...ทุกครั้งที่มีโอกาสได้เยี่ยมเยียนหาดทรายและฟองคลื่น ...อดไม่ได้ที่จะต้องจารึกชื่อ ใครคนหนึ่ง ไว้บนผืนทราย ...ที่สมิหลานี้ก็เช่นกัน บรรจงเขียนแล้วยืนดูสายน้ำ ...ค่อยๆซัด ค่อยๆสาด ค่อยๆลบ ...ให้ชื่อนั้นค่อยๆเลือนหายไปต่อหน้า...หายไปจากผืนทราย ...แต่ก็ยังคงฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ ไม่เคยเลือน ...แล้วจู่ๆก็ฉุกคิดถึงอีกชื่อหนึ่งขึ้นมา... ...ทว่า...เพียงเริ่มต้นจรดนิ้วลงบนผืนทรายอันราบเรียบ ...แล้วขีดเขียนเป็นลายเส้น หักคด ลดเลี้ยวเป็นตัวอักษรได้เพียงไม่กี่ตัว ...ประหนึ่งเกลียวคลื่นไม่เป็นใจ...ก็มีอันต้องซัดสาดมากลบเกลื่อน ...ให้จางหายไปต่อหน้าในทันที ...พยายามขีด...พยายามเขียน...กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง.... ...ผืนทรายก็ยังคงเป็นผืนทรายอันราบเรียบ...เช่นเดิม ...ฤาเพราะคืนนี้..เป็นคืนที่...สมิหลาไร้จันทร์ ...ทุกอย่างจึงเงียบงัน สงบนิ่ง และอึมครึม! ...สมิหลา ยามไร้จันทร์...มันช่างอ้างว้าง มืดมิด และเงียบสงัด ทุกคราวครั้งรั้งหาดคลื่นสาดซ่า ทุกคราวคลาจารทรายมาดหมายถึง ทุกคราวคือชื่อ ใคร ในคำนึง ทุกคราวคลึงจิตจ่อรอทรายเลือน แม้นคลื่นสาดหาดทรายหมายลบชื่อ แม้นคลื่นรื้อลาญแหลกมิแผกเหมือน แม้นคลื่นลบกลบมิดยังติดเตือน แม้นคลื่นเชือนใจเชยมิเคยลืม รำลึกเมื่อเยือนแคว้นแดนสงขลา หาดสมิหลาตรึงติดจิตปลาบปลื้ม ที่รกอกรกใจคล้ายใครยืม สุขดูดดื่มนั่งเล่นลำเค็ญคลาย แล้วจู่จู่ครู่หนึ่งนึกถึงอื่น ใช่เคยชื่นเคยชมเคยสมหมาย เฝ้าพากเพียรเขียนบ้างกลางหาดทราย แปลกเหลือหลายคลื่นโครมถั่งโถมครัน ฤๅเพราะจันทร์วันนี้หลบลี้สิ้น เคยยลยินกลับหายดังผายผัน เพียงเสียงคลื่นกลืนหาดคืนปราศจันทร์ มืดมิดหวั่นอ้างว้างอย่างอึมครึม
21 มีนาคม 2546 22:35 น. - comment id 117369
มามองพระจันทร์เป็นเพื่อนค่ะคืนนี้
21 มีนาคม 2546 22:40 น. - comment id 117370
อาทิตย์หน้า จะไปที่ตรงนั้น สมิหรา แล้วจะเก็บบรรยกาศ สมิหรา วันไร้จันทร์ มาฝาก สัญญา
21 มีนาคม 2546 23:19 น. - comment id 117380
ไร้จันทร์ ก็ยังมีดาวนะ ให้ดาวเป็นเพื่อนซี อย่าเหงา ๆ
22 มีนาคม 2546 04:42 น. - comment id 117414
สงบนิ่ง เงียบงัน แล้วไมสายคลื่นมากระทบฝั่ง ทำให้ชื่อนั้นหายไปได้ล่ะหนอ
