยสวมรอยค่ะ ....๕๕๕..) .....วาจามาเอ่ยเอื้อน..............เยือนยล งามพร่างดังดาวบน................กล่นฟ้า อนงค์บ่งนฤมล.......................ดลพี่- หลงฤา หากพร่ำคำใดอ้า..................โอษฐ์อ้างดังจริง ฯ
30 กันยายน 2546 19:29 น. - comment id 171048
อาจจะมาช้าไปคงไม่ว่า อัลมิตราตอบใครไม่เฉลย เป็นลำนำคำร่ายคล้ายเปรียบเปรย แล้วเอื้อนเอ่ยคำพ้อรอไมตรี....ฯ แวะมาเป็นกองเชียร์นะคะ...กลอนน่ารักจังค่ะ..
30 กันยายน 2546 23:11 น. - comment id 171108
คุณราชิกา .. ขอบคุณมากค่ะ :)