สายไปแล้วแก้วตาคลาไคลเคลื่อน กมลเลื่อนตามเดือนดาวเลือนหาย ครั้นเคยเคียงเอียงซบอุ่นอบกาย พลันยกย้ายกลายกลับลับแลไกล เห็นกานดาร่าเริงยามเพิ่งคบ ได้คิดขบพบคู่ชู้ใช่ไหม แม้โอฐถ์อิ่มยิ้มบอกคำออกไป ว่าไม่ใช่ - ใครไผลในวาจา พอสนิทชิดใกล้ใจก็รัก คือสิ่งนี้ที่ประจักษ์เป็นหนักหนา มองครั้งใดให้ระกำช้ำอุรา โอ้น้ำตาตกในไหลเนืองนอง นั่งลูบไล้ไรผมมือห่มเกาะ รื่นหัวเราะเริงใจในทั้งสอง คำฉ่ำหวานสานรักถักก่ายกอง กาลครั้งนั้นมันร้องก้องในใจ เพราะครั้งนี้มีใครคนไหนนั่น มาพัวพันปันรักภักดีให้ ทุกทุกสิ่งยิ่งคล้ายละม้ายใคร ที่ทนยืนสะอื้นไห้ไกลออกมา เราคงผิดที่คิดรักอีกสักหน นึกว่าคงคือผลที่ค้นหา ไม่คำนึงถึงผิดหวัง - พลั้งอีกครา เสียดายวันเวลาหลงรักเธอ
28 กรกฎาคม 2545 13:34 น. - comment id 63360
รักแบบถวายกายใจ ทั้งชีวิต ด้วยดวงจิตคิดประจักษ์ ว่าห่วงหวง เหมือนแม้มีสุขใดในหล้ามาทั้งปวง มิเท่ารักภักดิ์พุ่มพวงดวงชีวา เมื่อครั้งมีเค้าคอยยั่วเย้าเร้าพร่ำเพ้อ หลงคอยเก้อเผลอรักเฝ้าห่วงหา สุดท้ายบ่นว่าเจ็บช้ำเพราะกานดา เสมือนว่าฆ่าพี่ดีกว่า อย่าช้าเลย หากแม้มั่นใจในรักปักให้แน่น ลึกถึงแก่นจิตซึ้งอย่าพึงเฉย แค่คิดมอบสุขให้แน่แท้แก่ทรามเชย แค่ขอเอ่ยคำว่ารัก อย่าเสียดาย (อ่านแล้วไม่ชอบก็อย่าโกรธกันนะ)
28 กรกฎาคม 2545 16:11 น. - comment id 63375
อย่าเสียดายเลย มันเป็นบทเรียนที่ดีมากต่าง หาก หาไม่ได้ตามริมทางนะจะบอกให้ เก็บมันไว้เป็นประสบการณ์ดีกว่านะ
28 กรกฎาคม 2545 22:19 น. - comment id 63526
กลอนซึ้งจัง
5 กันยายน 2545 03:55 น. - comment id 73249
มาอ่านอีกหนนะ ตามเพื่อนมาน่ะ
10 กันยายน 2545 21:11 น. - comment id 75237
แต่งเก่งดีนี่