22 มีนาคม 2546 12:25 น. - comment id 117469
มะเคยไป แต่ถ้า เป็นคืนข้างแรม สงสัยน่ากลัว ระวังเจอผีทะเลนะ 5555 มืดๆค่ำๆ
22 มีนาคม 2546 12:53 น. - comment id 117478
แม้ในคืนที่สมิหลาไร้จันทร์ ดาวสีหม่นก็มาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ
22 มีนาคม 2546 13:25 น. - comment id 117488
คุณลูกเป็ด ..ขอบคุณค่ะ คุณม้าก้านกล้วย .. อย่าลืมน๊า .. คุณสีน้ำฟ้า ..ใช่เลยค่ะ ยังมีดาว นายดอกไม้ ..น่าแปลกใจยิ่งนัก ที่ชื่อที่สองไม่สามารถเขียนได้จนจบ ทั้งที่อยู่จุดเดียวกันแท้ๆ คงเป็นเพราะ ไม่มีใครมาแทนที่ได้กระมัง ตะเอ๋า ..ไม่หรอกจ้า ผีทะเลมา ต้องเจอไม้หน้าสามจ้า .. คุณดาวสีหม่น .. ค่ะ ขอบคุณค่ะ ที่มาอยู่เป็นเพื่อน
22 มีนาคม 2546 18:04 น. - comment id 117553
ชื่อครายอะอ่านไม่ทันพอดีลื่นซัดแรงมากกก
22 มีนาคม 2546 21:36 น. - comment id 117631
...คลื่นซัดสาดหาดทรายทำลายชื่อ เอาสองมือรวมใจใส่ใยฝัน ก่อกองทรายคล้ายกำแพงแห่งผูกพันธ์ เขียนชื่อนั้นเอาไว้ในกำแพง... ......สวัสดีครับ....
22 มีนาคม 2546 22:14 น. - comment id 117650
ไอซ์ .. ปู่ก๊องบอกว่า เราเขียนภาษาจีนเหรอ ..555 ขำเลย คุณใบบอนแก้ว .. อื้อ หากเขียนกับผืนทรายย่อมโดนซัดทลาย แต่ว่ายังจารจำในใจ หากเขียนกับศิลา ย่อมตราบสิ้นฟ้า
22 มีนาคม 2546 22:31 น. - comment id 117662
ห้วงคำนึงรำพึงถึงรำพัน ขอเสกสรรค์วรรณกรรมพิร่ำว่า จารภาษากวีแว่วเพรียกแผ่วมา ให้ตรึงตรามาโอบซบทรวงใน ร่ายเรียงคำนำมอบพินอบถ้อย รจน์เรียงร้อยพลอยเพลินเกินเปรียบได้ หวังแอบอิงสิงสู่ดั่งรู้ใจ ให้สดใสคลายหมอง...พริ้มผ่องพรรณ ฯ
23 มีนาคม 2546 01:50 น. - comment id 117717
สวัสดีครับคุณอัลมิตรา คงต้องเขยิบขึ้นมาอีกนิด บริเวณที่คลื่นมาไม่ถึงน่ะครับ ตอนนี้ล่ะบรรเลงได้เลย จ้างให้ก็ไม่ลบ ยกเว้นมันซัดสาดอยู่ในใจ ขยับไปไหนก็โดนลบอยู่ดี
23 มีนาคม 2546 10:52 น. - comment id 117794
อรุณสวัสดิ์ค่ะ ลุงราม ณ จุดเดิมของหัวใจ ชายผู้นี้หวังจะประดิษฐ์อักษรแทน แต่ทว่าในส่วนลึกแล้ว คงไม่มีอะไรมาแทนที่ ... พาหัวใจกลับคืนมาเถอะนะ .... บนพื้นทรายยากที่จะให้ปรากฏอักษรใดๆ บนพื้นทรายยากที่จะห้ามมิให้คลื่นย่างกราย บนพื้นทราย ความละมุน อบอุ่นยิ่งนัก แต่ไม่จีรัง สมิหลา ยามไร้จันทร์ กับ ชายผู้หนึ่งซึ่งไร้ใจ .... คงไม่มีอักษรใด บรรยายความรู้สึกที่ขมขื่นได้หมด จันทร์ ... มิเคยห่างหายจากสมิหลา เพียงแต่เรามองไม่เห็น ใจ ... ก็ยังคงอยู่สงบนิ่ง ณ อกข้างซ้าย เช่นเดิม
