ทุกค่ำคืนยืนเหม่อแล้วเพ้อพก
จนเดือนตกลับตาจวบฟ้าสาง
หนาวยะเยือกเย็นยะเยียบเงียบทุกทาง
ใจอ้างว้างคอยเก้อเธอไม่มา
เลี้ยงชีวิตด้วยแสงแห่งจันทร์ส่อง
ลิ้มละอองน้ำค้างกลางเวหา
ยืนสงบซบจิตต่างนิทรา
หลายเพลาแล้วฉันเฝ้าฝันคอย
สิ้นเสียงหริ่งหรีดร้องยิ่งหมองหม่น
ดาวเบื้องบนหล่นร่วงยิ่งง่วงหงอย
เย็นลมลูบจูบไล้คนใจลอย
สุดเอื้อมสอยเสียแล้วแก้วยาใจ
แว่วไก่ขันพลันจ้องที่ท้องฟ้า
แสงอุษาเงินทองส่องไศล
หมอกสลัวทั่วเขาลำเนาไพร
หมอกอะไรคลุมจิตดั่งติดกรง
สุดสลัดตัดขาดสวาทรัก
ยิ่งหน่วงหนักรักรุมให้ลุ่มหลง
ถ่อสังขารเหม่อฝันอย่างมั่นคง
ฝืนดำรงทรงกายมั่นหมายคิด
จะกี่ปีกี่เดือนจนเลือนเลอะ
น้ำตาเกรอะเปรอะเปื้อนใครเบือนบิด
ร่างโทรมๆแน่นิ่งทิ้งชีวิต
ท่องดวงจิตสู่แคว้น...แดนไร้รัก
(๒๙ มิถุนายน ๒๕๓๐)