อรุณรุ่งจรุงกลิ่นประทิ่นทัด
พายพลิ้วพัดพากลิ่นถวิลหวัง
แสงอุษาส่องเยือนเตือนภวังค์
หอมนั้นยังซึ้งจิตนิจนิรันดร์
ดุจดั่งกลิ่นสุคนธาจากฟ้าม่าน
ทรมานคนยากเฝ้าฝากฝัน
กระเสือกกระสนเพื่อพบสบเทวัญ
ดั่งกระต่ายหมายจันทร์เกินฝันไกล
คงเป็นเพียงภาพลวงให้หน่วงหนัก
กระหายรักเดียวดายอายเทพไท้
ไหนจะสมสรวงฟ้านิคาลัย
เพียงอกใจขาดดิ้นหากสิ้นรัก
หอมประหารหัวใจให้ม้วยมอด
ขอยึดยอดเขาคำเป็นตำหนัก
แดนปัจฉิมหิมพานต์วิมานพัก
จวบประจักษ์นฤมลสุคนธา
รวิวรรณแผดเผาให้เร่าร้อน
ยังอาวรณ์กลิ่นจันทร์จากชั้นฟ้า
จินตนาการโฉมนุชสุดบูชา
คงโสภาเพริศพริ้งกว่าหญิงใด
จนสายัณห์เย็นย่ำยังพร่ำคิด
หอมฝังจิตมั่นคงยิ่งหลงใหล
ทินกรย้อนกลับลับตาไป
ทอดทิ้งใจใฝ่ฝันกลิ่นรัญจวน
(๘ พฤษภาคม ๒๕๓๐)