23 มีนาคม 2546 21:56 น. - comment id 118017
ทุกคราวครั้งรั้งหาดคลื่นสาดซ่า ทุกคราวคลาจารทรายมาดหมายถึง ทุกคราวคือชื่อ ใคร ในคำนึง ทุกคราวคลึงจิตจ่อรอทรายเลือน แม้นคลื่นสาดหาดทรายหมายลบชื่อ แม้นคลื่นรื้อลาญแหลกมิแผกเหมือน แม้นคลื่นลบกลบมิดยังติดเตือน แม้นคลื่นเชือนใจเชยมิเคยลืม รำลึกเมื่อเยือนแคว้นแดนสงขลา หาดสมิหลาตรึงติดจิตปลาบปลื้ม ที่รกอกรกใจคล้ายใครยืม สุขดูดดื่มนั่งเล่นลำเค็ญคลาย แล้วจู่จู่ครู่หนึ่งนึกถึงอื่น ใช่เคยชื่นเคยชมเคยสมหมาย เฝ้าพากเพียรเขียนบ้างกลางหาดทราย แปลกเหลือหลายคลื่นโครมถั่งโถมครัน ฤๅเพราะจันทร์วันนี้หลบลี้สิ้น เคยยลยินกลับหายดังผายผัน เพียงเสียงคลื่นกลืนหาดคืนปราศจันทร์ มืดมิดหวั่นอ้างว้างอย่างอึมครึม ปู่ก๊อง ..ขอบคุณค่ะ
23 มีนาคม 2546 23:31 น. - comment id 118051
รู้ตัวละคนที่มาลักนางเงือกในคืนเดือนมืด
24 มีนาคม 2546 09:53 น. - comment id 118180
๕๕๕ ... ไปแอบดูตอนไหนเนี่ย .. นึกว่าไม่มีใครรู้แล้วเชียว ค่ะ
24 มีนาคม 2546 13:16 น. - comment id 118229
:)
24 มีนาคม 2546 13:39 น. - comment id 118240
ก๊าก ..ปู่ ไม่ได้ต๊องค่ะ .. จริงๆ นะ ชอบให้ยี่ห้อตัวเองแบบนั้น แปลกแฮะ 555
24 มีนาคม 2546 16:02 น. - comment id 118261
สองเท้าปักหนักแน่น ผืนทราย สายตามองคลื่นซัดปราย กวาดพื้น มือหนึ่งสะบัดนิ้ว กราย กรีดร่าย วาดชื่อบนผืนทราย ใจหมอง รำพึง ------------------ ชื่อหนึ่ง ตรึงติด สนิททรวง แม้กาลล่วง ลับผ่าน นานนักหนา บรรจงกรีด รีดนิ้ว พริ้วไปมา ณ สมิหลา ยามอุทัย ใกล้อัสดง เป็นรอยลึก ผนึกไว้ ในแผ่นพื้น หวังเพียงชื่น ฉ่ำใจ ไม่ลืมหลง รู้ทั้งรู้ ว่ามัน ไม่ยืนยง บัดเดี๋ยวคง มีคลื่นซัด ปราศริ้วรอย เพ่งมองดู สายน้ำยาม ตะวันลับ ค่อยค่อยทับ ค่อยถม หล่มอักษร ค่อยค่อยลบ ค่อยค่อยเลือน เหมือนเว้าวอน ถึงกาลก่อน ที่เคยชื่น รื่นเริงใจ ================== สองเท้าปักหนักแน่น พื้นเดิม เกลียวคลื่นยังคงเติม แต่งหล้า พลันหวนถึงอีกนามา เพื่อนผู้ รู้ใจ จึงลองกรีดขีดไว้ ในพื้น สมิหลา ------------------ แล้วชื่อหนึ่ง