เมื่อเหม่อมอง ท้องฟ้า คราคืนค่ำ เคยดื่มด่ำ ท่ามกลาง ทางเวหา หมู่ดวงดาว สุกสกาว กลางนภา สาดส่องหล้า ประจำ ยามค่ำคืน คืนข้างแรม แสงดาว เฝ้าสาดส่อง ทาสีทอง โอบฟ้า นภาผืน สองเราเคย เคียงคู่ อยู่ราบรื่น เคยชมชื่น หมู่ดาว เคล้าสุขกัน แต่เวลา ที่หวนไป ไม่หันกลับ เธอลาลับ จากไกล ใจเปลี่ยนผัน สุดเหนี่ยวรั้ง หัวใจ ไว้ใกล้กัน สุดอัดอั้น ในอก ในหัวใจ จากไปแล้ว คืนวัน ที่ผันผ่าน เพียงไม่นาน สุดเศร้า จะหาไหน จะหวนคืน คงมิอาจ จะเป็นไป คงเป็นได้ ดั่งเช่นคราว ดาวละฟ้า
11 กันยายน 2544 09:03 น. - comment id 11246
ได้แรงบันดาลใจ จากเพื่อนกลอนคนไหนครบ ถึงได้แต่งกลอนได้ไพเราะเช่นนี้
11 กันยายน 2544 09:39 น. - comment id 11249
ไพเราะจับใจเลย..วนา...ได้ภาษาใหม่เพิ่มเติมด้วย"ดาวละฟ้า"
11 กันยายน 2544 09:52 น. - comment id 11253
อิอิ เพราะจังเลยครับกลอนอกหักนี่ชอบจริงๆ
11 กันยายน 2544 10:47 น. - comment id 11261
ในบทกลอนอ่อนหวานที่อ่านนั้น .... ไยสร้างสรรค์เสียงเศร้าซึมเหงาหมอง.... ยั่วน้ำตาบ่าล้นจนท่วมนอง.... เยือกใจต้องสะอื้นอ้อนอ่อนอาลัย ..../// กลอนหวานและเศร้าจังครับ "วนา"
11 กันยายน 2544 10:50 น. - comment id 11263
เพราะดีจังเลย...ค่ะพี่วนา ให้ความรู้สึกเหงาดดนใจดีค่ะ..เอ่อ..แล้วใครเป็นแรงบันดาลใจให้พี่คะ
11 กันยายน 2544 12:12 น. - comment id 11271
เห็นด้วยกับทุกคนที่ผ่านมา แรงบันดาลใจคือใครจ๊ะ...ยัยศรีหรือป่าวจ้า อิอิ...
11 กันยายน 2544 12:16 น. - comment id 11273
ไพเราะทั้งคำ ทั้งความ เลยค่ะ
12 กันยายน 2544 02:19 น. - comment id 11330
อยากเป็นดาวประดับใจใครคนนั้น แต่ว่าฉันคนนี้ไม่มีค่า อยู่กับความหมองหม่นจนชินชา รอเวลาดาวที่ลับกลับหวนคืน
13 กันยายน 2544 01:18 น. - comment id 11418
ได้อ่านกลอนของพี่แล้วนะค่ะเพราะมากเลยชอบมากเลยค่ะวันหลังจะเข้ามาอ่านอีกเขียนไว้เยอะๆนะค่ะโรแมนติกกินใจมากเลยค่ะ
18 ธันวาคม 2544 13:58 น. - comment id 25879
ยอดเยี่มครับอยากแต่งได้อย่างนี้มั่ง