เงยหน้าขึ้นจ้องมองดารา ยังกระจ่างเต็มฟ้าเวลานี้ หลากระยิบระยับพราวคราวราตรี เช่นที่มีเช่นทุกคืนดาดดื่นดาว ไม่ได้เหม่อมองฟ้ามาเนิ่นนาน ด้วยว่าใจทรมานมันเหน็บหนาว สะท้านอ่อนสะท้อนในดวงใจร้าว ยามถึงคราวรักร้างช่างเงียบงัน ไม่กล้าเงยหน้าสบตาใคร ได้แต่พร่ำร่ำไห้ . . . ไม่แม้ฝัน จะเหลียวหาใครใครที่ไหนกัน เขาคงหยันเยาะเย้าว่าเราช้ำ ต้องก้มหน้าหลั่งน้ำตามาประโลม ทุกข์ที่โถมโหมประดังยังดื่มด่ำ นึกว่าราตรีชืดคงมืดดำ นึกว่าค่ำคืนเคว้งวังเวงนัก จนเมื่อกล้าเงยหน้ามามองดาว ฟ้ายังคงสกาวดาวยังรัก ฟ้ายังเริงราตรีที่รู้จัก และยังพักผ่อนใจได้เหมือนเคย จึงได้คิดผ่อนคลายจึงได้ปลง หากยังหลงหดหู่อยู่เฉยเฉย เท่ากับเราปล่อยปละและละเลย ไม่มาเชยชมดาวเจ้าปลอบใจ แค่รักลวงเพียงลมลมไม่สมปอง ถึงกับต้องเศร้าโซ . . โง่หรือไม่ ฟ้าและดาวช่วยปลอบผ่อนอ่อนละมัย ชีวิตใหม่ยังแวววาวเหมือนดาวลอย (ม้าก้านกล้วย)
7 มกราคม 2546 09:56 น. - comment id 103664
เสียใจ ทำไม ใครเจ็บ
7 มกราคม 2546 17:16 น. - comment id 103705
^*^ ^*^ ^*^...เศร้ามาเปงคอลเลคชั่นเลย..^*^ บรรยากาศยิ่งวังเวงอยู่ด้วย ยังจะแต่งกลอนเพราะๆมาหลอกกันอีก ฮือ ฮือ ^*^....................^___^...................^*^
7 มกราคม 2546 21:39 น. - comment id 103733
=^__^=
8 มกราคม 2546 10:30 น. - comment id 103778
เวลาไม่ช้ำก็มอง *^____^*
11 มกราคม 2546 14:07 น. - comment id 104262
นับถือ...จริงๆท่าน ขอฝากตัวเป็นศิษย์หรือเปล่า