พลันสะดุด ผุดในใจ เติมฤทัย ให้ชุ่มชื่น ตื่นจากฝัน ทั้งที่รู้ จักกันมา ไม่นานวัน ทำไมมัน ช่างตามติด ชิดกาย มิได้มุ่ง มิได้หมาย ให้แทนที่ ไม่เคยมี แม้สักนิด จิตมุ่งหมาย คบกันไป คุยกันมา พากลับกลาย โอ้หนอใจ ใยคำนึง ถึงบังอร จึงลองรีด กรีดนิ้ว พริ้วอีกหน เลี้ยวลัดล้น บนพื้นทราย กลายอักษร หวังให้ครบ จบคำ นามกร รอดูตอน น้ำมาลบ กลบหายไป แต่เหตุใด ไม่เป็นไป ดั่งใจคาด เพียงเริ่มวาด กวาดพื้น ถูกกลืนหาย เกลียวคลื่นซัด เกลื่อนกลบ ลบมลาย ทุกครั้งไป ชื่อที่หมาย ใยถูกกลืน ? ผ่านคืนเพ็ญ จันทร์วันแรม ควรแจ่มฟ้า สมิหลา ควรเจิดจ้า เวหาหน แต่คืนนี้ มีสิ่งใด มาผจญ จันทร์จึงหม่น คนจึงหมอง ลองตรองดู
24 มีนาคม 2546 22:23 น. - comment id 118396
มองหาดทรายกรายย้ำนามนวลน้อง ให้หม่นหมองดุจเราต้องห่างเหิน เคยพลอดพร่ำเพ้อถ้อยร้อยจำเริญ จำต้องเดินแยกจากพรากกานดา ผ่านวันคืนรื้นน้ำตาคราชอกช้ำ คลื่นสาดซ้ำซัดกระเซ็นเช่นโหยหา กายสะอื้นฝืนกล้ำกลืนคืนผ่านมา ไม่รู้ว่าจะเลือนลบกลบอย่างไร เพียงหนึ่งเสี้ยวเกี่ยวจิตพินิจคล้อง เคยหมายปองปราศรูปลักษณ์ประจักษ์ใกล้ ผูกสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องตรองความนัย ด้วยสายใยก่อเกื้อที่เจือจาน สมิหลาครานั้นพลันเยือนถิ่น ใจข้าสิ้นสูญรักให้หักหาญ ทิ้งอดีตที่ขื่นขมบ่มยาวนาน กลับต้องควานแต่ลมแล้งให้แห้งจินต์ คืนพระจันทร์โศกเศร้าเรานั่งหงอย สู้เฝ้าคอยเคียงข้างพลางถวิล กลับได้มาแค่น้ำตาที่หลั่งริน ดั่งดับจินต์ใจแทบขาดอนาถตน อักษรแรกแทรกทรายหมายบ่งบอก กลับช้ำชอกคลื่นซัดสาดคลาดทุกหน จำต้องรั้งชั่งใจในบัดดล มิใช่คนเทียบข้าง...นวลนางใจ... :) ขอบคุณค่ะ
26 มีนาคม 2546 23:46 น. - comment id 119116
เคยเหงาบ้างไหมในคืนนี้ เธอคนดีพรากไกลใจห่วงหา ต้องกล้ำกลืนฝืนสะอื้นรื้นน้ำตา สมิหลา...โอ้ใจเอ๋ย เผยได้ยิน หนึ่งจันทราคราเคยเด่นเช่นแดนสรวง ลาลับล่วงให้ดวงจิตพิศถวิล หลากดาราฤๅแทนค่าคงยุพิน แสงดับสิ้นเสน่หาชลาลัย เพียงรอเดือนเยือนฟ้าดั่งก่อนเก่า คงคลายเศร้าซึมโศกวิโยคได้ ขอวิงวอนเพื่อนผู้อยู่ดินแดนไกล โปรดฟังไซร้เสียงสั่นลั่นระทม คลื่นซัดทรายคล้ายกับใจหมายโดนซัด สิ่งผูดมัดยากจะคลายกลายขื่นขม จันทร์เอ๋ยจันทร์ ..รู้บ้างไหมใครระทม เกินจะบ่มบ่ายเบี่ยงเยี่ยงตัวเรา